สยบรัก นิยาย บท 44

ในขณะที่แสงไฟกำลังลอยมา มิลานก็ได้หันไปมอง ทีแรกตกใจคิดว่าเป็นกระสือ แต่พอมองดูดีๆ แสงไฟจากตะเกียงที่ส่องสว่างนั้นได้ส่องไปที่ใบหน้าของคนที่กำลังถือมันอยู่

หญิงสาวรีบลุกขึ้นทันทีที่แน่ใจว่าเป็นใครกำลังเดินตรงเข้ามา ..สายตาของเธอมองไปที่ป้ากับลุง ซึ่งนั่งเล่นคุยกันอยู่ใต้ถุนบ้าน

ทั้งสองเห็นใบหน้าของเธอเหมือนตื่นตระหนก ต่างก็หันกลับไปมองตามสายตานั้น พอหันกลับมาอีกทีเธอก็ได้หายไปแล้ว..คงหาที่ซ่อน

"ป้ากับลุงมาทำอะไรอยู่ตรงนี้ครับ"

"ไอ้หำมาตั้งแต่เมื่อไรลูก" ลุงเป็นคนเอ่ยถามขึ้น และมันก็ทำให้พ่อกับแม่ของมิลานหันไปมองพร้อมกัน ..ผู้ชายหน้าตาดีขนาดนี้ทำไมถึงชื่อหำ

"ผมแวะมาส่งไอ้เสกมันครับ.. แล้วนี่?" ในขณะที่เหนือตะวันกำลังคุยกับลุงสายตาของเขาก็มองไปดูสองสามีภรรยาที่นั่งอยู่แคร่ไม้ด้วยกัน

"ลุงกับป้าย้ายมาจากกรุงเทพฯ" ลุงพงษ์กับป้าวรรณีพูดตะกุกตะกักนิดหนึ่ง แต่พอเห็นว่าเหนือตะวันถามว่าพวกท่านเป็นใคร ต่างก็เชื่อในคำพูดของมิลานแล้วที่บอกว่าพวกเขาไม่ได้เป็นอะไรกัน เพราะถ้าเป็นต้องรู้สิว่านี่คือพ่อกับแม่ของเมียตัวเอง

ลุงกับป้าก็เลยเก็บเรื่องนี้ไว้ให้ เพราะสงสารเด็กสาวที่หอบครอบครัวมาหวังจะพึ่งน้ำบ่อหน้า ถ้าพวกเขามีวาสนาด้วยกันจริงคงจะเจอกันเอง โดยไม่ต้องได้ให้ใครบอกกล่าว

ชายหนุ่มยิ้มให้กับท่านทั้งสองที่เพิ่งจะรู้จัก แต่เขาก็แอบคุ้นหน้าของชายวัยกลางคนคนนี้อยู่บ้าง

ส่วนชายวัยกลางคน หรือพ่อของมิลานนั้น ก็ไม่เคยรู้จักเขาเช่นกัน เพราะส่วนมากจะเข้าหาแต่ทางท่านรัฐมนตรีเท่านั้น

"ผมคงอยู่ที่นี่ได้ไม่นานครับจะรีบกลับ" ชายหนุ่มยังไม่ทันได้คุยอะไรมากมาย เพราะเขาต้องรีบกลับไปตามหาเธอ

"จะรีบไปไหน"

"ธุระที่กรุงเทพฯยังไม่เสร็จเลยครับ"

"ถ้างั้นเราไปคุยที่บ้านกันดีกว่า" ป้าวรรณีเป็นคนชวน

พอทุกคนออกจากบ้านหลังนี้ไปมิลานก็ออกมาจากที่ซ่อน

"ลูกเตรียมที่นอนไว้ให้แล้วค่ะ คุณพ่อกับคุณแม่ขึ้นไปพักผ่อนดีกว่า" หญิงสาวทำเหมือนว่าที่เธอหายไปเพราะไปเตรียมที่นอนให้พวกท่าน และพ่อกับแม่ก็ไม่ได้สงสัยอะไร

