สรุปเนื้อหา บทที่712 ยังดีที่รวดเร็วทันใจ – สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน โดย ถางเสี่ยวเถียน
บท บทที่712 ยังดีที่รวดเร็วทันใจ ของ สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน ในหมวดนิยายโรแมนซ์ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย ถางเสี่ยวเถียน อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
เย้นหว่านรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าโดยเร็ว เพิ่งเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ ผ้าม่านประตูก็ถูกคนเปิดออกจากด้านนอกแล้ว
เย้นหว่านตกใจแทบแย่ หัวใจเต้นแรงมาก
โชคดีที่เธอรวดเร็วทันใจ
ที่นี่มันอันตรายทุกที่จริงๆ ต้องระแวดระวังทุกวินาที
เธอดึงคอเสื้อให้แน่น และพูดกับคนที่บุกเข้ามาทางประตูว่า “ฉู่ฉู่ มีอะไร?”
ฉู่ฉู่เดินตรงดิ่งเข้ามา ดึงเย้นหว่านเดินออกไปด้านนอกอย่างไม่อาจให้คนแยกแยะและอธิบาย เธอเดินไปด้วยและพูดไปด้วยว่า “คุณรีบอธิบายให้แม่ฉันฟังหน่อยค่ะ ไม่งั้นแม่ฉันก็จะดื้อดึงโวยวายว่าจะไล่พี่ๆบอดี้การ์ดพวกนี้ไปอยู่นั่นแหละ”
เย้นหว่านสีหน้ามึนตึ๊บ “อธิบายอะไร?”
เธอแปลกใจมาก ทำไมจู่ๆก็มีบอดี้การ์ดแปลกหน้าโผล่มาที่หน้าห้องแต่เช้าตรู่
ท่าทางที่ฉู่ฉู่เดินได้หยุดชะงักไว้ แล้วมองเย้นหว่านอย่างทึ่งมาก “คุณไม่รู้เรื่องเลยเหรอ?”
เธอต้องรู้อะไรด้วยงั้นเหรอ?
เย้นหว่านมึนตึ๊บต่อ
ฉู่ฉู่กลอกตาไปมา และพูดเหมือนตระหนักได้ในทันที “คุณโห้ดีกับคุณจังเลยค่ะ บางทีเขาอาจจะเพราะกลัวกระทบกับการนอนหลับของคุณ ดังนั้นถึงได้จัดให้บอดี้การ์ดมาคุ้มกันคุณที่บ้าน และยังไม่ทันได้บอกกับคุณค่ะ”
จัดให้บอดี้การ์ดมาคุ้มกันเธอที่บ้าน?
เย้นหว่านเหนือความคาดหมายมาก แต่รู้สึกว่ามันก็สมเหตุสมผลอยู่
เพราะยังไงซะเมื่อวานเธออยู่บ้านคนเดียว ก่อนอื่นถูกคุณป้าตบตีก่อน แล้วต่อมาก็เจอเซอร์ยุนซีที่เธอไม่ได้รัก สามารถบอกได้ว่าหาเรื่องใส่ตัวจริงๆ
โห้หลีเฉินให้บอดี้การ์ดมาเฝ้าเธอไว้ มันปลอดภัยกว่าจริงๆ
ระหว่างที่คิด เย้นหว่านก็ได้เดินมาถึงหน้าห้องแล้ว
จากนั้นก็เห็นนอกห้องโถง มีผู้ชายสูงใหญ่ใส่ชุดสูทสีดำสี่คนกำลังยืนอยู่ในลานบ้าน สีหน้าเคร่งขรึมจริงจัง ถ้าไม่ใช่ดวงตากะพริบได้ล่ะก็ เธอนึกว่าพวกเขาเป็นรูปปั้นแกะสลักเสียอีก
เย้นหว่านแปลกใจมาก โห้หลีเฉินเพิ่งมาที่นี่ได้ไม่กี่วันเอง ไปหาบอดี้การ์ดสี่คนนี้ล่วงหน้ามาจากไหน?
ต้องรู้ไว้นะ อยู่ประเทศนี้ ผู้หญิงมีฐานะต่ำต้อย ผู้ชายดีกับผู้หญิงล้วนคือการกระทำความผิด ให้ผู้ชายมาปกป้องผู้หญิงคนหนึ่ง ไม่เท่ากับว่าเป็นการท้าทายฟางเส้นสุดท้ายของศีลธรรมเหรอ?
พอคิดถึงตรงนี้แล้วเย้นหว่านค่อนข้างตื่นเต้นอย่างเลี่ยงไม่ได้ กลัวบอดี้การ์ดทั้งหลายจะดุเธอ
แต่กลับไม่คิดเลยว่าบอดี้การ์ดสี่คนนั้นเห็นเธอแล้ว กลับรีบทำความเคารพเธออย่างพร้อมเพรียงกันและพูดพร้อมกันว่า “อรุณสวัสดิ์ครับ คุณเย้น!”
เสียงที่ดังสนั่น ทำเย้นหว่านตกใจจนแข็งทื่ออยู่กับที่
ความรู้สึกนี้ ทำไมรู้สึกเหมือนนักเรียนกำลังพูดทักทายกับคุณครูเลย?
เธอรู้สึกไม่ชินเลย แต่ต่อมาก็ได้รีบตอบกลับว่า “พวกนายก็อรุณสวัสดิ์จ้า”
คุณป้ายืนทึ่งอยู่ข้างๆ สีหน้าไม่พอใจอย่างมาก
เมื่อกี๊เธอยืนพูดอยู่ครึ่งค่อนวัน บอดี้การ์ดพวกนี้ต่างก็ตอบคำถามเธอด้วยสีหน้าเย็นชา เป็นตายร้ายดียังไงก็ไม่ขยับและจากไป ตอนนี้เย้นหว่านมาแล้ว แต่กลับพูดทักทายกับเย้นหว่านอย่างมีมารยาทและเอาใจใส่ขนาดนั้น?
