บทที่17 งั้นคืนนี้ฉันจะอยู่ที่นี่
ไป๋เสว่เอ๋อร์เดินทางมาถึงคฤหาสน์ของเผยลี่เชิน คนรับใช้พาเธอไปยังหน้าห้องสมุด
ไป๋เสว่เอ๋อร์เงื้อมือขึ้นก่อนจะเคาะและเปิดประตูเข้าไป หน้าตาไม่สู้ดีนัก
เธอไม่รู้ว่าเผยลี่เชินรู้วิธีการของเธอขนาดไหน แต่ความรู้สึกที่ได้สัมผัสดวงตาของบุคคลอื่นนั้นไม่ดีเลย แต่คำพูดและการกระทำแบบนี้ไม่ดีเลยในสายตาของอีกคน
เผยลี่เชินก้าวช่วงเท้ายาวเข้าไปนั่งยังโซฟา มือหนามีแท็บเลตไว้ในมือ ทันทีที่ได้ยินเสียง ก็วางสิ่งในมือลงข้างตัว ก่อนจะลอบยิ้มมองจ้องไปยังไป๋เสว่เอ๋อร์
“ไป๋เสว่เอ๋อร์ ทั้งบ่ายนี่เธอตระเวนไปกว่าสี่ธนาคารและถูกปฏิเสธเสียหมดนี่รู้สึกอย่างไรบ้าง?”
ทันทีที่ได้ยินคำพูดนั้นสีหน้าเธอก็ดูย่ำแย่ลง “ประธานเผยเรียกฉันมา เพื่อที่จะมาเยาะเย้ยงั้นเหรอคะ?”
เธอเน้นคำว่า "ประธานเผย" อย่างจงใจซึ่งแน่นอนว่าตั้งใจอย่างชัดเจน
ดวงตาของเผยลี่เชินหลุบลง เขาสามารถมองเห็นอารมณ์เล็ก ๆ น้อย ๆ ของผู้หญิงตรงหน้า เขาตบโซฟาข้างเขาและพูดอย่างเงียบ ๆ ว่า "มานี่"
ไป๋เสว่เอ๋อร์ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่ในที่สุดก็ไม่สามารถต้านทานการยับยั้งที่จับต้องไม่ได้ของชายตรงหน้า เธอก้าวไปข้างหน้าแล้วนั่งลง แต่จงใจเว้นช่องว่างให้ห่างจากเผยลี่เชิน
“ฉันจัดการเธอได้ จะท้าฉันงั้นเหรอ?” เผยลี่เชินขมวดคิ้ว “มานี่!”
ไป๋เสว่เอ๋อร์ขยับไปนั่งใกล้ เธอจ้องมองไปที่คนด้านข้างก่อนจะพูดขึ้น "ฉันคิดว่าเรามีบางสิ่งที่จะต้องพูดให้ชัดเจน เราทำข้อตกลงกัน แต่มันไม่ได้หมายความว่าแต่ไม่ได้หมายความว่าฉันได้สูญเสียอิสรภาพโดยสิ้นเชิง การจับตาดูฉันแบบนี้ฉันทนไม่ไหว "
เป่ยหลี่เฉินหัวเราะพลางก่อนจะเอ่ยถามออกไป "ไป๋เสว่เอ๋อร์เธอจะบอกว่าฉันวุ่นวายมากเกินไปงั้นเหรอ?? ฉันจะได้ประโยชน์อะไรจากการเฝ้าดูคุณเหรอ? หืม?”
“งั้นคุณรู้ได้ยังไง...”
“ฉันก็ไม่ได้อยากรู้นักหรอก แต่โทรศัพท์ที่ธนาคารโทรมาแจ้งฉัน ต่อให้ไม่อยากรู้ก็ยากที่ปฏิเสธ”
ไป๋เสว่เอ๋อร์รับฟังแต่ไม่ได้ตอบอะไรกลับไป คิ้วขยับแต่ไม่ได้ขมวดกันแน่น
เผยลี่เชินเอนหลังพิงพนักโซฟาก่อนจะเอ่ยต่อ “แล้วเธอรู้ไหมว่าฉันเรียกเธอมาทำอะไร?”
