บทที่ 89 อ่อนโยนแบบไม่เคยเป็นมาก่อน
การรักคนคนหนึ่ง ในความเป็นจริงนั้นมันยากมากกว่าจะได้รักกัน
แต่ในสถานการณ์แบบนี้นั้น ทำไมโห้หลีเฉินถึงไม่อยู่ข้างๆ คอยปลอบเธอนะ ไปนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานที่ไกลขนาดนั้นทำไม
หรือจะเป็นเพราะว่า…..เพื่อไม่ให้น่าสงสัย
เย้นหว่านมองดูถาดของตัวเองที่อยู่ในมือ เขากำลังขัดจังหวะที่ดีของคนอื่นอยู่รึเปล่าเนี่ย
“เอ่อ คือ พวกคุณคุยกันต่อเถอะค่ะ ฉันขอตัวนะคะ”
พอวางถาดลงบนโต๊ะแล้วเย้นหว่านก็หันหลังออกไปทันที
โห้หลีเฉินมองดูแผ่นหลังของเธอ เม้มปากแล้วก็พูดเสียงเบาอ่อนโยนว่า
“เดี๋ยวผมรีบลงไป คุณรอผมแป๊บนึงนะ”
“……ค่ะ”
เย้นหว่านไม่ได้หันหน้ากลับมา แล้วก็รีบออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว แล้วก็ปิดประตู
มู่หรุงชิ่นจ้องโห้หลีเฉินอยู่ตลอดเวลา รู้สึกแปลกใจที่เห็นเขายกยิ้มแบบนั้น แล้วก็ทึ่งกับน้ำเสียงที่อ่อนหวานของเขา
นี่เป็นครั้งแรกที่โห้หลีเฉินนั้นอดทนกับผู้หญิงขนาดนี้
ในใจมีความอิจฉาและริษยาขึ้น มู่หรุงชิ่นค่อยๆ กำหมัด แล้วก็พยายามระงับอารมณ์ตัวเองไว้
เธอเม้มปาก แล้วก็ยิ้มด้วยความอิจฉา
“น่าอิจฉาเย้นหว่านยังเลยนะ ที่มีพี่อยู่ ต่อไปก็คงมีลูกสาวลูกชาย มีความสุขไปตลอดชีวิต”
โห้หลีเฉินเก็บสายตาที่มองไปตรงประตูนั้นกลับมา มองดูท่าทางที่หดหู่ของมู่หรุงชิ่น แววตาหม่นหมอง แล้วก็รู้สึกผิดอยู่ลึกๆ
ถ้าไม่ใช่เพราะเขาในตอนนั้น มู่หรุงชิ่นก็คงไม่ต้องเจอกับอุบัติเหตุ จนเสียความสามารถในการมีลูกไปหรอก
เขาพูดเสียงแข็งว่า : “เดี๋ยวฉันจะช่วยเธอหาป่ายฉีเอง ฝีมือทางการแพทย์ของเขานั้นเลื่องลือมาก บางทีอาจจะทำให้เธอมีโอกาสที่จะมีลูกได้นะ”
นี่เป็นสิ่งที่เขาติดหนี้มู่หรุงชิ่น เขาก็จะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อที่จะทำให้เรื่องนี้สำเร็จ
มู่หรุงชิ่นยิ้มด้วยความหมดคำพูด หน้าที่ซีดขาว ตั้งใจยกยิ้มขึ้นเพื่อให้คนดูแล้วยิ่งสงสาร
“ฉันก็ได้ยินมาว่าป่ายฉีนั้นเก่ง แต่เขานั้นหาเบาะแสยากมาก เลยคิดว่าจะมาหาพี่ให้ช่วยเหลือ แต่ไม่ว่าจะหาเจอหรือไม่ รักษาหายได้หรือไม่ได้ ก็ไม่เป็นไร ฉันทำใจไว้ตั้งแต่แรกแล้วล่ะ”
มู่หรุงชิ่นยิ่งทำใจได้ ก็ยิ่งทำให้คนรู้สึกผิดขึ้นอีก
โห้หลีเฉินเม้มปาก ในใจรู้สึกสับสน ไม่ได้พูดอะไรต่อ
พอออกจากห้องหนังสือแล้ว เย้นหว่านก็กำลังคิดถึงปัญหาอยู่ เรื่องแต่งงานระหว่างเธอกับโห้หลีเฉิน
ตอนนี้มู่หรุงชิ่นก็กลับมาแล้ว ไม่ว่ายังไงเขาก็ต้องสละตำแหน่งของว่าที่เจ้าสาว จะอยู่เป็นสิ่งขวางกั้นของทั้งสองคนไม่ได้ แล้วก็จะออดอ้อนในฐานะว่าที่เจ้าสาวกับโห้หลีเฉินไม่ได้อีกแล้ว
อีกอย่างคุณหญิงท่านก็ได้คิดเตรียมฤกษ์ไว้แล้ว ถ้ายิ่งยื้อเรื่องนี้ไปอีก สุดท้ายคงจะทำให้คุณย่าผิดหวังมากกว่าเดิม
เธอต้องคุยเรื่องการยกเลิกงานแต่งกับโห้หลีเฉินแล้ว อีกอย่างคือยิ่งเร็วยิ่งดี
นั่งรอในห้องรับแขกที่น่าเบื่อสักพัก โห้หลีเฉินและมู่หรุงชิ่นก็คุยกันเสร็จแล้ว พวกเขาเดินลงมาจากบันได
เย้นหว่านเงยหน้าขึ้นมามองเห็นทั้งสองกำลังเดินลงมา รู้สึกแค่ว่าเป็นคู่สร้างคู่สม ไม่มีอะไรจะเหมาะไปกว่านี้แล้ว
แต่ในใจรู้สึกไม่สบายใจนิดหน่อย คงจะเป็นเพราะตัวตนของเธอนั้นน่าอายแหละมั้ง
“คุณย่าคะ รักษาสุขภาพดีๆ นะคะ หนูกลับก่อนนะคะ ไว้ว่างๆ เดี๋ยวหนูมาหาอีกนะคะ”
มู่หรุงชิ่นบอกลาจูเหลียนอีงอย่างมีมารยาท จากนั้นก็เดินไปตรงหน้าของเย้นหว่าน
ท่าทางดูสนิทมาก “เย้นหว่าน ไว้วันหลังถ้าว่างๆ เราไปเที่ยวด้วยกันนะ”
“ได้ค่ะ”
เย้นหว่านตอบแบบไม่ได้ใส่ใจ เขากับมู่หรุงชิ่นคงไม่ต้องมีอะไรที่ต้องไปเที่ยวด้วยกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...