"เลิกพูดเรื่องนี้เถอะ! ฉันก็ไม่ได้อยากมีหลานชายคนนี้สักเท่าไรหรอก!"
เย้นซิวหย่าด่าด้วยความโกรธ ดวงตาของเธอเป็นสีแดงก่ำ
เธอเป็นถึงคุณหนูในตระกูลเย้น แต่เล็กจนโตถูกเลี้ยงมาแบบประคบประหงม ไม่เคยมีใครพูดไม่ดีกับเธอแม้แต่คำเดียว
แต่ว่าตอนนี้เหมือนจะดี กลับถูกหลายชายตัวเองลงโทษขั้นเด็ดขาด ใช้กฎตระกูลจัดการหล่อน
เกือบเอาชีวิตไม่รอด แถมยังต้องอับอายขายหน้าอีก
สายตาของเจียงเป้ยนีกำลังครุ่นคิด สีหน้าของเธอเป็นทุกข์หนัก
"เมื่อก่อนพี่เย้นไม่เคยเป็นแบบนี้เลย ดีกับพวกเรามาก เคารพผู้ใหญ่ พอตั้งแต่กู้จื่อเฟยเข้ามาอยู่ในตระกูลเย้นเท่านั้นแหละ เขาก็เปลี่ยนไป......"
เธอหยุดไปครู่หนึ่ง ถอนหายใจแล้วกล่าวว่า "ไม่รู้กู้จื่อเฟยให้เขากินอะไรเข้า หรือว่าหลอกอะไรพี่เย้นหรือเปล่านะ"
เย้นซิวหย่านัยน์ตาเย็นชา กำหมัดไว้แน่น
กัดฟันพูดช้าๆออกมาทีละคำ "กู้จื่อเฟย!"
"ฉันไม่ปล่อยแกไว้แน่!"
เจียงเป้ยนีส่งสายตายิ้มแสดงชัยชนะ
......
กู้จื่อเฟยไม่รู้ว่านอนหลับไปนานแค่ไหน เมื่อเธอตื่นขึ้น ฟ้าก็มืดลงแล้ว
สายตาของเธอพร่ามัว แต่พอจะเห็นแสงสลัวๆอยู่ไม่ไกล
เวลากลางคืนมันมืดมาก มองอะไรก็ไม่ชัดเลย
นั่นคือแสงของหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่วางอยู่บนโต๊ะทำงาน เวลานี้ เย้นโม่หลินกำลังนั่งอยู่ตรงนั้น ใช้นิ้วสัมผัสมันเบาๆ
ที่น่าแปลกคือ เขาวางนิ้วลงบนมัน แต่กลับไม่มีเสียงดังออกมาแม้แต่นิดเดียว
ภาพที่เห็นทั้งหมด ราวกับภาพเคลื่อนไหวที่สวยงามและเงียบสงบภาพหนึ่ง
ภายใต้แสงสลัว ใบหน้าของเขาดูมีมิติมากขึ้น มีความสวยงามอย่างน่าทึ่ง
แต่กู้จื่อเฟยก็สังเกตเห็นว่า ใต้ตาของเขาไม่รู้ว่าเป็นเพราะเงาหรือรอยคล้ำใต้ตาจริงๆ
ขณะที่กำลังมองอยู่นั้น ก็เป็นเวลาตีสามแล้ว
เขายังคงทำงานอยู่อีกหรือ?
หรือว่าเพื่อคอยเฝ้าเธอ จึงย้ายโต๊ะทำงานมาทำในห้องของเธอด้วย
กู้จื่อเฟยรู้สึกตื้นตันใจจนพูดไม่ออกทันที แถมยังรู้สึกอบอุ่นและซาบซึ้งใจด้วย
เธอเปิดปากเรียกเขาเบาๆ "พี่เย้นคะ....."
เย้นโม่หลินหยุดพิมพ์ที่แป้นพิมพ์กะทันหัน เหลือบตาขึ้นมองมาทางกู้จื่อเฟย
"คุณตื่นแล้วหรือครับ?"
ขณะเดียวกัน เขาก็ลุกขึ้น ก้าวอาดๆเดินไปที่ข้างเตียง
โค้งตัวลงมองดูเธอ "เจ็บตรงไหนหรือเปล่าครับ?"
กู้จื่อเฟยส่ายหน้า ก็แค่อยากจะลุกขึ้นมานั่ง เธอทำท่าจะขยับ ฝ่ามืออันใหญ่ของเขาก็วางลงที่หลังของเธอประคองเธอให้ลุกขึ้นนั่ง
เขานั่งลงที่ข้างเตียง อยู่ใกล้เธอมาก แต่ก็ทิ้งระยะห่างไว้อย่างสุภาพบุรุษ
กู้จื่อเฟยรู้สึกว่ากลิ่นกายของเขาช่างหอมละมุน ร่างของเธออ่อนระทวยลงทันที เธอเซลงไปในอ้อมแขนของเย้นโม่หลินราวกับไร้กระดูก
แล้วพูดด้วยเสียงอ่อนนุ่มว่า
"ฉันสบายดีค่ะ เพียงแต่รู้สึกอ่อนเพลียนิดหน่อย ไม่ค่อยมีแรง อยากหาที่พิงสักหน่อย"
เย้นโม่หลินแข็งทื่อไปทั้งตัว
ก้มลงมองศีรษะเล็กๆบนหน้าอกของเขา ในใจรู้สึกกระสับกระส่ายอย่างควบคุมไม่ได้
เขากลืนน้ำลายอย่างเงียบๆ รักษากิริยาให้นิ่งไว้ ปล่อยให้กู้จื่อเฟยพิงตัวเขา
กู้จื่อเฟยราวกับแมวน้อยตัวหนึ่งสบายอยู่ในอ้อมกอดของเขา
เธอเห็นหน้าจอคอมพิวเตอร์ยังคงสว่างอยู่ "ยังมีงานค้างอยู่อีกหรือคะ?"
"อืม" เย้นโม่หลินตอบเสียงเบา
"ยังต้องทำอีกนานแค่ไหนคะ? ถึงกี่โมงกัน?"
"ถ้าไม่เสร็จ ก็ต้องทำต่อไปทั้งคืนครับ ถ้าคุณง่วงแล้วก็นอนต่อเถอะ ผมรบกวนคุณหรือเปล่า?"
เย้นโม่หลินพูดไป พลางรู้สึกเป็นกังวล
เขาอยากจะปกป้องกู้จื่อเฟย แต่ก็ต้องทำงานด้วย จึงต้องย้ายโต๊ะทำงานมาที่นี่ถึงจะทำสองอย่างพร้อมกันได้
แต่ว่าถ้าเป็นการรบกวนกู้จื่อเฟยแล้วละก็......
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...