เขาไม่เป็นอันทำอะไร มัวแต่จ้องมองไปที่บ้านหลังนั้น เพื่อรอเวลาให้พ่อของเธอออกจากบ้านไปก่อน ส่วนแม่..ต้องชั่งใจดูก่อนว่าวันนี้ท่านจะตามไปที่สวนผักไหม
"ป้าจะไปไหนเหรอครับ" ชายหนุ่มถามขึ้นเมื่อเห็นว่าป้ากำลังจะเดินไปที่บ้านของเธอ
"ไม่ได้ยินหรือไงว่าลุงจะลงผักใหม่ ก็จะไปชวนแม่ของหนูมิลานไปช่วยกันจะได้เสร็จเร็วๆ"
"ดีครับ จะได้เสร็จเร็วๆ" มุมปากแอบยิ้มตามผู้เป็นป้า แต่เขาไม่รู้หรอกว่าป้าวรรณีอยากจะเปิดโอกาสให้เขาได้คุยกับเธอมากกว่า
"วันนี้ฉันห่วงลูกจังเลยพี่วรรณี" ดุจดาวอยากจะปฏิเสธแต่ก็เกรงใจเพราะวรรณีอุตส่าห์เดินมาชวน
"คงไม่เป็นอะไรหรอก..ปล่อยให้เด็กนอนพักผ่อนไปก่อนถ้าไม่ดีขึ้น ค่อยว่ากันอีกที"
จบคำพูดของป้าวรรณี..ดุจดาวก็เลยหันไปหากับลูกสาว
"แม่จะลงไปแปลงผักกับป้าเดี๋ยวตอนเที่ยงแม่จะกลับมาหานะ"
"คุณแม่ไม่ต้องเป็นห่วงลูกหรอกค่ะลูกดีขึ้นแล้ว" อาการของเธอจะปรากฏแค่ช่วงเช้า คล้ายๆ เหมือนกระเพาะบีบรัดตัว เพราะไม่มีอะไรลงไปในท้องก็เลยคลื่นไส้อาเจียน ยังคิดว่าตัวเองเป็นโรคกระเพาะหรือเปล่า
"หนูไม่เป็นอะไรแน่นะ ทานข้าวแล้วก็นอนพักผ่อน ถ้าตอนเที่ยงแม่ไม่ได้ขึ้นมาก็คงจะคล้อยเย็นหน่อยนะ"
"ค่ะ"
แม่กับป้าต่างก็เตรียมอาหารลงไปด้วย เพื่อที่จะให้พอทานทั้งมื้อเช้าและมื้อเที่ยง
"มึงมองอะไรอยู่วะ"
"กูตกใจหมดเลย! มึงมาทำไม" เขากำลังรอให้พวกท่านเดินออกจากบ้านไปไกลหน่อยถึงจะเข้าไปหาเธอ แต่จังหวะนั้นเสกสรรก็เข้ามาพอดี
"ทำเป็นขวัญอ่อนไปได้นะมึง"
"ไอ้เสกเมียมึงมาตาม"
"มาใกล้หรือยังวะ" เสกสรรพูดออกมาโดยที่ไม่ได้มองกลับหลังมาดูเลย..ได้ยินแค่นั้นก็รีบวิ่งไปซ่อนที่หลังบ้านก่อน
"ตกลงใครขวัญอ่อนกันแน่วะ" เหนือตะวันถึงกับขำท่าทางของเพื่อน
"ไอ้นี่มึงเล่นกูแรงนะเว้ย!" เสกสรรค่อยๆ มองส่องออกมาแบบระแวดระวัง พอรู้ว่าเพื่อนแกล้งก็เลยโผล่หน้าออกมา
"น้องจั๊กจั่นก็น่ารักดีออก มึงจะกลัวอะไรนักหนา"
"ถ้าน่ารักทำไมมึงไม่เอาแต่ทีแรกล่ะ"
"ไอ้นี่ พูดไปเดี๋ยวผู้หญิงก็เสียหายหรอก"
"กูพูดจริงนี่หว่า คนอะไรตามได้เช้า กลางวัน เย็น ก่อนนอน"
"แล้วนี่เมื่อไรมึงจะแต่งล่ะ"
"กูไม่แต่ง! ..ได้ไหมวะ"
"มึงมาถามกูได้ยังไง มึงต้องไปถามพ่อกับแม่เขาโน่น"
"กูก็หัวแตกน่ะสิ"
