“ผับจะปิดแล้วจะกลับเลยไหมวะ” ผมถามขึ้นมาเพราะเริ่มทนมองมิลานนั่งยิ้มให้จอโทรศัพท์ไม่ไหว แม่งขนาดนั่งควักนั่งนัวกับเจนนี่ต่อหน้าเธอยังแค่หันมาเหลือบมองด้วยสายตาเย็นชาเลยครับ
“ทำไมอยากแล้วเหรอ” อยู่ ๆ มิลานก็ถามผมขึ้นมาพร้อมส่งสายตาสมเพชมาให้ นี่น่าจะเป็นคำแรกที่เธอกับผมคุยกันในรอบปีกว่า ๆ เลยล่ะครับ แต่แม่งปากดีขึ้นเยอะเลยว่ะ
“อืม เงี่ย-แล้วน่ะ” ผมตอบไปตั้งใจจะยั่วโมโหยัยนี่กลับ ปากดีแบบนี้ต้องปากหมาเข้าใส่ ยัยงี่เง่าแม่งทั้งที่ผมจะกลับไปนอนแล้วแท้ ๆ ไม่ได้มีอารมณ์จะมาเอาใครทั้งนั้นแต่ยัยนี่ยังจะมายั่วใส่อีก
“อ้อลืมไปนี่เดือนเก้านี่เนอะ ถ้างั้นก็รีบไปเอากันให้หายอยากเถอะ สงสารเดี๋ยวจะโหยหวนเอา” มิลานตอกกลับมาทันควันพวกเพื่อนเธอที่ไม่รู้เรื่องของเราจากที่งงอยู่แล้วยิ่งเหวอเพิ่มไปอีก
“นี่เธอว่าฉันกับแอลเป็นหมาเหรอฮะ!” เจนนี่ที่นั่งฟังอยู่นานก็หวีดเสียงแหลม ๆ ขึ้น เสียงแม่งเหมือนนกหวีดเลยว่ะ แล้วผมที่นั่งข้างเธอแม่งหูแทบแตก
“อืม” มิลานยักคิ้วให้เจนนี่แล้วจ้องตากับเจนนี่แบบที่ไม่ยอมเหมือนกัน สายตามิลานเอาเรื่องจนเจนนี่ต้องยอมถอย
“แอลฟ่าคะยัยคนนี้มันว่าเจนนี่เจนนี่ไม่ยอมนะคะ” เจนนี่หันมากอดแขนผมแน่น หึ! แล้วผมจะจัดการกับยัยนี่ยังไงวะ มิลานแม่งเลเวลความร้ายพัฒนาขึ้นสูงฉิบหาย แล้วไหนเธอจะมองผมกับเจนนี่ด้วยแววตาสมเพชอีก
“อย่าไปสนใจเลยที่รักเราไปสนุกกันดีกว่า” ผมพูดแล้วปรายตามองมิลานก่อนจะช้อนเจนนี่ขึ้นอุ้มพร้อมกับประจบจูบพาเดินขึ้นไปชั้นสามของผับท่ามกลางสายตาของทุกคนบนโต๊ะ แล้วก็คนรอบ ๆ ที่ส่งเสียงโห่แซวมา
“โธ~ มึงไม่เอากันตรงนี้เลยล่ะคะ ถ่างขาตรงโซฟาเลยค่ะเดี๋ยวกูย้ายโต๊ะให้” เสียงแมนนี่ตะโกนไล่หลังแต่ผมไม่ถือสามันหรอกครับ มันก็คงหมั่นไส้เจนนี่ไปตามประสานั่นแหละ ขอไปจัดการกับเจนนี่ก่อนแล้วกัน
#ALPHA END
#MILAN TALK
ฉันมองภาพตรงหน้าด้วยความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูก ทั้งเกลียด ทั้งขยะแขยงความมักมากของแอลฟ่า เขาทำแบบนั้นอีกแล้วทำต่อหน้าฉันที่เขาเคยทำให้เจ็บจนต้องเลิกกัน ทำไมมันไม่สำนึกบ้างวะ อีกใจฉันก็หน่วงนะคะถึงจะมีแฟนใหม่แล้วแต่มันก็ยังรู้สึก รักแรกมันลืมยาก แต่ไม่ได้รักนะ แค่ยังไม่ลืมเฉย ๆ ไม่งงใช่ไหม
ฉัน ไม่ ได้ รัก ไอ้ เลว นั่น!
