“...อ้อ พี่ธามคะ รีบกลับมานะคะ มิลค์อยากนอนกอดที่รักแล้ว คิดถึงกอดของพี่ธามที่สุดเลย~” ฉันพูดประโยคนี้ออกไปหลังจากที่หันไปเห็นว่ามีใครบางคนกำลังยืนจ้องฉันอยู่พร้อมกับจ้องตากลับด้วยสายตาท้าทายเหมือนกัน แต่พี่ธามไม่อยู่แล้วนะคะวางสายไปตั้งแต่ประโยคก่อนหน้าแล้ว
ฉันแกล้งเป็นกดวางสายแล้วก็เดินผ่านหน้าไอ้บ้านั่นทันทีโดยที่ไม่ได้สนใจสายตาดุดันของเขาเลยสักนิด รู้สึกมีความสุขที่ได้เล่นละครเหมือนว่าตัวเองไม่ได้สิ้นไร้ไม้ตอก ระดับมิลานจะหาผู้ชายโปรไฟล์ดีแค่ไหนมาดามใจก็ได้ทั้งนั้นแหละ
“ไอ้นั่นมันเป็นใคร” เสียงแอลฟ่าถามขึ้นในจังหวะที่ฉันเดินผ่านพร้อมกับขยับตัวมาปิดกั้นทางเดินเอาไว้
“ไม่ใช่ธุระของนาย” ฉันตอบกลับทันที
“ไอ้ที่เธอไปเที่ยวยุโรปกับมันใช่ไหม” แอลฟ่าไม่สนใจคำตอบฉันเลยสักนิด แต่ยังถามต่อแล้วน้ำเสียงก็เริ่มเข้มขึ้นเรื่อย ๆ หึ! หมาหวงก้างล่ะสิมึง ขนาดไม่ได้เป็นแฟนกันแล้วเขายังหวงก้าง แล้วไม่คิดบ้างว่าตอนที่เป็นแฟนกันเขาไปขย่มกับใครให้ฉันเห็นต่อหน้าต่อตาฉันจะรู้สึกยังไง เลวฉิบหาย!
“ใช่ พี่ธามคนเดียวกันนั่นแหละ” ฉันตอบเขาพร้อมรอยยิ้มนิดหน่อยประหนึ่งว่ากำลังมีความสุขที่ได้พูดถึงพี่เขา
“ไหนบอกคนอื่นบอกว่ายังไม่ได้คบกันไงวะ แล้วเมื่อกี้พูดกับมันว่าอะไรฮะ!” พอฉันพูดเสร็จแอลฟ่าก็ตะคอกเสียงใส่ฉันทันที ดีค่ะ โมโหให้เยอะ ๆ เลยค่ะกูสะใจ!
“เรื่องส่วนตัวของฉันรึเปล่าแอลฟ่า หลีกทางได้แล้ว”
“หึ! ทำเป็นหวงตัวกับฉันแต่สุดท้ายไปนอนแบให้คนที่เพิ่งรู้จักกันเนี่ยนะมิลาน” แอลฟ่าเอ่ยคำพูดหยาบคายออกมาทำให้ฉันที่ได้ฟังคำดูถูกของเขาถึงกับปรี๊ดขึ้นมาทันทีแต่ยังก่อนถ้าอยากจะชนะไอ้พวกอารมณ์ร้อน เราต้องเย็นเป็นน้ำแข็งยิ่งน้ำแข็งทั้งมหาสมุทรแอตแลนติกเลยยิ่งดี
“แล้ว?” ฉันข่มอารมณ์เอาไว้แล้วก็ยั่วโมโหไอ้บ้านี่ต่อ
“ถามจริงเถอะที่แกล้งหวงตัวกับฉันนี่เพราะเธอกลัวฉันรู้ความจริงว่าเธอแม่งไม่บริสุทธ์รึไง” โอ้โหความคิดเหี้ยจริง จัญไรด้วย ไม่เลวคิดแบบนี้พูดแบบนี้ออกมาไม่ได้นะ มีลูกหลานเป็นผู้ชายจะสอนจะท่องใส่สมองมันทุกวันเลยว่าอย่าพูดจาแบบนี้กับผู้หญิงมันชั่ว!
