บทที่ 370 ล้มลงแล้ว
เวนเดลล์ทนไม่ได้เล็กน้อย พูดโน้มน้าวใจว่า:“ หลีเฉิน ในใบโลกนี้มีผู้หญิงตั้งมากมาย จริงๆแล้วนายไม่จำเป็นต้องหมกมุ่นอยู่บนตัวเย้นหว่าน เธอเป็นคุณหนูของตระกูลเย้น ที่มีความรับผิดชอบและภารกิจบนตัว แม้ว่านายจะหาเธอเจอ แต่เรื่องระหว่างเธอก็เป็นไปไม่ได้
ชีวิตของเธอ ถูกกำหนดไว้ตั้งนานแล้ว รวมถึงเรื่องแต่งงานของเธอด้วย "
"ชีวิตของเธอ เป็นของผม"
ยืนยัน ทีละคำอย่างหนักแน่น
โห้หลีเฉินยืนตัวตรง เหมือนเสาปักรังวัดที่ไม่มีวันตกลง
เขาจะตามหาเย้นหว่านให้เจอให้ได้ แม้ว่าจะต้องพลิกไปทั่วทุกมุมที่ลึกลับที่สุดบนโลกใบนี้ แม้ว่าจะต้องตามหามานานหลายสิบปีอย่างไม่หลับไม่นอน แต่เขาก็จะไม่ยอมแพ้
เขาเคยยอมแพ้ไปครั้งหนึ่ง เป็นความเสียใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของเขา เขาได้รับของแลกกลับมาที่โหดร้ายเพียงพอแล้ว
สูญเสียเธอ
คำนี้ จะไม่เกิดขึ้นอีกแน่นอน
เบาะแสของเวนเดลล์ถูกทำลายไปแล้ว และเบาะแสอื่น ๆ ก็ถูกทำลายทั้งหมดด้วยเช่นกัน
โห้หลีเฉินส่งพลังทั้งหมดของตัวเอง เพื่อให้ผู้คนทั้งหมดที่อยู่ในโลกตามหาเย้นหว่าน แต่พวกเขาทั้งหมดก็เหมือนเช่นเดียวกับเวนเดลล์
ห้ามกลับไปตระกูลเย้น!
ระยะเวลาอย่างน้อยสามปี
เป็นไปไม่ได้ที่โห้หลีเฉินจะรอพวกเขาเป็นเวลาสามปีอย่างว่างเปล่า หลังจากสามปีต่อมา พวกเขาจะถูกห้ามกลับไปอีกต่อไหม?
แต่นอกเหนือจากนี้ เขาก็ไม่พบเบาะแสใด ๆ และไม่มีทางที่จะหาตระกูลเย้นเจอได้อีก ตระกูลเย้น ก็เป็นเหมือนแดนสวรรค์ที่ไม่มีอยู่จริงในตำนาน เขาค้นหาไปทั่วทั้งมุมโลก ก็หาร่องรอยไม่พบ สักนิด
โห้หลีเฉินทำแบบนี้จนผอมลงตั้งสิบกิโลกรัม นอนเพียงสองชั่วโมงในสามวัน และสมรรถภาพทางกายของเขาก็ลดลงเป็นอย่างมาก
แต่เขากลับทั้งดื้อรั้นและน่ากลัว ไม่สนใจทุกสิ่งทุกอย่าง ตามหาเย้นหว่านสุดชีวิตอย่างไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็เอาด้วยกล
เขารีบร้อนใจ กลัวว่าจะหาเย้นหว่านไม่เจอ หรือบางทีเขาอาจจะต้องเสียเธอไปจริงๆ
เวลา เป็นยาพิษอันร้ายแรง
แต่เขากลับทำได้เพียงเฝ้าดูเวลาที่ผ่านไปในแต่ละวัน แต่ยังคงไม่มีข่าวคราวของเธอเลยสักนิด
โห้หลีเฉินหงุดหงิด โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ แต่กลับอ่อนแอมากขึ้นไปอีก
เย้นหว่าน อยู่ที่ไหนกันนะ?
“ ก๊อก ก๊อก ก๊อก”
หน้าประตูห้องหนังสือ ก็มีเสียงเคาะประตูเบา ๆดังขึ้นมา
หลังจากนั้น ประตูก็ถูกเปิดออก โห้หลีเฉินเงยหน้าขึ้น และเห็นว่าคนที่มาไม่ใช่คนคอยรายงานข่าวสารอย่างเว่ยชี แต่เป็นจูเหลียนอีง จึงลดศีรษะลงไปอีกครั้ง และทำสิ่งที่อยู่ในมือต่อ
จูเหลียนอีงเดินเข้ามา มองท่าทางของโห้หลีเฉิน ร่างทั้งตัว แข็งทื่อราวกับถูกฟ้าผ่าอยู่ตรงนั้น
เธอไม่เคยเห็นท่าทางที่ตกอับและดูแย่ของโห้หลีเฉินขนาดนี้มาก่อน!
ใบหน้าของเขาซีดราวกับกระดาษ และก็ผอมลงไปถึงสองเท่า จนกระทั่งสามารถเห็นกระดูกนูนบนใบหน้าอย่างชัดเจน และดวงตาของเขา ก็นอนดึกจนแดงระเรื่อ ไม่รู้ว่านานแค่ไหนแล้วที่ไม่ได้นอนอย่างเต็มอิ่ม
จูเหลียนอีงรู้สึกว่าหัวใจของตัวเองมีเลือดไหล
เธอรีบเดินเข้าไป จับมือของโห้หลีเฉินอย่างสะอึกสะอื้น “ นายหยุดเดี๋ยวนี้เลยนะ! ฉันไม่อนุญาตให้นายทำแบบนี้อีกต่อไปแล้ว ไปหาคุณหมอ ไปพักผ่อนซะ!”
“ คุณย่า ผมยุ่งอยู่ อย่ารบกวนผม”
โห้หลีเฉินดึงมือออก และทำต่อสิ่งที่อยู่ในมือของเขาต่อ
ตั้งแต่ต้นจนจบ สายตาของเขามีเพียงสถิติและข้อมูลที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาในคอมพิวเตอร์เท่านั้น ไม่เคยละสายตาออกไปเลยสักครั้ง
จูเหลียนอีงสงสารเป็นอย่างยิ่ง และรู้สึกเสียใจในภายหลังขึ้นไป ถ้ารู้ว่าโห้หลีเฉินและเย้นหว่าน จะเดินมาถึงจุดนี้ ถ้ารู้ว่าโห้หลีเฉินจะจมลงไปลึกขนาดนี้ตั้งแต่แรก ไม่ว่าอย่างไรตอนนั้นเธอก็จะไม่ให้พวกเขาได้รู้จักกัน
น่าเสียดาย ที่ตอนนี้ทุกอย่างนั้นสายเกินไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...