ตอนที่ 96 พรุ่งนี้กลับไปที่บ้านของผม
ไป๋เสว่เอ๋อร์ยืนอึ้งไปชั่วครู่ หลังจากนั้นเธอก็รีบตอบกลับเขาไปในทันที “ไม่เป็นค่ะ เมื่อกี้ฉันก็แค่พูดไปอย่างนั้น”
เผยลี่เชินผลักกระติกเก็บความร้อนที่อยู่ข้างหน้าไปด้านข้าง และหยิบเอกสารขึ้นมาอ่าน “อืม วันนี้พอคุณกลับไปแล้วก็ไปให้ป้าจางช่วยสอนก็แล้วกัน”
“คะ”
เธอแค่เล่นละครตบตากับเขาเท่านั้น ทำไมสุดท้ายจะต้องเรียนทำซุปไก่ตุ๋นด้วยล่ะ
“ไม่อยากเรียนงั้นเหรอ” เผยลี่เชินเงยหน้ามองเธอและมองเธอด้วยสายตาลึกซึ้ง
“เปล่าค่ะ” ไป๋เสว่เอ๋อร์ตอบ และอาศัยโอกาสนี้เพื่อเปลี่ยนเรื่องคุย “ท่านประธานคะ จากการที่ฉันได้ไปตรวจสอบฝ่ายการตลาดในครั้งนี้ ฉันรู้สึกว่ามีปัญหาเกิดขึ้นในฝ่ายการตลาดไม่น้อยทีเดียวค่ะ เช่น ไม่ตั้งใจทำงาน หรือปัญหาเรื่องการแต่งกายค่ะ ”
เมื่อเผยลี่เชินได้ยินดังนั้น สีหน้าของเขาก็จริงจังขึ้นมากทีเดียว “อืม ผมทราบแล้ว”
หลังจากเลิกงานแล้ว ไป๋เสว่เอ๋อร์มาถึงยังที่จอดรถใต้ดิน ขณะที่เธอเปิดประตูและกำลังจะขึ้นรถ เธอก็เหลือบไปเห็นกระติกเก็บความร้อนวางไว้อยู่ภายในรถยนต์ นั่นคือกระติกเก็บความร้อนอันเดียวกับที่เหอหย่าหานใส่ซุปมาให้เผยลี่เชิน
ไป๋เสว่เอ๋อร์มองดูอยู่หลายครั้ง เธอเริ่มรู้สึกอึดอัดขึ้นมาเล็กน้อย
เมื่อครู่ตอนที่อยู่ในห้องทำงาน เขายังลากเธอให้เข้ามาร่วมเล่นละครตบตาคุณหนูเหอ แต่ตอนนี้กลับนำกระติกเก็บความร้อนของเธออันนั้นกลับมาด้วยเสียได้
เผยลี่เชินสังเกตเห็นสายตาของไป๋เสว่เอ๋อร์ เขาจึงเอ่ยปากถามเธอ “คุณรู้ไหมว่าผมกับเหอหย่าหานรู้จักกันมานานเท่าไรแล้ว”
ไป๋เสว่เอ๋อร์ขมวดคิ้ว “นานเท่าไรคะ”
“8 ปี”
เมื่อไป๋เสว่เอ๋อร์ได้ยินดังนั้น ความรู้สึกอึดอัดไม่สบายใจเมื่อครู่กลับยิ่งรุนแรงมากขึ้น แต่ถึงอย่างนั้น เธอก็เก็บอารมณ์และสงบนิ่งไว้ราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น “คนรักสมัยเด็กเหรอคะ”
“ไม่ใช่หรอก” เผยลี่เชินโพล่งออกมา “เธอเป็นลูกสาวของเพื่อนคุณพ่อผมที่ร่วมต่อสู้ในสงครามมาด้วยกัน พวกเราสองครอบครัวไปมาหาสู่กันบ่อยครั้ง พวกเราก็เลยได้มีโอกาสรู้จักกัน”
ไป๋เสว่เอ๋อร์โพล่งสวนตอบ “ฉันรู้สึกว่าคุณไม่ได้รู้สึกพิเศษอะไรกับเธอ ดูไม่เหมือนคนที่รู้จักกันมาแล้วแปดปีเลย”
เผยลี่เชินหัวเราะเบาๆ เขาไม่พูดอะไร