พอคำนี้ออกจากปากของเสกสรร เหนือตะวันถึงกับคิดหนัก ..หัวแตกเหรอ..โรงพยาบาลยิ่งอยู่ไกล เขาเริ่มจะเสียวสันหลังเหมือนกัน เพราะถ้าเธอท้องจริง เขาคงปล่อยไปแบบนี้ไม่ได้อีกแล้ว
"แล้วนี่มึงจะไปไหนวะ" เสกสรรถามในขณะที่เดินตามหลังมาแบบติดๆ
ทั้งสองเดินมาจนถึงบ้านของมิลาน
"มึงไม่ต้องตามกูขึ้นมานะ" เขากลัวว่าเสกสรรจะเดินตามขึ้นมาบนบ้านของเธอด้วย เผื่อว่าเธอกำลังทำอะไรอยู่
ที่เหนือตะวันกล้าเดินขึ้นมาก็เพราะรู้ดีว่าพ่อกับแม่ของเธอออกไปแล้ว
"หลับเหรอ" ขึ้นมาถึงก็เห็นว่าเธอนอนหลับอยู่ เขาก็เลยกางมุ้งให้กลัวว่ายุงจะกัดเอา ..เสร็จแล้วก็ลงมาข้างล่าง
"กูเชื่อใจมึงได้ไหม" ลงมาถึงก็เห็นเสกสรรนั่งอยู่ที่แคร่ไม้
"อ้าว..ทำไมมึงพูดหมาๆ แบบนี้..มีอะไร"
"กูจะเข้าไปในตัวเมืองหน่อย ฝากมึงดูแลเธอด้วย ห้ามไปไหนและห้ามขึ้นไปข้างบน"
"มึงจะเข้าไปในเมืองทำไมวะ"
"ไปทำอะไรก็เรื่องของกู"
"อ้าวไอ้นี่ถามดีๆ"
พอออกมาจากบ้าน เหนือตะวันก็ตรงมาที่บ้านของเสกสรรเพื่อที่จะเอารถ
ชายหนุ่มใช้เวลาขับรถอยู่พอสมควรกว่าจะมาถึงในตัวเมือง เขาเข้าไปในร้านขายยา และก็ซื้ออะไรบางอย่าง พร้อมกับถามวิธีใช้
พอได้ทุกอย่างครบก็ขับรถกลับมา..กว่าจะไปถึง..กว่าจะซื้อของ..และกว่าจะกลับมา ก็กินเวลาไปนานพอสมควร และตอนนี้เวลาก็ใกล้จะถึงตอนเย็นเข้าไปทุกที
"ฉันนึกว่าพี่เสกไปกับพี่เหนือซะอีก" จั๊กจั่นนั่งรออยู่หน้าบ้านเสกสรร ที่นั่งรอเพราะไม่เห็นรถของเหนือตะวันก็เลยคิดว่าทั้งสองไปด้วยกัน
"มันไม่ได้ไปกับพี่หรอก"
"แล้วพี่เสกอยู่ไหน"
"พี่ให้มันรออยู่ที่บ้าน"
"ไปรอทำไมอยู่ที่นั่น" จั๊กจั่นพูดพร้อมกับเดินตามหลังเหนือตะวันมาด้วย
พอมาถึงตรงที่กำลังลงท่อน้ำประปา เหนือตะวันก็หยุดคุยกับหัวหน้าช่าง
"พี่เหนือ!?" จั๊กจั่นเรียกไว้ในขณะที่เดินตามเหนือตะวันมาที่บ้านของมิลาน
"มีอะไร"
"เมื่อกี้ฉันได้ยินพี่พูดกับช่าง..จริงเหรอพี่"
"ไม่มีอะไรหรอกน่า"
"ตายห่าแล้ววว" คนที่พูดก็คือเสกสรร เพราะตอนนี้มองไปเห็นว่าใครกำลังเดินตามเพื่อนมา
"ดีขึ้นแล้วเหรอ" เหนือตะวันถามเมื่อเห็นว่าเธอนั่งอยู่ที่แคร่ใต้ถุนบ้าน
"ฉันไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย" หญิงสาวตอบออกไปด้วยใบหน้าที่บูดบึ้ง สายตาแอบมองไปดูผู้หญิงที่เดินตามหลังเขามาแบบไม่พอใจ