เย้นหว่านถือสิทธิ์อะไร? !
แววตาเย็นชาและไม่พอใจของคุณป้าได้ทิ่มแทงไปที่เย้นหว่านทันที
ท่าทีที่ชั่วร้ายสุดๆมาพร้อมเสียงสูง “เธอรู้จักคนพวกนี้เหรอ? เธอเป็นคนให้พวกมันมาใช่มั้ย บอกให้พวกมันรีบไปเลย!”
เย้นหว่านไม่ประทับใจคุณป้าคนนี้เอาซะเลย ยิ่งไม่อยากเผชิญหน้ากับเธอด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้ได้แค่กัดฟันอธิบาย “พวกเขาเป็นบอดี้การ์ดที่พี่ชายฉันส่งมาคุ้มกันฉัน จะไม่มาเกะกะอะไรที่นี่หรอกค่ะ คุณก็ถือว่าพวกเขาไม่มีตัวตนก็พอแล้วค่ะ”
“คุ้มกันเธอ?”
คุณป้าพูดเสียงสูงอย่างประหลาดใจ สีหน้าเต็มไปด้วยการดูถูก “เธอเป็นผู้หญิงตัวคนเดียว มีอะไรต้องคุ้มกันด้วย? อายคนอื่นเค้าหรือเปล่า? ให้พวกมันรีบไปเดี๋ยวนี้”
ท่าทีที่แข็งกร้าวและเด็ดขาด ดูแล้วเป็นคนมีทิฐิสูงมาก
เย้นหว่านหงุดหงิด ขี้เกียจพูดกับเธอให้มากความ จึงได้พูดตรงๆว่า “ก่อนที่โห้หลีเฉินจะกลับมา พวกเขาไม่มีทางไปหรอกค่ะ”
เย้นหว่านพูดจบ ก็ไม่อยากราวีกับคุณป้าอีก เธอหันหลังแล้วอยากเดินจากไป
คุณป้าได้ยินคำพูดของฉู่ฉู่ถึงกับโมโหจนอยากด่าทออย่างระอุ เธอจะเป็นตายร้ายดียังไง จะลงโทษยังไง ต้องให้นังหนูไร้เดียงสาคนหนึ่งมาตัดสินตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?
แต่คำพูดของเธอยังไม่ทันได้พูดออกมา ตรงข้อมือก็มีความเจ็บปวดส่งผ่านมาอีกแล้ว ราวกับจะถูกคนบีบให้หักยังไงอย่างงั้น
เธอเจ็บจนแทบจะขาดใจ อึ้งจนแม้แต่อารมณ์ขึ้นจะอ้าปากด่าว่าก็ไม่มีแล้ว
เย้นหว่านมองหน้าตาที่เจ็บจนใกล้ร้องไห้ของคุณป้า
รู้สึกสะใจและตลก
คุณป้าคนนี้เหิมเกริมจนเคยชิน ทีนี้เจอตะปูเหล็กเข้าไป ไม่รู้ในใจจะรู้สึกยังไงบ้าง?
อารมณ์เบิกบานเหมือนอากาศของวันนี้เลย
เย้นหว่านยิ้มแก้มปริและพูดช้าๆว่า “ในเมื่อฉู่ฉู่ขอความเมตตาแล้ว งั้นครั้งนี้ก็ช่างเถอะ”
เธอจงใจเน้นคำว่า‘ครั้งนี้’แถมน้ำเสียงยังฝืนใจด้วย
ให้คุณป้าคนนี้รู้เอาไว้ด้วย ถ้ายังมีครั้งหน้าอีกก็จะไม่ปล่อยเธอไปง่ายๆแน่นอน
ในใจของคุณป้าเคียดแค้นและเจ็บใจสุดๆ แต่ความเจ็บปวดที่มือ กลับทำให้เธอไม่กล้าใส่อารมณ์เลยสักนิด
เธอที่เป็นผู้หญิงตัวคนเดียวจะสู้ผู้ชายสี่คนได้ยังไง
บอดี้การ์ดได้ยินคำพูดของเย้นหว่านแล้วก็ได้ปล่อยมือทันที และโยนคุณป้าไปข้างๆ
คุณป้ากุมข้อมือที่เจ็บปวดไว้ และรีบถอยหลังไปหลายก้าว พร้อมทั้งจ้องเย้นหว่านด้วยสายตาอาฆาตแค้นสุดๆ
นังตัวดี!
ฉู่ฉู่รู้นิสัยของแม่ตัวเองดี กลัวท่านจะหัวดื้อพุ่งไปหาเหาใส่หัวอีก เธอจึงรีบเดินไปควงแขนของแม่ตัวเองไว้แล้วพูดเสียงเบาว่า
“แม่คะ ตอนนี้เย้นหว่านไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้วนะคะ ไม่นานเธอก็จะแต่งงานกับท่านดยุกและกลายเป็นท่านดัชเชสแล้ว ท่านดยุกได้อนุญาตให้เธอมีฐานะที่เท่าเทียมกันแล้ว แม้กระทั่งยังได้มอบป้ายดยุกให้เธอแล้วด้วย เธอไม่ใช่ผู้หญิงระดับเดียวกันกับพวกเราแล้วนะ”
อีกอย่าง มีฐานันดรศักดิ์เทียบเท่ากับผู้ชายแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...