“เจ้าก็ไปจวนอัครมหาเสนาบดีฉู่เสียตอนนี้ ไปพูดกับอัครมหาเสนาบดีฉู่ให้ชัดเจน นับตั้งแต่ฉู่เชียนหลีออกไป ก็ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับจวนอ๋องเฉิน ถ้าหากเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น อัครมหาเสนาบดีฝ่ายซ้ายฉู่ก็อย่ามาหาเรื่องที่จวนอ๋อง” น้ำเสียงเย็นชาเป็นอย่างยิ่ง
“?”
ไร้หัวใจขนาดนี้?
กลัวแค่ว่าจะนำความเดือดร้อนมาให้จริง ๆ หรือ?
เหตุใดเขาจึงไม่ค่อยอยากจะเชื่อสักเท่าไร ?
หลิงเชียนอี้มองสำรวจใบหน้าที่เย็นชายิ่งของชายหนุ่มอย่างสงสัย “ท่านน้า จะให้พูดเช่นนี้จริงหรือ...”
“เจ้ามีความคิดเห็นต่อการตัดสินใจของข้า?” ชายหนุ่มกวาดสายตามองไปอย่างเย็นชา สายตาคมกริบราวกับใบมีด
“!”
หลิงเชียนอี้รีบก้มหน้า ไม่กล้าพูดมาก สาวเท้าวิ่งหนี
หลังจากผ่านไปครู่ใหญ่
หานเฟิงเดินเข้ามาอย่างเบาฝีเท้า และระมัดระวัง เหลือบมองสีหน้าของชายหนุ่มเล็กน้อย เอ่ยอย่างระวัง
“นายท่าน เรียกคนมารวมตัวเรียบร้อยแล้ว สามารถออกเดินทางไปรังโจรได้แล้วขอรับ”
ชายหนุ่มเหลือบตามองทันที เอ่ยเสียงเย็นชา
“เรื่องของรังโจรรีบขนาดนี้เชียว?”
หานเฟิงตะลึงงันไปทันที “!”
“เป็นถึงแคว้นใหญ่ ขุนนางบุ๋นบู๊มากมาย มีข้าเพียงคนเดียวที่ไปรังโจรได้หรือไร?”
หานเฟิงถลึงตา “!”
“พวกไร้ความสามารถ!”
“!”
คำพูดสามประโยคที่พูดออกมาติดต่อกันทำให้หานเฟิงถลึงตาทั้งสองข้างอย่างตกตะลึง แผ่นหลังชุ่มไปด้วยเหงื่อ ตกใจจนแทบจะอดกลั้นเอาไว้ไม่อยู่
นายท่าน ท่านเป็นคนบอกเองจะไปรังโจร แล้วก็เป็นท่านที่บอกให้เรียกรวมกำลังคน ผลสุดท้ายเมื่อทุกอย่างพร้อมสรรพ สามารถออกเดินทางได้ ท่านกลับมาด่าข้า
ข้าทำผิดอะไรกันนี่?
สมัยนี้เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาลำบากเหลือเกิน...
โรงเตี๊ยมไหลฝู
วันใหม่ ความคึกคักใหม่ บนท้องถนนพลุกพล่านด้วยผู้คนสัญจรไปมา คึกคักเป็นอย่างยิ่ง
ฉู่เชียนหลีนั่งอยู่ริมหน้าต่างของชั้นสอง ศอกค้ำยันอยู่ที่ขอบหน้าต่าง เอามือเท้าคาง มองไปยังชาวบ้านที่สัญจรไปมาบนท้องถนน
เกิดเป็นคน ถ้าไม่ทำงาน ไม่มีจุดหมาย ก็คือไม่มีความหมาย

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