ทั้งสามคนจึงถือของมากมายกลับบ้านไปแบบนี้
คุณป้าช่วยพวกเขาถือของแล้วเดินเข้าประตูใหญ่ไป เมื่อเห็นสไตล์การตกแต่งของที่นี่ก็ถึงกับตะลึงตาค้างอยู่ตรงนั้น ใบหน้าไม่กล้ามองไปตรง ๆ
มุมปากเธอยกขึ้น "วัยรุ่นจ้ะ นี่เป็นสไตล์การชอบแบบไหนกัน ช่างไม่เหมือนใครเลยจริง ๆ"
โลกของวัยรุ่นนี่เธอตามไม่ทันจริง ๆ เข้าไม่ถึงการตกแต่ง เดินเข้ามาก็รู้สึกเหมือนกับว่ากำลังเดินเข้าสู่ขุมนรก วังเวงมาก
ป่ายฉีเห็นด้วยอย่างยิ่ง ได้แต่ยักไหล่อย่างจนปัญญา "ไม่รู้จะทำอย่างไรครับ เธอชอบ"
คุณป้าเข้าใจทันที "ที่แท้ก็เป็นอย่างนี้นี่เอง เสี่ยวป่ายนี่ช่างตามใจภรรยาจังเลยนะ ภรรยาว่าอย่างไรก็ว่าตามนั้น แม้แต่การตกแต่งก็เช่นกัน ช่างเป็นผู้ชายที่ดีจริง ๆ"
ภรรยา?
ป่ายฉีกับหานจื่อตกใจกับคำนี้ และต่างคนต่างสบตากันด้วยความรังเกียจ
จึงทำการชี้แจงความสัมพันธ์ "เธอไม่ใช้ภรรยาผมครับ"
"หนูไม่ใช่ภรรยาเขาค่ะ"
"พวกเราไม่ได้เป็นอะไรกันครับ"
พูดจบ สีหน้าที่เรียบเฉยของหานจื่อก็นำถุงขนาดใหญ่โยนลงบนโต๊ะ
คุณป้ายิ้มแล้วกล่าวถามขึ้น :"อย่างนั้นการจัดเก็บของเข้าที่ก็เป็นไอ้หนูทำเหรอ ตอนนี้มีหลายครอบครัวต่างเป็นแบบนี้ ผู้หญิงมีหน้าที่ดูแลความสวยความงาม เรื่องงานบ้านปล่อยให้ผู้ชายเป็นคนทำ"
ป่ายฉีมองดูหานจื่อแล้วส่ายหน้าหนักแน่น
"ไม่ ให้เธอเป็นคนทำ"
หานจื่อที่กำลังเดินเข้าไปเท้าได้หยุดชะงักขึ้น มองป่ายฉีอย่างไม่คาดคิด
ให้เธอทำอะไร จัดเก็บของที่ยุ่งเหยิงเหล่านี้เหรอ
เธอจะทำได้อย่างไร! ฆ่าเธอเสียให้ตายจะดีกว่า
ใบหน้าของป่ายฉีผุดรอยยิ้มจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ ค่อยๆเดินตรงมาที่ด้านหน้าของหานจื่อ แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เธอไม่สามารถปฏิเสธได้:
"นี่ก็เป็นหนึ่งในการทำวิจัย"
หานจื่อ:"......" บีบกรอบประตูแหลกด้วยมือเปล่า
คุณป้าตกใจเมื่อเห็นภาพนี้ แอบถอนหายใจ แม่สาวคนนี้แรงเยอะมาก
หานจื่อถูกควบคุมจนไม่สามารถปฏิเสธได้ ถูกบังคับจนหมดหนทาง เธอจึงยกถุงพลาสติกขึ้นมาใหม่ แล้วเทของที่อยู่ในนั้นออกมาทั้งหมด จากนั้น......
มองด้วยใบหน้าที่อึ้งตะลึง ไม่รู้ว่าจะจัดเก็บอย่างไรดี
เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าของเหล่านี้นำมาทำอะไร ทำไมต้องเอากลับมาบ้าน
ป่ายฉียิ้มตาหยีให้กับคุณป้า "คุณป้าครับ นี่เป็นครั้งแรกของเธอ เธอจึงทำไม่เป็น คุณป้าช่วยสอนเธอหน่อยได้ไหมครับ สอนเธอว่าต้องทำอย่างไร อะไรควรวางไว้ตรงไหนก็พอครับ"
คุณป้ายิ้มแล้วกล่าวว่า :"เรื่องแบบนี้ง่ายมาก เดี๋ยวป้าช่วยเธอทำ"
พลางพูดคุณป้าพลางจะลงมือทำ
ป่ายฉีนั้นกลับรีบห้ามเธอ "ไม่ต้องครับ ไม่ต้อง ปล่อยให้เธอทำเอง ให้เธอได้เรียนรู้เองถึงจะทำเป็น คุณป้าแค่คอยบอกว่าวางไว้ตรงไหน ทำอย่างไรก็พอแล้วครับ เป็นผู้หญิงก็ต้องเรียนรู้การเป็นผู้ใหญ่ เรียนรู้การมีชีวิต จะมีชีวิตเป็นผู้พิการระดับสิบตลอดไปไม่ได้ ถูกไหมครับ"
พูดประโยคสุดท้ายนั้น ป่ายฉีได้หันไปมองหานจื่อและเต็มไปด้วยการท้าทายดูถูก
สีหน้าของหานจื่อฉับพลันก็เย็นยะเยือก มีดปอกผลไม้ที่ถืออยู่ในมือ ถูกบี้หักงอในทันที
คุณป้า :"......"หญิงสาวคนนี้เป็นผู้หญิงปกติธรรมดาจริงเหรอ ทำไมแรงถึงเยอะขนาดนี้
แล้วกลับมองป่ายฉีชายหนุ่มรูปหล่ออีกครั้ง อยู่กับหญิงสาวคนนี้ จะต้องสู้เธอไม่ได้อย่างแน่นอน วัน ๆจะต้องถูกรังแก
น่าเวทนา
น่าสงสาร
คุณป้ามองป่ายฉีด้วยแววตาที่เห็นอกเห็นใจ จากนั้นก็เริ่มสอนหานจื่อจัดวางสิ่งของเหล่านั้นอย่างอ่อนโยนและเอาใจใส่
ป่ายฉีที่นั่งทานผลไม้อยู่บนโซฟา มุมปากยกขึ้น
แววตาที่เห็นอกเห็นใจเมื่อสักครู่นั้นเกิดอะไรขึ้น เขาเป็นอะไร
หานจื่อถึงแม้ว่าจะไม่ชอบคลุกคลีกับคนอื่น แต่การเรียนรู้นั้นเร็วมาก การเคลื่อนไหวก็กระฉับกระเฉง
ทำตามคำแนะนำของคุณป้า ไม่นานก็นำของทั้งหมดวางเข้าที่
มองดูห้องครัวที่เดิมทีว่างเปล่า ตอนนี้ปรากฏเครื่องไม้เรื่องครัวต่าง ๆ ยังมีอาหารที่เต็มอยู่ในตู้เย็น หานจื่อในใจเกิดความรู้สึกแปลกอธิบายไม่ถูก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...