“หญิงสาวเงียบไม่ได้ตอบ”
ข้อตกลงของเรามันเริ่มแล้ว ถ้าต้องการเงินก็แค่มาบอกฉัน
แม้ว่าเผยลี่เชินจะไม่พูดอย่างตรงไปตรงมา แต่ไป๋เสว่เอ๋อร์เข้าใจความหมายของคำพูด เป็นความจริงที่ว่าตราบใดที่เธอสามารถทำให้เผยลี่เชินพอใจเงินก็ไม่ใช่ปัญหา
แต่สุดท้ายแล้วเธอไม่ได้เป็นผู้หญิงที่ล่องลอยไปมาระหว่างดอกไม้ตามธรรมชาติเธอไม่สามารถเปลี่ยนสถานะของเธอได้ในทันที
สายตาที่อีกคนจ้องมองมา ทำเอาลำคอของหญิงสาวแห้งผาก เธอหายใจเข้าลึกก่อนจะเรียกความกล้าหาญออกมาพาร่างส่วนบนของเธอไปพิงซบกับชายหนุ่ม “งั้นคืนนี้ ฉันจะอยู่ที่นี่...”
ทันทีที่พูดออกมา หน้าเธอก็ขึ้นสีแดงก่ำเสียแทบจะทันที เธอไม่ใช่หญิงสาวที่โชกโชน เพราะแค่คำพูดตัวเองเธอก็เขินเสียจนหน้าแดงแล้ว
เผยลี่เชินเมื่อเห็นหูที่แดงของเธอก็ยกรอยยิ้มขึ้น
มือของเขาโอบรอบเอวของผู้หญิงและกดเธอให้แนบกับตัวเองมากยิ่งขึ้น ทั้งดวงตาของชายหนุ่มก็แสดงออกถึงความต้องการออกมาและไม่ลืมยกยิ้ม "จะรอถึงคืนนี้ทำไม?"
ทันทีที่พูดจบเผยลี่เชินก็หมุนตัวกดร่างหญิงสาวให้อยู่ใต้อาณัติทันที
หลังจากผ่านไปกว่าหนึ่งชั่วโมง ไป๋เสว่เอ๋อร์ที่พึ่งอาบน้ำเสร็จ เธอออกจากห้องน้ำมาก็เห็นเผยลี่เชินกำลังจ้องมองกระเป๋าที่เปิดออกของเธอ ข้างในเป็นหนังสือธุรกิจ เธอเพิ่งหยิบอะไรบางอย่างและลืมดึงซิปรูดปิด ดีหน่อยที่มันเปิดแค่มุมหนึ่ง
ดูเหมือนว่าเผยลี่เชินจะให้ความสนใจมาก เขาหยิบหนังสือขึ้นมาแล้วพลิกมันดู สายตาราวกับได้ของเล่นชิ้นใหม่ “ของเธอเหรอ?”
ไป๋เสว่เอ๋อร์ไม่ตอบ ท่าทางเพิกเฉย
ในวันนั้นหลังจากที่เธอได้เรียนรู้จากเผยลี่เชินว่าพ่อของเธอเคยพูดว่าเธอไม่มีความคิดทางธุรกิจ เธอรู้สึกราวกับโดนตีแสกหน้า เพราะตระกูลไป๋เติบโตได้ด้วยการทำธุรกิจ แต่เธอ ในฐานะลูกสาวคนเดียวของตระกูล วันๆก็เรียนแต่เปียโน วาดรูป แล้วก็มารยาท คณะที่เรียนเมื่อมหาวิทยาลัยก็คือพวกภาษารองซึ่งไม่มีความข้องเกี่ยวกับการบริหารธุรกิจเสียอย่างใด ตั้งแต่ที่พ่อของเธอถูกจับไป การดูแลไป๋ซื่อก็ถูกแบกไว้บนไหล่ เธอถึงรู้ว่าเธอบกพร่องในเรื่องธุรกิจอย่างชัดเจน
ดวงตาดำลึกที่ยากจะคาดเดานั่น ทำเอาเธอเปิดตาเปิดปากแต่กลับไม่รู้จะเอ่ยอะไรออกมา
เธอไม่มีเหตุผลอะไรที่จะปฏิเสธเขา เธอลังเลไปครู่เดียวก่อนจะตอบตกลง “งั้นฉันก็จะอยู่”
เมื่อได้ยินหญิงสาวเอ่ย เผยลี่เชินแสดงสีหน้าจริงจังออกมาเพียงครู่นึง ก่อนจะยืดลำตัวขึ้นจ้องมองไป๋เสว่เอ๋อร์โดยไม่พูดอะไรต่ออีก
คนโดนจ้องสุดท้ายก็ทนไม่ไหวเอ่ยถามไป “เป็นอะไรไป?”