พอพวกท่านขึ้นไปข้างบนแล้ว ตอนนี้เหลือแค่เธอที่ยังยืนมองไปบ้านหลังนั้น หลังที่มีเขาอยู่ในเวลานี้ ทั้งที่ในใจคิดถึงเขามาก และเขาก็อยู่ใกล้แค่เอื้อม แต่ทำไมดูเหมือนว่าเขาอยู่ไกล..ไกลมากจริงๆ

วันต่อมาที่กรุงเทพฯ

"ทำไมมึงถึงทำงานช้าแบบนี้"

"กูก็พยายามตามหาให้มึงอยู่"

"หายไปทั้งครอบครัวขนาดนั้นทำไมมึงถึงตามไม่เจอวะ.." เหนื่อยก็เหนื่อยเพราะเพิ่งขับรถกลับมาถึง แถมยังไม่มีความคืบหน้าอะไรเลย

"มึงว่าพ่อมึงจะรู้เรื่องนี้ไหมวะ" มกราแอบสงสัยเรื่องนี้มาก

"มึงคิดว่าเป็นฝีมือของพ่อกูเหรอ"

"กูเปล่าคิด" มกรารีบปฏิเสธ เพราะห่วงความรู้สึกของเพื่อนมากกว่า

ถึงแม้ว่าจะไม่มีข้อมูลว่าเป็นฝีมือของพ่อเขาจริงไหม แต่เหนือตะวันก็ไม่ทิ้งความสงสัยนี้ไป

"ผมมาหาพ่อ"

"เออ..ท่านไม่อยู่ค่ะ" ที่แรกที่เขามาก็คือบริษัท เพราะตอนนี้ท่านต้องอยู่ที่นี่

เห็นแค่ท่าทางของเลขาเขาก็พอจะเดาออกแล้ว ชายหนุ่มเดินไปที่ห้องทำงานของผู้เป็นพ่อและเปิดประตูเข้าไปโดยไม่บอกกล่าว

"พ่อ?" สิ่งแรกที่เขาเห็นถึงกับทำให้ ชายหนุ่มหมดศรัทธาในตัวของผู้เป็นพ่อ "พ่อทำแบบนี้ได้ยังไง"

"ไม่มีอะไรหรอกน่าา คนเราเกิดมามีชีวิตเดียว ชอบอะไรก็ทำตามที่ชอบเท่านั้นเอง" สำราญปล่อยมือจากการโอบกอดร่างบางของหญิงสาวที่เกือบจะได้มาเป็นลูกสะใภ้ออก

และดูเหมือนว่าเธอคนนั้นจะอายอยู่มากที่ถูกจับได้

"แล้วพ่อเอาแม่ผมไปไว้ที่ไหน!!"

"ออกไปก่อน" สำราญหันไปพูดกับวุ้นเส้นให้ออกไปจากห้อง ..ใช่แล้วผู้หญิงคนนี้ก็คือวุ้นเส้น ตอนที่สำราญพูดกับภรรยา นั่นคือเขาพูดจริง เพราะดูแค่นี้ก็รู้แล้วว่าผู้หญิงที่ภรรยาอยากได้มาเป็นลูกสะใภ้กำลังเดือดร้อนเรื่องเงิน พอสำราญเสนอให้นิดหน่อยก็รีบตะครุบเอาไว้

"ผมคิดว่าพ่อจะมีความคิดบ้าง"

"มาหาพ่อมีอะไร จะมาบริหารงานเองอีกเหรอ.." สำราญเลือกที่จะไม่คุยเรื่องนั้นกับลูกชาย จึงเปลี่ยนเรื่องพูด