"ไหนพี่บอกว่าพี่เสกอยู่นี่ไง" จั๊กจั่นไม่ได้สนใจใบหน้าของมิลานเลย ตอนนี้สายตามองหาเสกสรรอย่างเดียว
"อ้าว..เมื่อกี้ก็เห็นมันอยู่แถวนี้ไม่ใช่เหรอ"
"แล้วพี่เสกไปไหน" จั๊กจั่นรีบเดินหาแถวนั้นดู "พี่เสก!!" พอเดินมาถึงหลังบ้านก็เห็นอะไรแว๊บๆ
"ตามมาทำไม!" เสกสรรพูดออกไปแบบไม่สบอารมณ์
"แล้วพี่มาทำอะไรอยู่ที่นี่"
"ยังไม่รู้อีกว่าเรามาทำอะไร คนหรือปลิงวะเนี่ย" เขาพูดออกมาเพียงแค่เบาๆ "กูกลับก่อนนะเว้ย" เสกสรรพูดกับเหนือตะวันก่อนที่จะเดินออกมา
"พี่เสกรอฉันหน่อยสิ" จั๊กจั่นรีบเดินตามหลังมาแบบไม่ยอมห่าง
"เป็นยังไงบ้าง" พอสองคนนั้นจากไปแล้ว เขาถึงหันมาพูดกับเธอที่นั่งอยู่
"ก็บอกแล้วไงว่าไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย" เธอพูดพร้อมกับมองดูของที่อยู่ในมือ เพราะได้ยินเสกสรรบอกว่าเขาเข้าไปซื้อของในตัวเมือง
ชายหนุ่มเปิดถุงใบนั้นแล้วก็หยิบของที่ไปซื้อจากร้านขายยาออกมา
"อะไร" มิลานยื่นมือไปรับของที่เขาส่งมาให้ "...???.." เห็นแค่กล่องเธอก็รู้แล้วว่ามันคืออะไร ดวงตากลมตวัดมองหน้าผู้ชายที่ยืนอยู่ พร้อมกับค่อยๆ ลุกขึ้นแบบไม่รู้ตัว
"นายเอาไอ้นี่มาให้ฉันทำไม!" ตั้งสติได้เธอก็ถามเขาออกไป
"ลองตรวจดู"
"ไม่"
"คนขายบอกว่า ให้จุ่มตรงปลายลงที่น้ำปัสสาวะ ทิ้งไว้สักพักเอาขึ้นมาดู" เขาไม่สนใจว่าเธอจะปฏิเสธ เขายังสอนวิธีการใช้ต่อ
"ก็บอกว่าไม่ไง!"
"มิลาน!" ชายหนุ่มเริ่มขึ้นเสียงใส่
น้ำตาคลอเบ้าออกจากดวงตางามคู่นั้น เพราะหลายวันมานี้อาการของเธอแปลกๆ ถ้าท้องจะทำยังไง เธอไม่ได้ห่วงตัวเองเลย แต่ห่วงความรู้สึกของพ่อกับแม่มากกว่า
ที่ตรวจครรภ์แบบเป็นแท่ง ได้ถูกวางลงกับน้ำปัสสาวะ ที่เธอเอามาพอใช้กับเครื่องนั้น
ทั้งสองรอลุ้นด้วยหัวใจที่เต้นแบบไม่เป็นจังหวะ เพราะมันคือเครื่องวัดอนาคตของพวกเขาทั้งสองเลยก็ว่าได้
พอได้เวลา..มือหนาก็ยื่นไปจับ เครื่องวัดนั้นขึ้นมา แล้วก็มองดูตรงที่คนขายบอกว่า..ถ้ามันขึ้นมาสองขีด นั่นแสดงว่าภรรยาของเขากำลังตั้งครรภ์
"ทำอะไรกัน" ขณะที่กำลังลุ้นระทึกอยู่นั้น มีสิ่งหนึ่งที่ทำให้พวกเขาระทึกมากกว่านั้นอีก นั่นก็คือพ่อกับแม่ของเธอที่ยืนอยู่ด้านหลัง
งับ!! ด้วยความตกใจเครื่องตรวจครรภ์นั้นก็ได้ถูกส่งเข้าไปในปาก..
"ผะ..ผม..กำลังวัดไข้อยู่ครับ"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สยบรัก