บทที่ 295 ความจริงใจของโห้หลีเฉิน
สารภาพรัก?
เย้นหว่านรู้สึกว่ายิ่งเป็นไปไม่ได้เลย
หลายวินาที เธอถึงพูดอะไรออกมาจากในปากได้แบบยากลำบาก “ฉินฉู่ คุณอย่าล้อเล่นกับฉันเลย”
“เรื่องแบบนี้ ผมจะกล้าล้อคุณเล่นเหรอ?”
ฉินฉู่ระเบิดไปทั้งตัว ที่แท้เป็นอย่างที่เขาคาดไว้ โห้หลีเฉินตามจีบคนอื่นเขามานานขนาดนี้ แม้แต่การสารภาพรักโดยพื้นฐานยังไม่มีเลย
ไม่แปลกใจที่พี่สะใภ้คิดแต่อยากจะถอนหมั้นกับเขามาตลอด
หญิงสาวที่เพียงมีศักดิ์ศรีนิดเดียว มีความหวังต่อการแต่งงานน้อยนิด ล้วนจะไม่ไปสมรสในการแต่งงานที่ไร้ความรู้สึกไร้ความรัก เอาความสุขทั้งชีวิตของตนเองไปผูกไว้
ถึงแม้ไม่รู้ว่าจะร้องไห้หรือหัวเราะดี ฉินฉู่ยังค่อนข้างชื่นชมเย้นหว่านในจุดนี้ อย่างน้อยเธอก็ไม่ได้แต่งงานกับโห้หลีเฉินเพราะอิทธิพลอำนาจของเขา ถ้าต่อไปแต่งงานกันจริง จะต้องจริงใจต่อกันแน่
การแต่งงานที่ทั้งสองต่างรักกันและกัน ถึงเป็นการแต่งงานที่สามารถมีความสุขที่สุด
ฉินฉู่จัดการความคิดสักหน่อย รีบบอกเย้นหว่านไปอย่างเคร่งขรึม
“พี่สะใภ้ คุณอย่าถือสาเลย หลีเฉินอยู่มาหลายปีขนาดนี้ แต่เขาไม่เคยชอบผู้หญิงสักคนเลย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงตามจีบสาวเลย อาจจะเพราะสำหรับเขาแล้ว การบอกว่าแต่งงานกับคุณ ก็คือเป็นการสารภาพรักต่อคุณมากที่สุด
ความจริงตั้งแต่เริ่มแรกเขาก็ชอบคุณ แต่สำหรับเขาจะไม่บังคับคุณให้แต่งงานกับเขา เขาต้องการให้คุณยินยอมเอง ชอบคุณด้วยใจจริง ดังนั้นนานขนาดนี้แล้ว ความจริงเขากำลังรอคุณ”
คำพูดของฉินฉู่ สำหรับเย้นหว่าน เป็นเสมือนนิทานอาหรับราตรีที่มหัศจรรย์เหลือเกิน
แต่กลับทิ่มแทงบนหัวใจของเธอแต่ละคำขนาดนั้น
โห้หลีเฉินชอบเธอ?
โห้หลีเฉินชอบเธอจริงๆ?
ผ่านมานานขนาดนี้ ทุกครั้งที่โห้หลีเฉินบอกว่าอยากแต่งงานกับเธอ ล้วนไม่ใช่เพราะผลประโยชน์ของตระกูล ยิ่งไม่ใช่เพราะเกี่ยวข้องกับคุณย่า เพียงเพราะโห้หลีเฉินอยากแต่งงานกับเธอเหรอ?
เธอไม่อยากเชื่อมาโดยตลอด รู้สึกว่าเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อที่สุด คาดไม่ถึงเป็นเรื่องจริง?
เย้นหว่านมองด้านหน้าอย่างเหม่อลอย รู้สึกเพียงว่าสมองว่างเปล่า จิตใจเคลิบเคลิ้มอยู่บ้าง
แต่หัวใจดวงนั้นเหมือนขังกระต่ายน้อยตัวหนึ่งไว้ เต้นขยับอย่างบ้าคลั่ง ตื่นเต้นจนใกล้จะไม่มีที่ให้หยุดลง
“พี่สะใภ้ ถ้าคุณชอบหลีเฉินอยู่นิดๆ ขนาดนั้นจริง น่าจะให้โอกาสพวกคุณซึ่งกันและกันครั้งหนึ่ง อย่างน้อยลองดูสักหน่อยเถอะ?”
ฉินฉู่พูดโน้มน้าวแบบเตือนแล้วเตือนอีกด้วยความหวังดี
ในฐานะเพื่อนสนิท เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นโห้หลีเฉินชอบใครสักคนมากขนาดนั้น แน่นอนว่าชอบแล้วโห้หลีเฉินสามารถนำเย้นหว่านมาแต่งงานเข้าบ้านได้ ไม่อย่างนั้นคงเป็นไปได้ว่าชีวิตนี้เขาอาจจะไม่เห็นโห้หลีเฉินแต่งงานแล้ว
ผู้ชายที่ดีเลิศขนาดนั้น อยู่เป็นโสดไปตลอดชีพ คิดดูคงเป็นการทำลายสิ่งของให้เสียหายตามอำเภอใจ
ในสมองเย้นหว่านเหมือนไหมพรมที่พันกันยุ่งเหยิงเป็นก้อน เธอมือไม้อ่อน อย่างไรก็ไม่เข้าใจ ยิ่งคิดยิ่งยุ่ง
เรื่องนี้สำหรับเธอแล้ว ช่างกระทบกระเทือนอยู่หน่อย
ทำเอาการคำนวณก่อนหน้าทั้งหมด แผนการทั้งหมดของเธอสับสนวุ่นวายไปหมด
ถึงแม้หลังจากที่รู้ว่าตนเองหวั่นไหวต่อโห้หลีเฉิน เย้นหว่านก็มีท่าทียืนหยัดจะถอนหมั้น สาเหตุสำคัญมากหนึ่งในนั้นคือไม่อยากแต่งกับการแต่งงาน แต่ไม่ใช่ความรัก
แต่ตอนนี้ฉินฉู่บอกเธอว่าโห้หลีเฉินชอบเธอมาโดยตลอด
ในสมองของเย้นหว่านอดนึกถึงช่วงเวลาที่ผ่านมานี้ไม่ได้ เรื่องราวสารพัดที่โห้หลีเฉินทำกับเธอ
ตอนแรกรู้สึกว่าเป็นเพราะเขาเห็นแก่ความสัมพันธ์คู่หมั้นระหว่างพวกเขา ดังนั้นจึงดูแลเธอเป็นพิเศษ แต่หลังจากที่สิ่งปิดบังอำพรางนี้ถูกคนดึงออก พอหันกลับไปมองอีกที ทุกอย่างล้วนเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม
ทุกอย่างที่โห้หลีเฉินทำกับเธอ ทุกที่ล้วนเผยความชอบที่ผู้ชายคนหนึ่งมีต่อผู้หญิงคนหนึ่ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...