เย้นหว่านดวงตาเบิกกว้างอย่างตกตะลึง เกิดความทึ่งกับตรรกะอันแข็งแกร่งของผู้ชายตรงหน้า เหลือเชื่อจนรู้สึกพูดไม่ออก
ร่างสูงใหญ่ของเซอร์ยุนซีเข้าใกล้เย้นหว่าน แต่คราวนี้ยังคงรักษาระยะห่างเล็กน้อย
สายตาเขาจ้องตรงไปที่เธอ พูดเน้นทุกคำทุกประโยคอย่างจริงจัง
“เสี่ยวหว่าน ผมรู้ว่าคุณหัวโบราณ ไม่อยากมีเซ็กซ์ก่อนแต่งงาน งั้นผมจะไม่บังคับคุณอีก คุณก็ไม่ต้องทดสอบผมอีกแล้ว ผมไม่เคยเจอผู้หญิงที่ทำให้ผมประทับใจมากเท่าคุณมาก่อน ผมจะแต่งงานกับคุณแน่นอน”
คำพูดที่ดูเหมือนจะรักใคร่ลึกซึ้ง ทำให้เย้นหว่านยิ่งพูดไม่ออก
เธอไม่ได้ทดสอบว่าเขามุ่งมั่นอยากแต่งงานจริงๆ หรือไม่ เธอแค่อยากให้เขาตัดใจต่างหาก
เย้นหว่านอ่อนใจ ชี้ไปตามทางและพูดว่า
“คุณไปดูพวกเขาปลูกกระบองเพชรเถอะ ฉันจะเดินไปเอง”
เพื่อที่เขาจะได้ไม่ต้องเข้าใจผิดซ้ำสองอีก จึงต้องทำอะไรสักอย่าง
เซอร์ยุนซีคิดว่าเย้นหว่านยังติดใจสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้น จึงค่อนข้างกระวนกระวายและไม่สบายใจ แต่ก็ไม่ได้ดึงดันปฏิเสธข้อเสนอนี้
“ได้ ผมจะมารับคุณทีหลัง”
เซอร์ยุนซีเป็นผู้ชายเปิดเผยตรงไปตรงมา พูดคำไหนคำนั้น หันหลังทันทีและเดินไปตามทาง ไม่นานก็หายไปไม่เห็นแม้เงา
รอบตัวเย้นหว่านเหลือเธอเพียงคนเดียว ในที่สุดเธอถึงได้โล่งใจ
ในใจเต็มไปด้วยความอ่อนใจ
เธอไม่ได้อยากทำร้ายเซอร์ยุนซี แต่คนปัญญาอ่อนที่ไร้สมองนั่นกลับไม่แม้แต่ฟังการปฏิเสธของเธอ
ดูไปแล้วอาจจะต้องรีบตามหาเมล็ดแมกโนเลีย เธอกับโห้หลีเฉินจะได้ออกไปจากที่นี่โดยเร็ว จะได้ให้เขาเลิกคาดหวัง
เมื่อคิดแล้ว เย้นหว่านก็มองตรงไปยังเส้นทางข้างหน้าด้วยสายตาร้อนแรงเผาไหม้
ที่นี่อุณหภูมิค่อนข้างเย็น เป็นไปได้มากว่าเมล็ดแมกโนเลียจะอยู่ในนั้น
เธอต้องไปค้นหาดู
เย้นหว่านไม่ล่าช้าอีก เดินเข้าไปข้างใน ขณะที่เดินก็สังเกตพืชรอบๆ อย่างระมัดระวัง รายละเอียดเล็กน้อยก็ไม่มีพลาด
เมล็ดแมกโนเลียเป็นยาสมุนไพรชนิดหนึ่งที่หายาก และมีขนาดเล็กมาก
เย้นหว่านเดินไปข้างหน้าต่อไปเป็นเวลานานจนขาสองข้างปวดมาก แต่พืชที่อยู่ในพื้นที่นี้ ไม่มีร่องรอยของเมล็ดแมกโนเลียเลย
เมล็ดแมกโนเลียปลูกอยู่ที่ไหนกันแน่
ยิ่งค้นหานานเท่าไรเธอก็ยิ่งกังวลมากขึ้นเท่านั้น กลัวว่าตัวเองจะผิดทิศทางแล้วเสียโอกาสที่ครั้งนี้ได้เข้ามาในสวนพฤกษศาสตร์หลวง
ในตอนที่เย้นหว่านเกือบจะหมดหวัง ท่ามกลางต้นไม้ใหญ่เขียวชอุ่มข้างหน้า กลับมีประตูเหล็กแข็งแกร่งขนาดใหญ่
ตรงประตูมีกุญแจเข้ารหัสล็อกอยู่ เหนือขึ้นไปมีตาข่ายไฟฟ้าหนาแน่น ล้อมรอบด้วยราวเหล็ก และมีตาข่ายไฟฟ้าล้อมแยกต่างหากเป็นพื้นที่อิสระ
ด้านนอก ยังมีการ์ดสี่คนพร้อมกระสุนจริงอยู่ด้วย
ที่นี่คือสถานที่อะไร ทำไมถึงมีการ์ดคุมเข้มงวดขนาดนี้
มีการเฝ้าระวังสองชั้นในสวนพฤกษศาสตร์หลวง จะต้องเป็นพืชที่มีค่ามากอย่างเช่นเมล็ดแมกโนเลียใช่หรือไม่
เย้นหว่านดวงตาสดใส จิตใจค่อนข้างตื่นเต้น
เธอรีบเดินเข้าไป เพิ่งเข้าไปใกล้ ปืนสีดำสี่กระบอกก็เล็งมาที่ศีรษะของเธอแล้ว
การ์ดตะคอก “พื้นที่หวงห้าม ออกไป”
เพราะสถานะผู้หญิง บวกกับเป็นคนแปลกหน้าของพระราชวัง เมื่อเย้นหว่านมาที่เขตวัง จึงได้รับการปฏิบัติด้วยการเตือนเช่นนี้หลายครั้งแล้ว
จากตอนแรกเริ่มที่กลัวเล็กน้อย ตอนนี้เธอชินแล้ว
เธอเม้มริมฝีปาก เธอหยิบเอาป้ายท่านดยุกออกมาจากอ้อมแขนด้วยสีหน้าเยือกเย็น
การ์ดทั้งสี่เห็นป้ายท่านดยุก ก็เหมือนอย่างที่จินตนาการไว้ สีหน้าเปลี่ยนไปฉับพลันและเก็บปืนไปอย่างไม่อิดออด
โค้งคำนับเก้าสิบองศา พร้อมกับพูดด้วยความเคารพ
“คุณเย้น”
พูดกันมาหนาหูปากต่อปาก ตอนนี้การ์ดเกือบทุกคนในสำนักราชวังรู้หมดแล้วว่าผู้หญิงที่ถือป้ายท่านดยุกคือเย้นหว่าน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...