“พอเ5อะแมนนี่” เสียงมินตราดังขึ้นมาตอนที่อีแมนนี่ตะโกนไล่หลังสองคนนั้น นี่ครั้งที่สองแล้วนะคะที่ฉันเห็นเขาลากผู้หญิงไปกินตับกันบนผับของออสติน ขอบคุณความเข้มแข็งของตัวเองจริง ๆ ที่พาตัวเองก้าวเดินออกมาไม่งั้นป่านนี้จะเจออะไรบ้างก็ไม่รู้
“โอ๊ยอีชะนีนั่นอ่ะ มึงไม่หมั่นไส้มันบ้างเหรอ” อีแมนนี่หันมาบ่นกระปอดกระแปด อีนี่มันแอนตี้ชะนีร่านค่ะ มันเป็นสาวหัวโบราณ แมนนี่มันจะรับไม่ค่อยได้ถ้าเห็นใครมาร่านต่อหน้า
“ช่างเขาน่ามึง” มินตราปรามแมนนี่อีกครั้ง
“เออก็ได้ค่ะลูกสาว ว่าแต่มึงเถอะอีมิลานมึงเป็นอะไรไปพูดกัดแอลฟ่าแบบนั้น มึงไม่ได้สนิทกันนี่คะทำไมพูดแรงจัง” อีแมนนี่หันมาสอบสวนฉันทันที นึกแล้วว่าพวกมันต้องสงสัยแต่เริ่มเมาแล้วไงคะเลยปากไว
“ไม่มีไรมึง กูแค่เมาเลยปากไว” ฉันแก้ตัวออกไป
“โห แต่เมื่อกี้มิลานแม่งเหมือนเมียกำลังด่าผัวเลยว่ะ ถ้าไม่รู้จักกันเราคิดว่าเธอกับไอ้แอลแม่งมีซัมติงแน่ ๆ” อีตาเควินพูดออกมาแต่ฉันนี้รู้สึกตงิดใจทันที พอหันไปมองเควินก็เห็นสายตารู้ทันของเขา อย่าบอกนะว่าเควินรู้เรื่องของฉันกับแอลฟ่าน่ะ โอ๊ย! อีมิลค์ไม่ได้อยากให้ใครสักคนมารู้เรื่องที่เป็นจุดด่างพร้อยของชีวิตนะ แม้แต่มดก็ไม่อยากให้รู้!
“คิดมากน่าเควิน” ฉันตอบเควินไปพร้อมส่งสายตาไปให้เควินว่าอย่าพูดมาก แต่เขากลับยิ้มทำให้ฉันมั่นใจทันทีว่าเควินรู้เรื่องนี้แน่นอน และไม่แน่อาจจะรวมถึงออสตินด้วยที่รู้!
-02.00 น.-
ฉันกลับมาถึงห้องแล้วค่ะ กว่าจะถึงเหนื่อยมากเมามากด้วยเช่นกัน ตอนแรกก็จิบค๊อกเทลแหละแต่จิบไปจิบมาเพลินไปหน่อยแก้วแล้วแก้วเล่าความเมามันเลยถามหา
ว่าจะล้มตัวนอนเลยไม่ได้ขี้เกียจอาบน้ำนะคะ แต่ฉันกลัวหัวหมุนแล้วล้มหัวฟาดพื้นห้องน้ำตาย อยู่คนเดียวด้วยขืนเป็นแบบนั้นขึ้นนมากว่าคนจะรู้คงหลายวันศพฉันคงอืดมีน้ำเหลืองน้ำหนองไหลนองส่งกลิ่นเหม็น บางทีอาจจะอืดจนผิวปริแตก อี๋~ แล้วสภาพล้มตายตอนเมา หน้าเน่อเลอะเทอะหัวก็ฟู ไม่ได้หรอกค่ะ ฉันไม่อยากให้มีใครเจอสภาพฉันแบบนั้น เพราะฉะนั้นพอถึงห้องไฟฉันก็ไม่เปิดให้เสียเวลาตรงดิ่งไปนอนเลยดีกว่าเพื่อรักษาชีวิตของตัวเองไว้ อิอิ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: So Long ลารักร้ายผู้ชายสารเลว!