“ฉันไม่จำเป็นต้องทำตัวให้นายเห็นค่าขนาดนั้นหรอกแอลฟ่าเพราะนายก็ไม่ได้มีราคาให้ฉันต้องไปพยายามเสแสร้งหวงตัว ฉันบอกแล้วไงเวอร์จิ้นฉันไม่มีทางเป็นของนาย” ฉันบอกด้วยรอยยิ้มสะใจแอลฟ่ายืนจ้องฉันนิ่ง เขากำมือแน่นจนมันสั่น หึ! โกรธล่ะสิ สะใจเป็นบ้าเลย
“แล้วเป็นไง เสียตัวครั้งแรก” ฉันนึกว่าไอ้บ้านี่จะโกรธจนไม่อยากคุยกับฉันต่อแต่ไม่เลยค่ะแค่แป๊บเดียว แววตาที่เต็มไปด้วยไฟของเขาก็เปลี่ยนเป็นแววตาที่มองฉันด้วยความสมเพชทันที จะเล่นแบบนี้ใช่ไหมแอลฟ่า
“ก็ดีนะ พี่ธามแซ่บมากเลย” ฉันลอยหน้าลอยตาบอกไปแม่งเลย ทั้งที่ในใจก็อายนะต้องมาพูดว่าตัวเองมีอะไรกับผู้ชายคนอื่นโดยที่คนที่ถูกพาดพิงถึงยังไม่เคยแม้แต่จับมือฉันด้วยซ้ำ
“เธอจะรู้ได้ไงวะว่าไอ้ห่านั่นแซ่บแค่ไหน ไม่ลองเปรียบเทียบกับคนอื่นดูก่อนรึไง” ไอ้ชั่ว! พูดมาได้ไม่อายปาก พูดกับผู้หญิงใครสั่งใครสอนให้พูดหมา ๆ แบบนี้วะ
“ไม่ล่ะแอล แค่พี่ธามคนเดียวฉันก็แทบไม่เห็นเดือนเห็นตะวันแล้ว หยุดพูดเถอะ ยิ่งพูดยิ่งคิดถึง” ฉันบอกแอลฟ่าด้วยรอยยิ้มทำให้ไอ้บ้านี่หน้าเหวอทันที หึ! มึงสอนให้กูปากร้ายแบบนี้เองค่ะแอล ปกติก็ปากร้ายนะ แต่ตอนนี้เลเวลเพิ่มขึ้นมาคูณร้อยคูณพันเรียบร้อย
“มิลานเธอแม่ง!” แอลฟ่าสบถออกมาแค่นั้น ส่วนฉันก็ยังยิ้มระรื่นจนกระทั่งมีเสียงของคนเดินมาทางนี้ แอลฟ่าเลยต้องจำใจหลีกทางให้คนอื่นเดิน ฉันเลยได้โอกาสเดินกลับมาที่โต๊ะทันที
“อีมิลาน~ หายหัวไปนานมากค่า” พอถึงโต๊ะอีแมนนี่ที่นั่งระริกระรี้คุยกับเควินอยู่ก็ทักทายฉันทันที แต่ฉันสังเกตเห็นว่ายัยพี่ฝ้ายที่นั่งอยู่ตรงข้ามดูอารมณ์ไม่ดี สงสัยกำลังโมโหที่ไอ้ชั่วแอลฟ่ามันหายหัวไปนานมั้ง
“ทำไมคะ มึงรีบกลับ?” ฉันนั่งลงข้างมันพร้อมกับยกแก้วขึ้นกระดก ดื่มค๊อกเทลเบา ๆ นะคะเพราะเพิ่งปีหนึ่งถึงสังคมของฉันจะดูเป็นผู้ใหญ่กันมากแต่ตัวฉันก็ยังเพลา ๆ อยู่ค่ะ
“บ้าเหรอ กูจะอยู่ยันพนักงานเก็บเก้าอี้นั่นล่ะค่ะ” อีแมนนี่บอกแล้วก็เป็นจังหวะเดียวกันกับที่แอลฟ่าเดินกลับมานั่งพอมาถึงก็รินเหล้าเพียว ๆ จนเต็มแก้วแล้วก็ยกกระดกหมดแก้วทันที
“นอนนี่ได้นะมิลาน แมนนี่ มีห้องรับแขกอยู่ชั้นสามจะได้ไม่ต้องขับรถกลับมันอันตราย” ออสตินเอ่ยขึ้น ดีอ่ะ หล่อ แบด แต่ยังมีความแสนดี ไม่น่าล่ะมินตรามันปลื้มนักหนา ปลื้มจนกลายเป็นแอบรักไปแล้ว
“ถ้างั้นคงต้องให้สองคนนี้นอนห้องเล็กนะกูกำลังจะขึ้นไปใช้ห้อง” เสียงเข้มดังขึ้นในทันทีที่ฉันกำลังจะอ้าปากขอบคุณออสติน
“ไหนมึงบอกจะกลับบ้านวะ” ออสตินหันไปถามแอลฟ่าทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: So Long ลารักร้ายผู้ชายสารเลว!