บทที่ 111 ช่างเถอะ ไม่ถือสาหาความกับคนเมา
“ฮ่าๆๆๆ”
ในห้อง ชั่วขณะหนึ่งเสียงหัวเราะเยาะของหลายๆ คนดังขึ้นอย่างไม่ปกปิด
ฉินฉู่ปีนขึ้นมาจากพื้นด้วยความหงุดหงิด “หัวเราะอะไรกัน ถ้าพวกยายเก่งพวกนาย ไปพยุงเขาสิ”
เสียงหัวเราะขาดหายไปอย่างฉับพลัน ในห้องเงียบลงแม้แต่เสียงใบไม้ร่วงยังสามารถได้ยิน
ถึงแม้โห้หลีเฉินจะเมาแล้ว แต่ยังมีความดุร้ายอยู่รอบตัว ยังขยับมือต่อยคนได้ ใครจะบ้ากล้าเข้าไปพยุงเขากัน
ทว่าพวกเขายิ่งไม่กล้าทิ้งโห้หลีเฉินเอาไว้ในห้องแล้วไปแบบนี้
ช่วงเวลานี้ หลายๆ คนมองหน้ากันไปๆ มาๆ ต่างหน้าตามึนงง ไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรดี
“ไม่อย่างนั้นหาผู้หญิงมาประคองหลีเฉินไหม?” มีคนเสนอ
“ถึงแม้จะประคองหลีเฉินไปแล้ว พรุ่งนี้นายก็โดนหลีเฉินตีตาย” อีกคนหยอกเย้า ใครก็รู้ทั้งนั้น ความจริงโห้หลีเฉินไม่ชอบสัมผัสกับผู้หญิงมากที่สุด
เหมือนกับที่มาสังสรรค์กับพวกเขาก็จืดชืดมาก ไม่ยอมเรียกผู้หญิงเข้ามาสนุกด้วย
ฉินฉู่ดวงตาเป็นประกาย “ผู้หญิงคนอื่นไม่ได้แน่นอน แต่ว่าเย้นหว่านได้”
โดยเฉพาะอย่างยิ่งดื่มจนเมาแล้วคอยดูแล ไม่ใช่โอกาสดีๆ ที่ทั้งสองคนจะได้สวีทตามลำพังหรอกเหรอ? เขาก็ช่างมีพรสวรรค์อย่างยิ่ง
ฉินฉู่รีบโทรศัพท์หาเย้นหว่าน
เย้นหว่านเข้านอนไปแล้ว ถูกเสียงมือถือดังอย่างกับเร่งมากปลุกให้ตื่น
เธอรับโทรศัพท์ ดวงตาไม่ลืมขึ้น
“ใคร? มีธุระอะไร?”
“พี่สะใภ้ ผมเอง ฉินฉู่ หลีเฉินดื่มเหล้าเมาอยู่ที่ผับ คุณรีบมาหน่อย พาเขากลับไปบ้าน”
“ไม่ไป”
เย้นหว่านปฏิเสธแบบไม่คิด ตอนนี้เธอไม่อยากเห็นโห้หลีเฉินสักนิดเดียว
หลังจากนิ่งไป เธอยังเสริมไปอีกประโยค “ถ้าพวกคุณขับรถไม่ได้ ก็เรียกคนมาขับแทน ตอนนี้แอปในมือถือใช้งานง่ายมาก”
ครั้งก่อนพวกเขาก็เมาเหล้ากันแบบนี้ ถึงต้องให้เธอไปส่งคน
เพราะเหตุนี้ หลังจากเย้นหว่านส่งโห้หลีเฉินกลับไป แถมยังค้างอยู่ที่บ้านโห้หลีเฉินอย่างลึกลับ ถูกเอาเปรียบไปไม่น้อย
เรื่องแบบนี้ เธอโง่เหรอถึงต้องวิ่งไปจากที่บ้านกลางดึก
“แต่ว่าครั้งนี้หลีเฉินเมามากจริงๆ ยืนไม่ขึ้นเลย เขาเป็นคนมีเงินที่สุดในเมืองหนานนะ ถ้าโดนคนแปลกหน้าคิดไม่ดี ลักพาตัวเขาไปจะทำยังไง? เรื่องพวกนี้ สมัยก่อนก็ไม่ใช่ไม่เคยเกิดขึ้น”
เย้นหว่าน “……”
“คุณโทรศัพท์ไปเรียกเว่ยชีมารับคนก็ได้”
“เดิมทีผมก็คิดแบบนี้ แต่เมื่อกี้คุณย่าโห้โทรศัพท์เข้ามา ตอนนี้รู้ว่าหลีเฉินเมาแล้ว ต้องเป็นห่วงสถานการณ์ของเขามากแน่ ถ้ารู้ว่าเขาเมาเละเทะ คุณก็ไม่มารับ จะสงสัยความสัมพันธ์ของพวกคุณเกิดปัญหาอะไรหรือเปล่า?”
แวบหนึ่งดวงตาที่ปิดอยู่ของเย้นหว่านก็ลืมขึ้นแล้ว
ตอนนี้เธอยังเป็นคู่หมั้นในนามของโห้หลีเฉินอยู่ ก่อนหน้าที่จะยกเลิกการหมั้น อย่างไรก็ไม่สามารถให้คุณย่าโห้คิดมากได้
แต่ถ้าเธอวิ่งไปรับโห้หลีเฉินกลางดึก ภายในใจเธอยังกลัดกลุ้มอยู่มาก
“รอเดี๋ยว ฉันจะรีบไป”
เย้นหว่านโมโหวางสายโทรศัพท์ ลุกขึ้นใส่เสื้อผ้าอย่างจำยอม
รอตอนที่เธอมาถึงผับอีผิ่นเทียนเสี้ย ก็ตีสามเข้าไปแล้ว
เย้นหว่านกระชับเสื้อคลุมตัวน้อยของตนเอง ขยี้ตาที่ยังไม่ตื่น โชคดีที่เธอไม่ได้แต่งงานกับโห้หลีเฉินจริงๆ ไม่อย่างนั้นต่อไปนอนหลับไปครึ่งคืน ต้องลุกขึ้นมาเก็บคนไหม?
โชคดีๆ
คิดแบบนี้ ในใจเธอสบายขึ้นมามาก เดินไปห้องที่โห้หลีเฉินอยู่กัน
มาถึงที่ห้อง เธอเปิดประตูออก มองเห็นขวดเหล้ากองโตนั้น
ขมับเธอกระตุกเลยทีเดียว นี่ดื่มไปมากเท่าไร?
“พี่สะใภ้ ในพี่สุดก็มาแล้ว ถ้าคุณยังไม่มาอีก พวกเรากลัวว่าจะค้างคืนที่นี่ไปอย่างลำบากกันหมด”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...