“ไป๋เสว่เอ๋อร์ เธอต้องเรียนรู้ที่จะปฏิเสธ รวมไปถึงปฏิเสธฉันด้วย” เสียงของเผ่ยลี่เชินเย็นเฉียบเสียจนไม่ไหว “แม้ว่าจะมีการทำธุรกรรมการเงินระหว่างเรา แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องประนีประนอม นี่เป็นเรื่องจริงในชีวิตโดยเฉพาะเรื่องการค้า”
หัวใจของไป๋เสว่เอ๋อร์สั่น ความรู้สึกลึกลับที่เกิดขึ้นกับหัวใจดวงเล็กนี้ เธอมองเห็นนัยน์ตาดำลึกนั่น หญิงสาวพยักหน้าเบาๆตอบกลับ “ฉันเข้าใจแล้ว”
ทันทีที่ออกมาจากบ้านอีกคน สมองของไป๋เสว่เอ๋อร์ย้อนไปถึงที่เผยลี่เชิน น้ำเสียงจริงจังนั่น มันเต็มไปด้วยเสน่ห์ล้นเหลือ
ใช่เธอไม่ควรคิดว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาเป็นข้อตกลงที่สกปรก และแน่นอนเธอจะไม่สูญเสียความพยายามครั้งสุดท้ายของตัวเอง ตั้งแต่วันที่เธอได้พบกับเผยลี่เชินที่ประตูบ้านของเผยอี้ เขาเป็นคนแรกที่เธอคิดถึงเวลาเกิดอะไรขึ้น ไม่ว่าเธอจะตกลงมาสูงเท่าไหร่ เธอก็จะไม่มีวันเสียความพยายามครั้งสุดท้ายของเธอไป
ในเวลานั้น ไป๋เสว่เอ๋อร์ขอบคุณที่ทำให้เธอพบกับเผยลี่เชิน ในช่วงเวลาสั้น ๆนี้เธอเรียนรู้มากในหลายๆเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องสำคัญที่สุดอย่างการยอมแพ้รวมไปถึงการที่จะยืนหยัด
เรื่องบางเรื่องก็ควรปล่อย แต่เรื่องบางเรื่องก็จำต้องพยายามยืนหยัดไว้
อาการเหม่อลอยถูกตัดจบเมื่อเลขาส้งโทรมา
“ประธานคะ เราได้รับเงินแล้ว! ประธานไป๋ไปเอาเงินมาจากไหนกันคะ นี่บวกกับเงินทุนส่วนที่เหลือของบริษัทก็ยังเพียงพอสำหรับการจ่ายเงินชดเชยด้วย!”
ไป๋เสว่เอ๋อร์ถือโทรศัพท์แน่นิ่ง เธอหันกลับไปมองคฤหาสน์ที่เธอพึ่งจะจากออกมาไม่ไกล ใจสั่นไหวรุนแรง
เงินพวกนั้น เธอรู้อย่างเต็มอกเลยว่ามันมาจากไหน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญาร้ายของประธานปีศาจ
มีตอนต่อไปไหม...