บทที่ 43 จะมีหรือไม่มีคนก็ต้องแสดงละครให้สมจริง
โห้หลีเฉินขมวดคิ้วเล็กน้อยซ่อนสีหน้าท่าทางที่ไม่สบายใจเอาไว้ไม่มิด เขากดน้ำเสียงทุ้มต่ำแสดงให้เห็นถึงความอ่อนโยนอย่างไม่เคยมีมาก่อน “เย้นหว่าน นี่ผมเอง ไม่เป็นอะไรแล้วนะ” เข้าพยายามที่จะเข้าไปใกล้เธอแต่เธอก็หลบหลีกเขาอีกครั้ง
เย้นหว่านกัดริมฝีปากเอ่ย “ขอบคุณ” เธอรู้ว่าเขาคือโห้หลีเฉิน และเธอก็รู้สึกขอบคุณที่เขามาช่วยเธอทันเวลา เพียงแต่ตอนนี้เธอนั้นไม่กล้าที่จะเผชิญหน้ากับเขาและเขารู้ว่าเป็นครั้งแรกเธอถูกบังคับที่โรงแรมและครั้งนี้เขาเห็นด้วยตาตัวเองว่าพนักงานรักษาความปลอดภัยที่น่ารังเกียจนั่นคร่อมอยู่บนตัวเธอ ในใจของเขานั้นเธอคงน่ารังเกียจมากสินะ.......
ดวงตาสีเข้มของโห้หลีเฉินมืดหม่นลงแล้วมือหนาค่อยๆ กำเป็นกำปั้นไว้แน่น เพียงครู่เดียวเขาก็พูดขึ้นว่า “ไปกันเถอะ เดี๋ยวผมจะไปส่งคุณ” เขาไม่ได้เข้าไปใกล้เธออีกแล้วก็เดินออกจากบ้านพัก
ความรู้สึกอึดอัดใจของเย้นหว่านนั้นลดลงเพียงเล็กน้อย เธออยากออกจากที่นี่ยิ่งไกลเท่าไหร่ได้ยิ่งดี ขาเล็กก็รีบก้าวออกไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว โห้หลีเฉินที่เดินตามหลังเธออยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล สายตาที่จับจ้องแผ่นหลังบางของเธออยู่ก็เกิดความสับสนขึ้นมา เธอเหมือนคนที่เจ็บปวดมาก เขาอยากที่จะโอบกอดและปลอบโยนเธอ แต่เธอกลับหลีกเลี่ยงเขา
สภาพจิตใจของเย้นหว่านยุ่งเหยิงมาก ขาเล็กก้าวอย่างรวดเร็วจนไม่ทันระวังทำให้สะดุดขาตัวเอง
“อ๊ะ” เธอร้องออกมาแล้วก็ล้มลงไปบนพื้นทราย
โห้หลีเฉินก็รีบเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว “เป็นอะไรหรือเปล่า?”
“แค่สะดุดน่ะ ไม่เป็นไร” เย้นหว่านพูดแล้วก็พยายามจะลุกขึ้นยืน แต่เธอก็รู้สึกเจ็บจี๊ดขึ้นมาที่เท้าของเธอ
มองใบหน้าซีดเซียวของเย้นหว่านแล้ว หน้าของโห้หลีเฉินก็ขรึมลงแล้วก็เอื้อมมือไปจับที่ข้อเท้าของเธอ
“ข้อเท้าคุณเจ็บแล้วล่ะ คุณไม่ควรเดินต่อนะ” เย้นหว่านรู้สึกหงุดหงิด ทำเธอเป็นคนที่โชคร้ายแค่เดินอยู่ก็บาดเจ็บแล้วหรอ?
เธอพยายามที่จะลุกขึ้นยืน แต่ในขณะนั้นโห้หลีเฉินก็ช่วยอุ้มเธอขึ้นมา เธอรู้สึกถึงไหล่กว้างของชายหนุ่มและลมหายใจที่ใกล้ชิดกันแล้ว เย้นหว่านก็ตะลึงนิ่งอึ้งไป
“คุณโห้ คุณทำอะไร?” เธอดิ้นไปมา “ปล่อยฉันลงเถอะ ฉันเดินเองได้ค่ะ”
โห้หลีเฉินโอบหลังเย้นหว่านไว้ให้กระชับแล้วเดินตรงไปยังทิศทางของโรงแรมอย่างมั่นคงแล้วพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำที่ชวนให้หลงใหลว่า “เย้นหว่านคุณเป็นคู่หมั้นของผม ผมมีหน้าที่ต้องปกป้องและดูแลคุณ” ดังนั้นสิ่งที่เขากำลังทำอยู่ตอนนี้ก็สมเหตุสมผลเช่นกัน
แต่ว่า....... เธอพูดอย่างอึดอัดว่า “พวกเราเป็นแค่คู่หมั้นปลอมๆ แล้วตอนนี้ไม่มีใครเห็นคุณไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้ก็ได้”
โห้หลีเฉินชะงักไปนิดหน่อยรู้สึกหงุดหงิดอย่างอธิบายไม่ได้ หากเขาไม่ยกเรื่องการหมั้นปลอมๆ ขึ้นมาตั้งแต่แรกที่เจอกันแต่เป็นการหมั้นกับเธอจริงๆ ก็คงไม่บาดหมางเหมือนอย่างตอนนี้ เขาจึงเอ่ยเสียงแข็งว่า “จะแสดงละครก็ต้องให้สมจริงถึงจะมีหรือไม่มีคนก็ตาม”
เย้นหว่าน:“……” เขาทุ่มเทจริงๆ เธอคิดว่าโห้หลีเฉินแค่ดูแลเธอในฐานะคู่หมั้นเพียงในนามเท่านั้นแล้วเธอก็ไม่รู้สึกแย่อีกต่อไป ตอนนี้เธอไม่สะดวกที่จะเดินกลับไปโรงแรมด้วยตัวเองจริงๆ เธอฟุบลงบนหลังของเขาโดยที่เธอไม่รู้ตัวเลยว่าแก้มตัวเองเห่อแดงขึ้นมา
โห้หลีเฉินเดินมาส่งเธอที่ห้องพักอย่างชำนาญเส้นทาง เมื่อมาถึงหน้าประตูห้องเขาก็เอ่ยขึ้นมา “เอาคีย์การ์ดมาให้ผม”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...