หยูฉู่สองนำทีมบอดี้การ์ดมา เดินมาด้วยท่าทางดุดัน
เหล่าบอดี้การ์ดกระจายตัวไปยืนล้อมโห้หลีเฉิน
หยูฉู่สองหน้าดำเดินอาดใหญ่เข้ามา ตรงมาอยู่ด้านหน้าท่านอาวุโสห้า สายตาเย็นชามองโห้หลีเฉิน
แล้วดุด่าว่า "โห้หลีเฉิน แกทำอะไร กล้าฆ่าท่านอาวุโสห้างั้นเหรอ!"
โห้หลีเฉินเหลือบมองท่านอาวุโสห้าที่ตายแหล่มิตายแหล่อยู่บนพื้น แล้วมาเผชิญหน้ากับหยูฉู่สอง ด้วยสายตาที่เย็นชาอย่างยิ่ง
เขาอ้าริมฝีปากบางออกเล็กน้อย เอ่ยพูดถ้อยคำที่ทำให้คนตัวสั่น
"หลีกไป"
หยูฉู่สองมองท่าทีเย็นชาโหดร้ายของโห้หลีเฉิน แล้วขมวดคิ้วแน่น สีหน้าจริงจังยิ่งขึ้น
"ฉันเป็นปู่แก ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นผู้นำตระกูลหยูด้วย แกไม่ได้รับอนุญาตให้ทำตัวเหลวไหลแบบนี้ รีบวางมือซะ อย่าให้ฉันต้องลงมือกับแกนะ"
ระหว่างที่พูด หยูฉู่สองก็ขยับปืนในมือไปด้วย
เป็นสัญญาณของการข่มขู่
พวกบอดี้การ์ดที่ตามเขามา ต่างพากันเบี่ยงไปทางโห้หลีเฉินเล็กน้อย เข้าตีวงล้อมด้วยท่าทางคุกคามอึมครึม
เว่ยชีมองดูภาพนี้ พร้อมกับขมวดคิ้วอย่างไม่ชอบใจ
เวลานี้เขาควรอยู่ข้างโห้หลีเฉินเพื่อปกป้องเขา แต่ตอนที่มาโห้หลีเฉินได้สั่งไว้ว่า ต้องนำคนไปเฝ้าใกล้ๆ พวกเย้นโม่หลิน ห้ามห่างแม้ครึ่งก้าว เพื่อให้ได้มีโอกาส
เว่ยชีได้แต่เฝ้าดูเงียบๆ ด้วยความร้อนใจ
แต่โห้หลีเฉินกลับไม่ได้สนใจเหตุการณ์ตรงหน้า มองหยูฉู่สองด้วยสายตาเย็นชาเฉยเมย
เขายิ้มเยาะพร้อมกับเล่นมีดสั้นในมือ "การลงมือเป็นเรื่องที่เลี่ยงไม่ได้ คุณปู่ เรามาสู้กัน การต่อสู้ครั้งนี้ใครจะแพ้ใครจะชนะ"
คิ้วของหยูฉู่สองขมวดแน่น ตะโกนด้วยความโกรธ
"แกจะลงมือกับฉันเหรอ ฉันเป็นปู่แกนะ!"
รอยยิ้มมุมปากของโห้หลีเฉินทั้งเย็นชาและแดกดัน
เขาไม่เคยรู้สึกถึงความรักและความเมตตาของปู่ที่อยู่ในตำแหน่งผู้นำตระกูลคนนี้
ตอนนี้ถ้าไม่ใช่เพราะเขามีสายเลือดที่เป็นหนึ่งเดียวไม่มีสอง เขาคงตายด้วยน้ำมือญาติเหล่านี้ไปตั้งนานแล้ว
"คิดจะแตะต้องคนของผม ไม่ว่าใครก็ไม่ได้ทั้งนั้น"
โห้หลีเฉินยกมีดสั้นในมือขึ้น มีเลือดสดเหนียวหนึบบางส่วนติดบนตัวมีด ทำให้คนที่เห็นตื่นตระหนก
เขายิ้มอย่างเย็นชา "คุณปู่ เพื่อแสดงความเคารพต่อคุณเป็นครั้งสุดท้าย เชิญคุณก่อน"
ท่าทางสุภาพบุรุษที่มีมารยาทแบบนั้น แทบจะทำให้หยูฉู่สองกระทืบเท้าด้วยความโกรธ
เขาโกรธจัดจนหน้าแดง แล้วด่าว่า "โห้หลีเฉิน แกแน่ใจแล้วใช่ไหมว่าแกจะเป็นศัตรูกับฉัน"
เขาเป็นผู้นำตระกูลหยู เป็นคนที่กุมอำนาจทั้งตระกูลหยู
ยิ่งกว่านั้นยังเป็นปู่แท้ๆ ของโห้หลีเฉิน เขาจะสามารถเป็นศัตรูและลงมือกับเขาได้อย่างไร
เผชิญหน้ากับคำถามของหยูฉู่สอง โห้หลีเฉินเม้มริมฝีปากบางโดยไม่พูดอะไร แต่ใบหน้าหล่อเหลากลับมีความอดทนอย่างเห็นได้ชัด
จิตใจหยูฉู่สองเย็นยะเยือก
มองท่านอาวุโสห้าที่จะตายอยู่รอมร่อข้างหลัง และท่านอาวุโสสี่ข้างๆ ที่ตายไปแล้ว สองคนนี้เป็นคนสนิทที่สำคัญของเขา ถูกโห้หลีเฉินฆ่าตายหนึ่งบาดเจ็บหนึ่ง
และมองไปยังพวกเย้นโม่หลินทั้งสามคนที่บาดเจ็บสาหัสอยู่ไม่ไกล ถูกบอดี้การ์ดของโห้หลีเฉินล้อมเอาไว้ คุ้มกันโดยไร้ช่องว่าง
ทัศนคติของโห้หลีเฉินค่อนข้างชัดเจน ว่าเพื่อพวกเขาแล้ว จะต้องเป็นปริปักษ์กับตระกูลหยู
หยูฉู่สองปรารถนาจะยิงโห้หลีเฉินให้จบในนัดเดียว
แต่เขาพยายามควบคุมอารมณ์รุนแรงของตัวเอง แล้วพูดเกลี้ยกล่อมโห้หลีเฉิน
"เฉิน ฉันให้แกไปที่คลังสมบัติ สิ่งที่ควรเห็นแกก็ได้เห็นแล้วไม่ใช่เหรอ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...