"พวกมึงก็ออกไปรอข้างนอกด้วย" พอคนของพ่อออกไปแล้วเขาก็เลยหันไปสั่งเพื่อนของเขาบ้าง
"มีอะไรจะพูดก็รีบพูดมา ทำเป็นมีลับลมคมในไปได้" ตอนนี้ในห้องมีแค่เขากับพ่อเพียงสองคน
"พ่อจำได้ไหมครับว่าบริษัทนี้เป็นชื่อใคร"
จากที่ไม่สนใจว่าลูกชายจะพูดอะไร สำราญถึงกับวางของที่อยู่ในมือลง แล้วมองไปที่ลูกชายแบบเต็มตา
"แกไม่ต้องมาขู่พ่อ"
"ผมไม่ได้ขู่ ผมแค่ขอให้พ่อปล่อยครอบครัวของเธอไป"
"หึ.. แต่ก่อนเป็นแกไม่ใช่เหรอที่อยากจะเล่นงานคนพวกนั้น"
เหนือตะวันถึงกับหยุดชะงัก ใช่แล้วแต่ก่อนเป็นเขา ..ที่หนีเตลิดออกจากบ้านไปก็เพราะเรื่องนี้ แต่ทำไมถึงเป็นเขาอีก ที่กำลังดิ้นรนช่วยเธออยู่
"พ่อไม่ต้องมาย้อนผม" ลูกไม้ย่อมหล่นไม่ไกลต้น ฆ่าได้หยามไม่ได้ ยิ่งพ่อจับจุดได้แบบนี้ เขาต้องรีบกลบเกลื่อน
"ถึงแกจะพูดยังไง พ่อก็ต้องเอามันคืนอยู่แล้ว..ออกไป" สำราญยังคงโมโห ถึงแม้ว่าลูกสาวของพวกเขาจะตกเป็นเมียลูกชายไปแล้ว แต่ยังไงก็จะเล่นงานครอบครัวนั้นให้ได้อยู่ดี
"พ่อ.."
"และแกไม่ต้องมาขู่พ่อนะ ถ้าแกอยากจะไปอยู่ที่บ้านนอกคอกนาแบบนั้นก็ไปเลย" สำราญรู้ดีว่าลูกจะเอาเรื่องพวกนี้มาข่มขู่เพื่อให้ล้มเลิกความตั้งใจเดิม
"ใครบอกว่าผมจะขู่พ่อล่ะ ผมจะเข้ามาบริหารงานเองต่างหาก"
"อะไรนะ"
"ผมจะเข้ามาบริหารงาน เริ่มตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป"
"..แกพูดจริงเหรอ..ไม่สิ..ไม่มีทาง" ถึงแม้ว่าสำราญจะดีใจมากที่ได้ยินสิ่งที่เหนือตะวันพูดมา แต่ต้องทำเป็นเมินเฉยไว้ก่อน เดี๋ยวลูกชายจะไม่กระตือรือร้น
"ในเมื่อบริษัทนี้ก็เป็นชื่อของผมอยู่แล้ว ทำไมผมจะเข้ามาบริหารไม่ได้" เรื่องบริหารงานถึงแม้ว่าเขาจะไม่ถนัด แต่ถ้าจะให้ทำจริงๆ เขาคงทำได้ เพราะมีความรู้เรื่องพวกนี้พอสมควร
"แล้วแต่แกแล้วกัน ก็ในเมื่อบริษัทนี้เป็นชื่อของแกอยู่แล้วนี่!! พ่อจะทำอะไรได้" ว่าแล้วสำราญก็ทิ้งเอกสารนั้นลงแบบไม่พอใจ แล้วก็ลุกขึ้นเดินออกจากห้องนี้ไป ..แต่ใครจะรู้ว่าในใจของผู้เป็นพ่อในตอนนี้เป็นยังไง เพราะความต้องการจริงๆ ของเขาก็คืออยากให้ลูกกลับมารับผิดชอบงานมากกว่า
และอีกอย่างตอนนี้สำราญรู้แล้วว่าจะดึงลูกกลับมาได้ยังไง "เธอไม่ธรรมดาจริงๆ มิลาน"
ตอนนี้สำราญคิดว่าดึงลูกชายกลับมาไม่ได้แล้ว แต่ไม่คิดว่ามันจะเป็นฝีมือของเด็กผู้หญิงคนนี้ ที่สามารถเปลี่ยนใจลูกชายให้กลับมาได้แบบนี้ ..แต่ก็ไม่แปลกเพราะเขาก็หลงเธอหัวปักหัวปำเช่นกัน หลงโดยที่เธอไม่ต้องทำอะไรเลยด้วยซ้ำ
"คุณชื่ออะไรนะ" ที่จริงเหนือตะวันคิดว่าว่าจะเข้ามารับงานในวันพรุ่งนี้ แต่พอพ่อทิ้งงานให้ เขาก็ต้องได้เริ่มทำตั้งแต่วันนี้เลย ..อันดับแรกก็ต้องเรียกเลขามาถามชื่อเสียงเรียงนามก่อน
"ชื่อดอกอ้อค่ะ"
"ช่วยเอาเอกสารที่เกี่ยวกับทรัพย์สินทั้งหมดของคุณภูธรมาให้ผมด้วย" ก่อนอื่นเขาต้องรู้ก่อนว่าพ่อของเขาทำอะไรกับทรัพย์สินพวกนี้
"ขอโทษค่ะเรื่องนั้นมันเกินหน้าที่ของดอกอ้อจริงๆ ค่ะ"
"แล้วผมต้องไปติดต่อที่ไหน"
"ฝ่ายกฎหมายของบริษัทค่ะ"
เย็นวันเดียวกัน..
"มึงจะมองกูอีกนานไหมไอ้เสก"
"กูฝันหรือเปล่า?.. มึงรวยขนาดนั้นแล้วทำไมมึงไปทำนาช่วยตาพงษ์กับยายวรรณีวะ"
"จะทำอะไรก็เรื่องของกูสิ มึงจะแดกไหมข้าว" ตอนนี้ทุกคนกำลังนั่งทานข้าวร่วมกัน ซึ่งหนึ่งในนั้นก็มีมิลานอยู่ด้วย และเธอก็อยากจะถามเรื่องของพ่อกับเขามากแต่ก็ยังไม่มีโอกาส
"เรื่องพวกนั้นเอาไว้ก่อน เรามาแก้ปัญหาเฉพาะหน้าตอนนี้" คนที่พูดขึ้นก็คือมกราซึ่งเป็นเจ้าของห้องนี้
"มีอะไร"
"มึงคิดจะมาอยู่ที่นี่อีกนานแค่ไหน มึงไม่คิดเหรอว่ากูต้องการความเป็นส่วนตัว"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สยบรัก