"ผมไม่ต้องการ" เหนือตะวันรีบพูดแทรกขึ้น เพราะเขาไม่ต้องการของพวกนี้อีกแล้ว ก่อนที่จะออกจากห้องนั้นมา เขาไม่ลืมที่จะถามเรื่องที่ตั้งใจมาก่อนหน้านั้น แต่คำตอบที่ได้คือ พ่อของเขาไม่รู้เรื่องที่เธอหายไป และไม่คิดอยากจะรู้เรื่องนี้ด้วย

ชายหนุ่มออกจากบริษัทก็กลับไปที่บ้านก่อน เพราะเป็นห่วงแม่เมื่อเห็นการกระทำของผู้เป็นพ่อแล้ว

"ตะวัน" ประไพเห็นลูกชายเข้ามาก็รีบเดินเข้าไปกอดลูกไว้

"แม่เป็นอะไร" พอเห็นสีหน้าของผู้เป็นแม่เขาก็รู้ได้ในทันทีว่าท่านคงจะรู้เรื่องนี้แล้ว

"แม่ผิดเอง แม่คิดว่าพวกนั้นจะไม่แว้งกัดแม่แบบนี้"

"มาจากกรุงเทพฯแล้วเขามาอยู่ที่แบบนี้ได้ยังไง ไฟก็ไม่มีน้ำประปาก็ไม่มี"

"แล้วเอ็งจะสงสัยอะไรนักหนาแล้วนี่มาทำไม"

"ก็คิดถึงป้ากับลุง ว่าแต่บ้านหลังนั้นมีลูกสาวไหมป้า"

"มี..ไม่มี" ป้าเผลอปากพูดออกไป

"ตกลงมีหรือไม่มี"

"ไม่มี กลับบ้านเอ็งได้แล้ว"

"ไม่กลับวันนี้ฉันจะมานอนที่นี่ เบื่อแม่บ่นมาก"

"ก็บ่นน่ะสิแม่เอ็งมีลูกไม่ได้เรื่องแบบเอ็งจะไม่ให้บ่นได้ยังไง"

"กลับก็ได้" หนีจากแม่มายังถูกป้าบ่นให้อีก ก็เลยคิดว่าจะไปหาจีบสาวในหมู่บ้านดีกว่า

วันต่อมา..

สำราญเซ็นต์ใบหย่ากับภรรยาแบบเงียบๆ เพราะไม่อยากให้เป็นข่าว ซึ่งลูกชายก็ไม่ได้ห้ามอะไร เขาขอเพียงแค่อย่างเดียวอย่าให้พ่อมาสร้างความเดือดร้อนให้แม่

"แม่อย่าร้องไห้นะครับ แม่ยังมีผมอยู่"

"ถ้าทุกคนรู้แม่จะกล้าสู้หน้าใครได้"

"เราแคร์คนทั้งโลกไม่ได้หรอกนะครับแม่ ใครจะพูดอะไรก็ปล่อยให้เขาพูดไป" เหนือตะวันปลอบใจแม่อยู่แบบนั้น ทั้งที่ใจหนึ่งก็เป็นห่วงเธอมาก

หลายวันต่อมา..

"กูไม่รู้จะไปหาที่ไหนได้แล้วว่ะ กูควรจะยุบสำนักงานนักสืบดีไหมวะ" อัลบั้มรูปในมือของมกราได้โยนลงตรงหน้าเหนือตะวันที่นั่งอยู่โซฟาห้องของคอนโดนั้น

"รูปใคร" เหนือตะวันหยิบอัลบั้มรูปนั้นขึ้นมาเปิดดู

"ก็รูปเก่าๆ ตอนที่มึงให้กูสืบเรื่องเมียน้อยพ่อของมึงนั่นแหละ จำไม่ได้หรือไงตอนนั้นกูก็ส่งรูปให้มึงดูอยู่" พอพูดมาถึงตรงนี้มกราต้องได้รีบหยุดคำพูดไว้ เพราะคนที่เขากำลังกล่าวถึงก็คือคนเดียวกับที่กำลังตามหาอยู่ในเวลานี้

"แล้วผู้ชายในรูปคนนี้เป็นใคร??"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สยบรัก