ถึงจะเป็นพี่ชายแท้ๆก็เหอะ ก็ไม่มีทางนอนห้องเดียวกับน้องสาวหนิ
ยิ่งไปกว่านั้น เธอกำลังจะกลายเป็นท่านดัชเชสแล้ว
ที่ช็อกตามๆกันกับเซอร์ยุนซีคือบอดี้กสร์ดสี่คนที่เดิมทีอยู่ในบ้านล้วนมีสีหน้ามึนตึ๊บ มองโห้หลีเฉินอย่างเหลือเชื่อ
พวกเขาก็คิดไม่ถึงว่าโห้หลีเฉินจะอยู่ห้องนอนของเย้นหว่าน
นี่จะไม่เกิดเรื่องที่ผิดจริยธรรมเหรอ?
ทุกคนมีความคิดที่แตกต่างกันออกไป สายตาต่างก็เพ่งมองมาที่โห้หลีเฉิน รอคำตอบจากเขาอย่างตื่นเต้นและช็อก
แต่คู่กรณีกลับสีหน้าสงบนิ่ง ไม่ร้อนตัวและร้อนรนใจเลยสักนิด
เขาก้าวเท้าเดินมาหาเซอร์ยุนซีทีละก้าว ทั้งเนื้อทั้งตัวปกคลุมด้วยแรงอาฆาตที่ทำให้คนกลัวจนสันหลังหด
ในห้องโถงเล็กๆ เสียงทุ้มต่ำเย็นชาของเขาค่อยๆดังขึ้น “เมื่อคืนเสี่ยวหว่านไม่สบาย ฉันเลยคอยดูแลเธอชิดขอบเตียง”
ดูแล?
เซอร์ยุนซีได้ยินคำนี้แล้วรู้สึกไม่สมเหตุสมผลและไม่สามารถเข้าใจได้เลย แต่พริบตาเดียว เขาก็นึกถึงข้อมูลที่หลายวันนี้เขารวบรวมได้จากข้างนอก
อยู่ต่างประเทศที่เท่าเทียมกันและเปิดเผย ข้างกายเย้นหว่านก็มีแค่พี่ชายอยู่คนเดียว ส่วนมากพี่ชายล้วนเฝ้าดูแลเธอชิดขอบเตียงอยู่
สำหรับโลกภายนอก นี่เป็นเรื่องที่ปกติมากๆ
และไม่ได้สกปรกเหมือนที่พวกเขาคิดเลยสักนิด
หลังจากผ่านการอบรมมาหลายวัน ผ่านไปสองวินาทีเซอร์ยุนซีก็ยอมรับคำอธิบายของโห้หลีเฉินอย่างรวดเร็วและดีใจ
ใบหน้าหล่อเหลามีรอยยิ้มที่เคารพขึ้นมาอีกครั้ง “ที่แท้เป็นแบบนี้นี่เอง ลำบากพี่แล้วครับ เสี่ยวหว่านไม่สบายตรงไหนครับ อาการหนักมั้ยครับ?”
บอดี้การ์ดสี่คนยังอยู่ในความช็อก อยู่ในแนวความคิดโดยธรรมชาติของพวกเขา ถึงน้องสาวป่วย ก็ไม่ควรเป็นพี่ชายที่ดูแลชิดขอบเตียงทั้งคืน
นี่ไม่สมเหตุสมผลเอาซะเลย
แต่ทำไมท่านดยุกที่
วินาทีก่อนยังโมโหปรี๊ดแตกอยู่กลับยอมรับได้เร็วขนาดนี้? แถมยังเริ่มเป็นห่วงสุขภาพของเย้นหว่านขึ้นมาด้วย.........
เป็นเพราะพวกเขาล้าสมัยแล้วเหรอ?
ถึงแม้เย้นหว่านไม่ได้ออกมา แต่ในห้องที่มีผ้าม่านกั้นไว้ชั้นหนึ่ง เธอได้ยินคำพูดของด้านนอกอย่างชัดเจน
เธอที่เดิมทียังกังวลและอกสั่นขวัญแขวนอยู่ นาทีนี้รู้สึกโล่งอกแล้ว
เธออดหัวเราะไม่ได้ ในใจชื่นชม สมกับเป็นโห้หลีเฉินจริงๆ ไม่นึกเลยว่าจะคิดหาวิธีแบบนี้ออกมา แถมยังพูดฟังดูดีขนาดนี้
ยิ่งไปกว่านั้นยังได้คำนวณอย่างแม่นยำว่าหลายวันนี้เซอร์ยุนซีถูกล้างสมองแล้ว ภายใต้สถานการณ์ที่รู้แค่ผิวเผินแบบนี้ จะต้องเชื่อคำพูดไร้สาระของเขาแน่นอน
ถึงว่าโห้หลีเฉินถึงได้มีที่พึ่งจึงไม่เกรงกลัวอะไรเลย
ใจดำอำมหิตจริงๆ
ทางนี้ โห้หลีเฉินกลับไม่มีสีหน้าดีๆให้เซอร์ยุนซีเลย กลับกันอุณหภูมิรอบตัวยิ่งเย็นลงมาเพราะคำพูดของเซอร์ยุนซี
เขาดูแลเย้นหว่านที่ป่วยอยู่ ถือสิทธิ์อะไรให้เซอร์ยุนซีมากล่าวขอบคุณ?
เขามีสิทธิ์อะไร
ท่าทีที่กลับไปเป็นตำแหน่งหนึ่งเดียวกับเย้นหว่านอย่างอัตโนมัติแบบนี้ ทำให้โห้หลีเฉินโกรธมาก อยากฉีกเขาให้เป็นเสี่ยงๆอยู่ทุกวินาที
เซอร์ยุนซีรู้สึกอากาศหนาวโจมตีมาซึ่งๆหน้า ทำให้เขาอดกลัวจนตัวสั่นไม่ได้
แต่เขาสามารถเข้าใจได้
โห้หลีเฉินรักและเอ็นดูเย้นหว่านขนาดนั้น ตอนนี้เย้นหว่านป่วย เขาจะต้องเป็นห่วงและกังวลมากอยู่แล้ว อารมณ์ไม่ดีก็สมควรแล้ว
เซอร์ยุนซีพูดอย่างอารมณ์ดีมาก “พี่ไม่ต้องเป็นห่วงครับ ผมจะให้หมอที่ดีที่สุดในประเทศมารักษาเสี่ยวหว่าน รับรองเดี๋ยวเธอก็หายแล้วครับ”
“ไม่จำเป็น เธอกินยาแล้ว หลับงีบหนึ่ง เดี๋ยวก็ดีขึ้นแล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...