ที่แท้ เด็กคนนี้ได้จดจำหน้าตาของแม่ไว้ในใจแล้ว มีแค่หน้าตานี้ ถึงจะเป็นหม่ามี๊ที่เธอยอมรับ
ในใจของเย้นหว่านเหมือนมีความสุขไหลอยู่ในตัวอย่างอุ่นๆ
ตาของเธอแดง กอดกับลูกสาวไว้ คอยสัมผัสความรักที่หายไปนานถึง 1 ปีกว่า
โห้หลีเฉินมองพวกเธอไว้ สายตาที่อ่อนโยนนั้นเหมือนจะร้องไห้ออกมาแล้ว ผู้หญิงสองคนนี้ ก็คือของล้ำค่าที่เขาต้องรักษาไว้ในชาตินี้
เย้นหว่านและแรบบิทร้องไห้จนตาบวมกันหมด ถึงได้สะอื้นและหยุดลง
เย้นหว่านอุ้มแรบบิทไปนอนบนเตียง
โห้หลีเฉินกอดเธอไว้ เธอกอดแรบบิทไว้ พวกเธอทั้งสองคน ถูกแขนยาวๆ ของโห้หลีเฉินกอดไว้ตรงกลาง
เย้นหว่านรู้สึกว่าเธอเป็นคนที่มีความสุขที่สุดในโลกเลย
"ที่รัก" ปากของโห้หลีเฉินพิงไว้ที่ข้างหูของเย้นหว่าน พูดเบาๆ ว่า "ลูกชายของพวกเราชื่ออะไรดี?"
พูดถึงเด็กคนนั้น เย้นหว่านเต็มไปด้วยความหลงใหล
เธอพูด "ชื่อโห้หยูเซิง ชื่อเล่นเนี่ยนเนี่ยน"(หยูเซิงแปลว่าในชีวิตที่เหลือ เนี่ยนเนี่ยนแปลว่าคิดถึง)
จะว่าไป ชื่อเย่ซือซือก็เพราะเหมือนกัน ซือซือเนี่ยนเนี่ยน เป็นความรักและความคิดถึงของสองแม่ลูกที่มีต่อสองพ่อลูก
"ชื่อเพราะมาก" โห้หลีเฉินชมอย่างไม่ตำหนิแม้แต่น้อย
โห้หยูเซิง ลูกชายของเขา
แรบบิทนอนอยู่ในอ้อมกอดของเย้นหว่าน กะพริบตา "แรบบิทแซนด์วิชเองก็อยากมีชื่อที่น่าฟังเหมือนกับพี่ชาย"
เย้นหว่านอึ้งไปเลย หันไปมองโห้หลีเฉินอย่างประหลาดใจ
"นายยังไม่ได้ตั้งชื่อให้เธอหรอ?"
เรียกว่าแรบบิทมาโดยตลอด เธออยู่ตระกูลหยูก็ถามไม่สะดวก ก็เลยไม่ได้คิด ผู้ชายเลี้ยงเด็กนี่ไม่ได้เรื่องถึงขั้นนี้เลยหรอ ขนาดชื่อก็ไม่มี
ในตาของโห้หลีเฉินรู้สึกผิดเล็กน้อย "ชื่อของแรบบิท อยากรอให้เธอมาตั้ง"
หรอ?
เย้นหว่านไม่ค่อยเชื่อ แต่มองแรบบิท กลับเต็มไปด้วยแสงสว่าง
"ตอนนั้นที่ฉันคิดชื่อให้หยูเซิง ก็ได้คิดชื่อของลูกสาวไปด้วย คิดว่าต่อไปถ้ามีโอกาสได้ตั้งชื่อให้เธอก็ดี นายกลับให้โอกาสนี้กับฉัน"
เย้นหว่านจับหน้าน้อยๆ ของแรบบิทไว้ แล้วพูดอย่างอ่อนโยนว่า : "ช่วงเวลาดีๆ ชีวิตที่เหลือเข้าใจกัน ลูกชื่อโห้จือซิน ชอบไหม?"
"โห้จือซิน"
แรบบิทได้อ่านชื่อตาม จากนั้นก็ได้พยักหน้าอย่างชอบใจ "หนูชอบมาก เย้ ต่อไปหนูก็ชื่อโห้จือซินแล้ว"
โห้หลีเฉินมองเย้นหว่านด้วยสายตาที่หลงใหล ยื่นมือไปขยี้หัวของลูกสาวตัวเอง
"โห้จือซิน เพราะดี"
แรบบิทได้ชื่อที่ชอบแล้ว ก็ได้สนิทกับเย้นหว่านเข้าไปใหญ่ มือน้อยๆ ของเธอได้กอดเธอไว้ แล้วพูดด้วยเสียงที่อ่อนนุ่มว่า : "หม่ามี๊ เมื่อไหร่หนูถึงจะได้เจอพี่ชายหรอ?หนูอยากเจอพี่ชายมากเลย เขาโตเท่าหนูใช่ไหม"
อาจจะเป็นเพราะว่าเชื้อสายเดียวกัน หรืออาจจะเป็นเพราะว่าเด็กๆ ชอบคนรุ่นเดียวกัน แรบบิทมีความอยากรู้อยากเห็นและคาดหวังต่อพี่ชายของตัวเองมาก แต่ว่า........
เย้นหว่านใต้ตามืด จากนั้นก็ได้พูดยิ้มแล้วพูดกับเธอว่า : "รออีกไม่กี่วัน รอให้พวกเราจัดการเรื่องที่นี่เสร็จแล้ว หม่ามี๊ก็จะพาหนูกลับไปเจอพี่ชายที่บ้านเอง"
"ได้คะ"
แรบบิทพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง ตั้งตารอเป็นอย่างมาก
รอยยิ้มบนหน้าของโห้หลีเฉินกลับหายไปเล็กน้อย เขามองจากการแสดงออกของสีหน้าที่ละเอียดอ่อนของเย้นหว่าน เห็นปัญหาออกเล็กน้อย
เหมือนว่าสถานการณ์ของโห้หยูเซิง ไม่ได้ดีขนาดนั้น
แต่ว่าตอนนี้แรบบิทอยู่ที่นี่ ถึงแม้ว่าในใจจะสงสัยหนักมาก แต่ก็ไม่ดีถามออกมา
นอนอยู่ที่อ้อมกอดของสามี กอดลูกสาวสุดที่รักไว้ คืนนี้เย้นหว่านนอนหลับฝันดี สบายมาก
เธอคิดว่าการนอนครั้งนี้จะได้นอนตื่นสายซะอีก เพราะเธอไม่ได้นอนอย่างสบายใจแบบนี้มานานมากแล้ว ต้องการพักผ่อนดีๆ
คิดไม่ถึงว่า ตอนที่ฟ้าพึ่งสว่าง ก็ถูกเสียงเคาะประตูที่รีบร้อนทำให้ตกใจตื่น
"เสี่ยวหว่าน ตื่นมากินข้าวเช้าได้แล้ว"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...