บทที่ 37 ดีกว่าพวกเธอ
เย้นหว่านเองก็ยังกินไม่อิ่ม แล้วยิ่งมาเห็นอาหารที่น่ากินวางเรียงรายกันแบบนี้ เธอก็รู้สึกใจเต้นแรงขึ้นมา
แต่ว่าเธอก็ถามออกมาด้วยความสำรวม “ คุณโห้ เรียกฉันมามีธุระอะไรรึป่าวคะ?”
เหมือนเขาพึ่งรู้ตัวว่าเธอมา โห้หลีเฉินมองหน้าเธอเหมือนจะมอบอะไรให้สักอย่าง ดวงตาของเขาเย็นชามาก
เขาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “ลองอาหาร”
“อะไรนะคะ?”
เย้นหว่านงง ไม่รู้ว่าเขาหมายความว่ายังไง
บริกรที่ยืนอยู่ข้างๆรีบพูดขึ้นแล้วยิ้มออกมา “นี่คือเมนูใหม่ที่พ่อครัวของเราคิดค้นขึ้นมา แต่ว่าคุณชายก็อาจจะไม่ได้ชอบทุกอย่าง ก็เลยต้องขอรบกวนคุณเย้น ลองชิมทุกเมนู แล้วก็ดูว่าอะไรอร่อยที่สุด แล้วก็ให้คุณชายทานน่ะครับ”
เย้นหว่านมึนงงถึงขีดสุด
นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเคยได้ยินคำว่าลองกินในความหมายแบบนี้ อีกอย่าง ทำไมเธอรู้สึกเหมือนว่าสถานการณ์นี้เหมือนกับพระราชาในสมัยก่อน ที่ต้องมีคนทดสอบก่อนว่าอาหารมีพิษหรือไม่
ความรู้สึกแบบนี้มันแปลกประหลาดมาก เย้นหว่านอยากจะปฏิเสธ “คุณโห้คะ รสชาติที่ชอบของฉันกับคุณไม่เหมือนกัน อาหารที่ฉันรู้สึกว่าอร่อยอาจจะไม่อร่อยสำหรับคุณก็ได้ เพราะฉะนั้น…”
“วันนี้ที่เธอพาฉันไปกินก็อร่อยดีนะ”
โห้หลีเฉินตัดบทของเธออย่างเรียบง่าย
เย้นหว่านอึ้งไป อาหารวันนั้นน่ะหรอ? เธอก็แค่พูดชื่อเมนูที่เธอชอบออกไปเท่านั้น...
เพราะฉะนั้นรสชาติอาหารที่เขาชอบน่าจะไม่ต่างจากเธอเท่าไหร่นัก
“คุณโห้คะ แล้วทำไมคุณไม่ลองกินดูเองล่ะคะ? ก็ลองชิมดูทุกเมนู ชอบไม่ชอบก็บอกได้นิคะ”
เย้นหว่านมองหน้าโห้หลีเฉินอย่างสงสัย ทำไมต้องให้เธอมาชิมอาหารของเขาด้วยล่ะ? เว่ยชีก็อยู่กับเขามาตั้งนาน น่าจะรู้สิว่าเขาชอบกินอะไร
แต่ว่าเว่ยชีกลับยืนอยู่ข้างนอก แต่ว่าคนที่ไม่เกี่ยวข้องอะไรอย่างเธอกลับ….
โห้หลีเฉินมองหน้าเธอ แล้วก็พูดในสิ่งที่ทำให้ยากคนจะปฏิเสธได้
“เพราะว่ามันคือหน้าที่ของคู่หมั้นไง”
เย้นหว่าน:“……”พูดถึงหน้าที่ของคู่หมั้นอีกแล้ว!
เย้นหว่านอึกอัก ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี ตอนนี้เธออยากจะฆ่าตัวเองเมื่องานปาร์ตี้นั้นให้ตาย ทำไมอยู่ดีๆต้องพูดเรื่องหน้าที่ของคู่หมั้นบ้าบออะไรนั่นด้วย
ไม่มีทางเลือก เย้นหว่านก็ได้แต่หยิบตะเกียบขึ้นมาอย่างเชื่อฟัง แล้วก็ชิมอาหารพวกนั้น
ถึงแม้ว่าเธอไม่ยินยอมเท่าไหร่ แต่ว่ารสชาติของอาหารพวกนี้มันดีกว่าที่เธอคิดไว้มาก ถูกปากเธอมาก อร่อยจนทำให้เธออยากจะกินเข้าไปเป็นคำที่สอง
เว่ยชียืนอยู่ไม่ไกลเท่าไหร่นัก พอเห็นเย้นหว่านกำลังชิมอาหารอยู่ ก็รู้สึกชื่นชมเจ้านายตัวเองขึ้นมา
อยากจะให้เย้นหว่านมากินข้าวกับตัวเอง ก็สามารถหาข้ออ้างเรื่องชิมอาหารขึ้นมาได้
หลังจากชิมอาหารเสร็จ เย้นหว่านก็น่าจะอิ่มแล้ว
และเว่ยชีก็คิดไม่ผิด พอเย้นหว่านชิมอาหารเสร็จ ก็รู้สึกอิ่มมาก
แถมอาหารพวกนี้ยังรสชาติดีมาก ทำให้เธอรู้สึกเหมือนว่าเธอได้กินอาหารมื้อใหญ่ที่หรูหรา
เธอไม่เหลือความไม่พอใจเลยแม้แต่นิดเดียว
พอเห็นว่าเย้นหว่านเหมือนจะยิ้มออกมาอย่างพอใจ สายตาของโห้หลีเฉินก็เปล่งประกาย แล้วก็พูดออกมาด้วยสีหน้าเรียบเฉยว่า
“พรุ่งนี้ทำต่อด้วย”
เย้นหว่านมองโต๊ะอาหารที่เต็มไปด้วยอาหารสิบกว่าอย่าง แล้วก็ถามออกมาอย่างสงสัย
“อาหารของคุณเปลี่ยนไปทุกวันเลยหรอคะ?”
พ่อครัวของเขานี่มีเป็นทีมเลยรึป่าวเนี่ย และทุกคนก็มีสูตรอาหารของตัวเองหลายร้อยสูตร เลยทำให้ทำอาหารในแต่ละวันไม่เหมือนกันได้?
โห้หลีเฉินพูดด้วยสีหน้านิ่งเรียบเหมือนเดิม “อืม”
เย้นหว่านคิดในใจ ที่แท้คนที่รวยอันดับหนึ่งของเมืองหนาน จะกินข้าวยังไม่เหมือนคนอื่นเลย
มีการประกาศโควตาสำหรับการเข้าร่วมการแข่งขันการออกแบบแฟชั่น Ovi
พึ่งจะมีการประกาศออกมา แต่ว่าก็สามารถสร้างความฮือฮาได้มากมาย เพราะว่ามันเป็นจำนวนโควต้าของคนที่สามารถเข้าสู่รอบท้ายๆของการแข่งขันได้เลยทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...