บทที่246 แผนการ บ้านไหนจะแข็งแกร่งกว่ากัน
ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถแย่งบัตรเข้างานมาได้ เย้นหว่านรู้สึกผิดหวังอย่างมาก แต่ว่าไม่ได้นอนทั้งคืนเพื่ออ่านหนังสือที่โห้หลีเฉินเอามาให้
เหมือนกับว่าอ่านตลอดทั้งคืน ก็อ่านจบอย่างที่ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่
วินาทีที่สุดท้ายเธอก็ปิดหนังสือนั้น เธอเหนื่อยจนเกือบจะไม่มีแรง แล้วก็ต้องถอนหายใจอีกครั้งในความเพี้ยนของโห้หลีเฉิน
เช้าตรู่ เย้นหว่านจ้องไปที่ใต้ตาแพนด้าของเธอ หยิบหนังสือ แล้วก็ไปหาโห้หลีเฉินที่ห้องของเขา อยากจะเอาหนังสือไปคืน
“ก๊อกๆๆ ”
เย้นหว่านเคาะอยู่หลายครั้ง แต่ก็ไม่มีใครตอบ
เขาไม่อยู่เหรอ?
เย้นหว่านสงสัย ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เปิดเบอร์ของโห้หลีเฉิน ตอนที่จะกดโทรออกนั้นกลับรู้สึกลังเล
นี่เป็นเบอร์ส่วนตัวของโห้หลีเฉิน เธอแทบจะไม่เคยโทรไปเลย ตอนนี้ความสัมพันธ์ของเธอกับโห้หลีเฉินก็ถือว่าค่อนข้างจะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก พอจะโทรไปก็ค่อนข้างจะอึดอัดเล็กน้อย
สุดท้ายเธอก็ไม่สามารถก้าวข้ามอุปสรรคในหัวใจได้ เย้นหว่านลังเล หลังจากนั้นก็ปัดนิ้วโทรหาเว่ยชีแทน
ทางฝั่งนั้น เว่ยชีรับสายอย่างรวดเร็ว
“คุณเย้น อรุณสวัสดิ์ครับ”
“ผู้ช่วยเว่ย อรุณสวัสดิ์ค่ะ ขอโทษด้วยที่ต้องรับกวนคุณ ขออนุญาตถามหน่อยค่ะว่าตอนนี้คุณโห้อยู่ที่ไหนเหรอ? ”
“ตอนนี้คุณผู้ชายอยู่ที่ห้องเก็บข้อมูลเล็กครับ”
เช้าตรู่ขนาดนี้ ทำไมโห้หลีเฉินถึงไปห้องเก็บข้อมูลเล็ก?
หรือว่าเพราะว่าช่วงนี้เขาสนใจเกี่ยวกับการออกแบบจริงๆ ก็เลยกระตือรือร้นในการอ่านหนังสือขนาดนั้น
มองไปที่หนังสือที่ตัวเองถือมาด้วย เย้นหว่านก็รู้สึกดีอกดีใจ โชคดีที่เมื่อคืนเธออดหลับอดนอนเพื่ออ่านจบ ได้เอามาคืนให้โห้หลีเฉินให้ทันเวลา จะได้ไม่ทำให้เขาล่าช้า
เธอรีบเดินไปทางห้องเก็บข้อมูลเล็กทันที
เพราะว่าทั้งสองทีมถึงจะรวมกันแล้วก็มีแค่ประมาณ20กว่าคน เพราะฉะนั้นปกติคนที่มาอ่านหนังสือห้องเก็บข้อมูลก็ค่อนข้างจะน้อย และห้องเก็บข้อมูลเล็กนั้นคนอื่นก็ไม่มีใครรู้จัก เพราะฉะนั้นคนก็มาเลยมาน้อยขึ้นไปอีก
พอเย้นหว่านเดินเข้ามาในห้องเก็บข้อมูลเล็ก ก็เห็นภาพที่เหมือนกับเมื่อวานตอนเย็นที่เธอออกไปเป๊ะๆ
โห้หลีเฉินนั่งอยู่ด้านข้างโต๊ะเล็ก ในมือถือหนังสืออยู่เล่มหนึ่ง ก้มหน้าอ่าน ดูสูงศักดิ์และสง่างาม ดูเงียบสงบและสวยงาม
เงียบสงบและสวยงามจนทำให้คนอื่นไม่อยากจะรบกวน
พอสังเกตเห็นคนที่ประตู โห้หลีเฉินก็เงยหน้าขึ้นมา มองไปที่เย้นหว่านด้วยสายตาที่ลึกซึ้ง
เมื่อสายตาทั้งสองคู่บรรจบกัน มันเหมือนกับว่าเวลาได้ถูกหยุดลง มีประกายไฟโผล่ขึ้นมาในอากาศ
หัวใจของเย้นหว่านเต้นผิดจังหวะทันที
ทันใดนั้นเธอก็ดึงสติกลับมา หน้าแดงขึ้นมาด้วยความอึดอัด เมื่อกี้เธอมองหน้าโห้หลีเฉินอย่างหลงใหล แสดงความเพี้ยน
ขายหน้าจะตายอยู่แล้ว
เธอหลบตาเขา ถือหนังสือแล้วเดินเข้าไป
“ฉันเอามาคืนให้”
โห้หลีเฉินเลิกคิ้ว รู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นหนังสือเล่มนั้น “เธออ่านจบแล้วเหรอ? ”
“อืม” เย้นหว่านพยักหน้า
โห้หลีเฉินมองไปที่เย้นหว่านเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ มองไปที่ใต้ตาดำๆ ของเธอ เห็นได้ชัดว่าเมื่อคืนเธออดหลับอดนอน ไม่ได้นอนหลับดี
เขาค่อยๆ ขมวดคิ้ว สายตาที่มองเธอนั้นเฉียบแหลมมาก
“กังวลว่าฉันจะอ่านหนังสือต่อไม่ได้ ก็เลยอดหลับอดนอนเพื่ออ่านทั้งคืนแล้วเอามาคืนให้ฉันยังงั้นเหรอ? ”
เพียงประโยคเดียว สามารถบอกความคิดของเย้นหว่านได้อย่างคมกริบ
เย้นหว่านพูดอะไรไม่ออก
เธอยังไม่ทันจะได้โต้ตอบอะไร ก็เห็นว่าโห้หลีเฉินเม้มปาก แล้วก็สรุปอย่างมั่นใจ
“ที่แท้เธอก็แคร์ฉันขนาดนี้เลย”
อะไรนะ?!
เธอรีบมาคืนหนังสือ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับแคร์ไม่แคร์เขาด้วยล่ะ?
เย้นหว่านหน้าอึ้งๆ อาจเป็นไปได้ว่าสมองทำงานช้าลงหลังจากไม่ได้นอน ก็เลยตามแนวของท่านประธานใหญ่ที่ไอคิวสูงอย่างเขาไม่ทัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...