เนื่องจากการหนีเอาชีวิตรอดมาเป็นเวลานาน ร่างกายของพวกเขาต่างก็มีบาดแผลไม่มากก็น้อย แต่ละคนสีหน้าเหนื่อยล้า เต็มไปด้วยความอ่อนเพลีย
ฉู่เชียนหลีถอนหายใจ
ช่างเถอะ
ในเมื่อเข้าไปยุ่งกับเรื่องนี้แล้ว จะทิ้งขว้างก็ไม่ได้ ในเมื่อมาแล้ว ก็ให้มาเถอะ
“อดีตเจ้าสำนักได้ล่วงลับไปแล้ว ต่อไปพวกเจ้าก็เชื่อฟังคำสั่งของจิ่งอี้” นางมองชายหนุ่มที่ชื่อจิ่งอี้ออกว่ามีความเป็นผู้นำในกลุ่มนี้ คิดว่าเขาต้องเป็นลูกศิษย์คนโตของอดีตเจ้าสำนักแน่นอน เป็นศิษย์พี่ใหญ่ของทุกคน
จิ่งอี้ประหลาดใจเล็กน้อย
ฉู่เชียนหลีหยิบป้ายเจ้าสำนักที่เปื้อนเลือดอันนั้นวางไว้ในมือของเขา
“ต่อไปเจ้าเป็นคนดูแลสำนักอู๋จี๋”
“เจ้าสำนัก?!”
ทุกคนต่างตกตะลึง
ตอนที่ทราบว่าหญิงสาวที่อัปลักษณ์คนนี้จะต้องกลายเป็นเจ้าสำนักคนใหม่ของพวกเขา พวกเขากังวลว่าหญิงสาวคนนี้จะอยากได้สำนักอู๋จี๋ จึงพากันเป็นปรปักษ์
แต่หญิงสาวกลับแสดงความใจกว้างสุขุมออกมา ทำให้พวกเขารู้สึกละอายเป็นอย่างยิ่ง
เป็นพวกเขาใช้ความคิดที่ต่ำช้ามาคาดเดาจิตใจของวิญญูชน...
จิ่งอี้ไม่รับ นำป้ายเจ้าสำนักคืนใส่ในมือของฉู่เชียนหลี “ข้าเชื่อในการเลือกของอดีตเจ้าสำนัก คนที่เขาเลือกด้วยตนเอง ไม่มีทางผิด”
“หวังว่าเจ้าสำนักจะนำพาพวกเราขจัดความชั่วร้าย ผดุงความยุติธรรม!”
คุกเข่าลงข้างหนึ่ง
ทุกคนก็คุกเข่าลงบนพื้น กล่าวพร้อมเพรียงกัน
“ขจัดความชั่วร้าย ผดุงความยุติธรรม!”
ตะโกนคำขวัญออกมาเสียงดังมา แต่ฉู่เชียนหลีกลับยิ้มอย่างจำใจ
คนพวกนี้แม้แต่นักฆ่าไม่กี่คนยังเอาชนะไม่ได้ ยังอยากจะขจัดความชั่วร้าย? แต่ละคนหน้าตาท่าทางไม่สมประกอบ ยังอยากจะผดุงความยุติธรรม?
เฮ้อ...
นี่มันเรื่องอะไรกัน?
นางประคองแต่ละคนลุกขึ้น “ลุกขึ้น ลุกขึ้นกันก่อนเถอะ ต่อไปไม่ต้องเอะอะอะไรก็คุกเข่า ข้าว่าร่างกายของพวกเจ้าจะต้องมีบาดแผลกันทุกคนไม่มากก็น้อย ด้านนอกยังมีคนไล่ตามฆ่า มิสู้อาศัยอยู่ที่โรงหมอแห่งนี้ไปก่อน”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