เขากับเหอหย่าหานรู้จักกันมานานถึงแปดปีแล้ว แถมเหอหย่าหานยังทำทุกวิถีทางเพื่อไล่ตามเขาอยู่ถึงสี่ปี ถ้าเกิดเธอมองว่าเขาเป็นแค่เพื่อนคนหนึ่งเท่านั้น เขาก็คงไม่เมินเฉยเย็นชากับเธอแบบนี้ แต่ทว่าเธอนั้นยังยื้อต่อไป แม้จะถูกเมินเฉยมาตลอดถึงสี่ปีก็ไม่ยอมเลิกรา
เมื่อไป๋เสว่เอ๋อร์เห็นว่าเขานิ่งเงียบ สายตาของเธอก็มองตรงไปที่กระติกเก็บความร้อนที่วางอยู่ที่นั่งแถวหน้า พร้อมกับหยั่งเชิงถามเขา “หรือว่าคุณแอบซ่อนความรู้สึกที่มีต่อเธอ เก็บเอาไว้ที่ก้นบึ้งของหัวใจล่ะ เพื่อที่คุณจะได้ปฏิเสธเธอต่อหน้าได้ แต่ในความเป็นจริงแล้ว คุณกลับเก็บรักษากระติกเก็บความร้อนของเธอเอาไว้โดยไม่ให้ใครรู้”
เมื่อเผยลี่เชินได้ยินดังนั้น ครู่ต่อมาเขาก็หัวเราะลั่น “ไป๋เสว่เอ๋อร์ คุณจินตนาการได้ลึกล้ำมาก”
“ถ้าเกิดผมไม่คืนกระติกเก็บความร้อนนี้ให้กับเธอ ผมกลัวว่าเธอจะต้องมาขอมันคืนที่บริษัทอีก” เขาเพียงแต่ไม่อยากเสียเวลาการทำงานไปกับเรื่องของเหอหย่าหานก็เท่านั้น
“โอ้” ไป๋เสว่เอ๋อร์ตอบรับอย่างขอไปที จากนั้นเธอก็หันศีรษะมองออกไปทางนอกหน้าต่าง
เมื่อสังเกตเห็นว่าไป๋เสว่เอ๋อร์ทำตัวแปลกไป เผยลี่เชินจึงตัดสินใจทำอะไรบางอย่าง เขาวางแท็บเล็ตที่อยู่ในมือ และมองไปที่หญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างๆ เขา
แสงไฟจากถนนสาดเข้ามาภายในตัวรถอยู่บ่อยครั้ง มันสาดส่องกระทบกับตัวของเธอ สว่างและมืดสลับกัน ทำให้ตัวเธอนั้นดูเล็กลงไปถนัดตา
เขารู้สึกอยากที่จะคว้าตัวเธอเข้ามากอดอย่างแปลกประหลาด แต่เมื่อนึกถึงบาดแผลที่ขาของเธอแล้ว เขาก็ทำได้เพียงเก็บอารมณ์นี้เอาไว้เท่านั้น
ไป๋เสว่เอ๋อร์รู้สึกถึงแรงดึง เมื่อเธอหันศีรษะกลับมาก็ต้องปะทะเข้ากับสายตาของเผยลี่เชิน “ทำอะไรน่ะ...”
ขณะที่เธอกำลังพูดอยู่นั้น ร่างกายส่วนบนกลับถูกชายหนุ่มดึงเข้าไปกอดเสียแล้ว เขากอดที่บริเวณเอวของเธอเอาไว้แน่น จนเธอไม่สามารถสลัดออกได้
เมื่อเธอเห็นรอยยิ้มที่ไม่รู้จักปรากฏขึ้นในดวงตาของเขา ไป๋เสว่เอ๋อร์ก็รู้สึกประหม่าเล็กน้อย หลังจากที่เขากอดเธอไว้แน่นสักครู่ เขาก็คลายมือออก และใช้นิ้วหัวแม่มือค่อยๆ ปัดปลายจมูกของเธออย่างแผ่วเบา “คุณหึงอย่างนั้นเหรอ”
“ใครหึงกัน” เมื่อไป๋เสว่เอ๋อร์ได้ยินดังนั้น เธอก็ปฏิเสธในทันที แต่ว่าใบหูของเธอกลับร้อนเล็กน้อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญาร้ายของประธานปีศาจ
มีตอนต่อไปไหม...