บทที่ 280 แน่นอนว่าชอบ
ในสายโทรศัพท์นั้น เสียงผู้ชายขึ้นๆ ลงๆ อยู่บ้าง แต่ยังคงเรียบนิ่งเย็นชา “พูดให้ชัดเจน”
“คืนนี้ฉันกับพวกเย้นเหวินหนานนัดกันมาเที่ยวที่ผับ ตอนที่พึ่งเข้ามา ก็……”
“เข้าประเด็น”
โห้หลีเฉินขัดจังหวะฉินฉู่ที่พูดอ้อมโลกอย่างไม่อดทน
ฉินฉู่สำลัก อดเบ้ปากไม่ได้ ถึงแม้เสียงของโห้หลีเฉินพอฟังขึ้นมายังดูสุขุมเยือกเย็นขนาดนั้น แต่ว่านี่ไม่ได้เผยหางเสียงที่รีบร้อนออกมาแล้วเหรอ
เขากลัวว่าจะใจร้อนหนักล่ะสิ
ยากที่จะทำให้โห้หลีเฉินรีบร้อนได้สักครั้ง ฉินฉู่อยากตั้งใจยั่วน้ำย่อยของเขาหน่อยจริงๆ แต่คิดดูอีกที เขายังไม่มีความกล้าหาญความบ้าบิ่นนั้นอยู่ โดยเฉพาะโห้หลีเฉินช่างโรคจิตและยังใจแคบด้วย เขาจะหาเรื่องไม่ได้
ฉินฉู่ได้แต่บอกไปอย่างซื่อสัตย์ “คือฉันมองเห็นแชทที่กู้จื่อเฟยคุยกับพี่สะใภ้ พี่สะใภ้พูดเหมือนว่าเธอชอบใครสักคนแล้ว อยากหาวิธียืนยันว่าใช่หรือไม่”
โทรศัพท์ในสายนั้น เสียงของชายหนุ่มแข็งอยู่บ้าง กลับตอบมาเร็วมาก
“คำตอบยืนยันคืออะไร?”
“กู้จื่อเฟยส่งแบบทดสอบความรักให้พี่สะใภ้แล้ว แต่ว่าพี่สะใภ้ยังไม่ได้คำตอบ ฉันก็มองไม่เห็นด้วย”
“คนที่เธออยากทดสอบคือใคร?”
ได้ยินเสียงชายหนุ่มจงใจนิ่งเรียบ ทว่ากลับเผยเสียงที่ประหม่ารีบเร่งอยู่บ้าง ทันใดนั้นฉินฉู่ก็กลัวนิดหน่อย
เขาใช้เสียงที่ต่ำมากบอก “ฉันไม่รู้”
ในสายนั้นไม่มีเสียงแล้ว
ความเงียบเหงาที่แพร่กระจายความเย็นลอยมาจากในโทรศัพท์
ฉินฉู่แค่รู้สึกว่าเหมือนได้รับไอเย็นของโห้หลีเฉินแล้ว แม้แต่ปลายเท้ายังสั่นไปหมด
เขารีบเอ่ยปากเสริมทันที “ถึงแม้จะยังไม่ยืนยัน แต่คนที่พี่สะใภ้ชอบต้องเป็นนายแน่ นายไม่ได้อยู่ที่เมืองเจียงด้วยกันกับเธอเหรอ”
ได้ยินคำพูดนี้ โห้หลีเฉินไม่ได้รับการปลอบใจสักนิด
อยู่ด้วยกันกับเธอที่เมืองเจียง ยังมีฉูรั่วไป๋!
“มีข่าวใหม่ก็บอกฉันด้วย”
โห้หลีเฉินพูดจบ วางสายโทรศัพท์ไป
เขามองนอกหน้าต่างด้วยสายตาอึมครึม ใจที่สงบสุขุมนั้นกลับพลิกคลื่นที่โหมซัดสาดอย่างบ้าคลั่งขึ้นเพราะโทรศัพท์สายนี้
เย้นหว่านจิตใจหวั่นไหวแล้ว เย้นหว่านชอบใครเข้าแล้ว
เป็นเขาเหรอ?
หรือว่าฉูรั่วไป๋?
โห้หลีเฉินมีความมั่นใจมาแต่ไหนแต่ไร แต่ในเวลานี้กลับไม่มีความมั่นใจเท่าไร แม้กระทั่งประหม่ากังวล เดิมทีไม่มีทางใช้ตรรกะที่มีสติปัญญามาวิเคราะห์ ความเป็นไปได้ที่เย้นหว่านจะชอบใครมากที่สุด
อาจจะตรงไปตรงมาที่สุด ก็คือไปถามเธอ
ในเมื่อเธอหวั่นไหวแล้ว งั้นเธอยิ่งรู้ว่าตนเองชอบคือใคร
แต่ถ้าไปถามเธอ โห้หลีเฉินที่แต่ไหนไม่เคยกลัวอะไร กลับรู้สึกใต้เท้าแข็งค้างอยู่บ้าง
เขายืนอยู่ข้างหน้าต่าง มองแสงไฟระยิบระยับของทั้งเมืองที่ด้านนอก ในใจกระสับกระส่าย
เย้นหว่านเพียงแค่ทำแบบทดสอบอันหนึ่ง ยังไม่รู้ว่าเกิดปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นจะเป็นลูกโซ่มากขนาดนี้
เธอจับมือถือไว้ ตอบคำถามข้อสุดท้ายเสร็จ
ส่งคำตอบ ผลลัพธ์ออกมา
[83คะแนน ยินดีด้วย คุณชอบเขา/เธออย่างถอนตัวไม่ขึ้นแล้ว เขาอยู่ในใจของคุณมีตำแหน่งที่เป็นตัวแปรเกิดการเปลี่ยนแปลง คุณอยากอยู่ด้วยกันกับเขามาก อยากแต่งงานกับเขา แต่ว่าคุณกลับมีความกังวลที่ใหม่มาก ลังเลไม่แน่ใจ แม้กระทั่งอยากจะยอมแพ้ในความสัมพันธ์นี้ ในสายตาคุณ เขา/เธอเป็นคนที่คุณรักไม่ได้]
เย้นหว่านคิดไม่ถึงว่าจะได้คะแนนสูงขนาดนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อคิดเห็นนี้กับความคิดของเธอเวลานี้ คาดไม่ถึงว่าเห็นตรงกันโดยบังเอิญขนาดนั้น
เรื่องพวกนั้นที่เธอไม่อยากยอมรับ เวลานี้ก็ถูกสรุปออกมาอย่างตรงไปตรงมาขนาดนี้
ความจริงที่เธอชอบโห้หลีเฉินแล้ว
โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายใต้การไม่รู้ตัวกลายมาชอบมากๆ แล้ว
เย้นหว่านมองหน้าจอใจลอย หัวใจเต้นเร็วขึ้นหน่อย ในสมองประกายท่าทางของโห้หลีเฉินทั้งนั้น
เธอรักเขาได้เหรอ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...