ตั้งแต่เล็กจนโต เมื่อเอ่ยถึงอ๋องเฉิน ทุกคนล้วนเคารพยำเกรง เคารพนับถือ ประจบประแจง มีเพียงแค่ฉู่เชียนหลี มีเพียงนางที่กล้าพูดความในใจออกมา
หลิงเชียนอี้รู้สึกว่าฉู่เชียนหลีได้กระตุ้นความเป็นหัวอกเดียวกันของเขา รู้สึกตื้นตันใจขึ้นมาทันที ตื้นตันใจจนไม่รู้จะพูดอะไร
หลังจากความตื้นตันใจผ่านไป จึงดึงมือของฉู่เชียนหลี “จะต้องให้ท่านน้าเฉินที่รังแกท่านชดใช้!”
“ถูกต้อง ข้าไม่ยอมก้มหัวให้หรอก”
“ฉู่เชียนหลี ข้าสนับสนุนท่าน!”
ทั้งสองคนรู้สึกเช่นเดียวกัน เห็นอกเห็นใจกัน เสียดายที่รู้จักกันช้าไป
ดังนั้น ทั้งสองคนจึงเหมือนกับเพื่อนสนิทที่รู้จักกันมาสิบกว่าปี เดินเคียงบ่าเคียงไหล่กลับไปที่เรือนซอมซ่อ ศึกษาค้นคว้าหนทางที่จะนำภาพวาดนั้นมาให้ได้
ฉู่เชียนหลีไม่เข้าใจ “เหตุใดท่านถึงต้องอยากได้ภาพนั้น?”
หลิงเชียนอี้ตกใจทันที อะไรบางอย่างแวบผ่านดวงตาด้วยความรวดเร็ว เอ่ยขึ้น
“ฉู่เชียนหลีท่านอาจจะยังไม่ทราบว่า ท่านน้าของข้ามีความชอบพิเศษอย่างหนึ่ง นั่นก็คือสะสมวัตถุโบราณ อย่างเช่นพวกกระบี่โบราณ ของเล่นโบราณเหล่านั้น สิ่งของที่ขุดขึ้นมาจากสุสาน รวมทั้งภาพวาดที่มีความเป็นมาล้ำค่า ผลงานภาพวาดชิ้นเอกของหวังอันที่มีเพียงชิ้นเดียวในใต้หล้า เป็นสิ่งที่เขารักที่สุด”
การแย่งชิงสิ่งของที่รักเป็นการแก้แค้นที่ดีที่สุด!
ทันทีที่ฉู่เชียนหลีได้ยินคำว่า‘รักที่สุด’สองคำนี้ก็ครุ่นคิด ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม จะต้องช่วยเขาให้ได้มันมาอยู่ในมือให้ได้
ลูบคาง เกิดความคิดขึ้นมาทันที
“คิดออกแล้ว!”
หลังจากผ่านไปสองเค่อ
กางกระดาษเซวียนจื่อบนโต๊ะ ฉู่เชียนหลีหนีบพู่กันสามด้ามเอาไว้ที่ซอกนิ้ว จุ่มหมึกด้วยท่าทางสง่างาม วาดพู่กันราวกับสายลม กวัดแกว่งพู่กันสองสามทีด้วยท่าทีสบายใจ วาดได้อย่างไร้ที่ติ
สำเร็จ!
เมื่อหลิงเชียนอี้เห็นดังนั้น ลูกตาเบิกกว้างขึ้น แทบจะถลนออกมาจากเบ้า
“นี่ นี่มัน...”
เหมือนกับภาพวาดภาพนั้นในห้องหนังสืออ๋องเฉินอย่างกับแกะ
ร่องรอย สีสัน หรือแม้กระทั่งเส้นรอยเปื้อนของภาพวาดนี้ แตกต่างกับภาพวาดชิ้นเอกของหวังอันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ถ้าหากไม่ใช่เพราะน้ำหมึกบนกระดาษยังไม่แห้ง สะท้อนแสงเล็กน้อย เขายังแยกไม่ออกว่าเป็นของจริงหรือปลอม
เขาตะลึงงันไปแล้ว “ฉู่เชียนหลี ท่านสุดยอดเกินไปแล้ว!”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