บทที่ 10 คำเชิญจากเฉิงกัวอัน
“ผลั่ก ผลั่ก ผลั่ก!!”
เสียงหมัดและแข้งปะทะเข้ากับร่างของมนุษย์ดังขึ้นรัวติด ๆ กันราว 5 วินาที จากนั้นอวี้ฮ่าวหรานก็กลับมายืนอยู่ที่เดิมราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“พ่อสุดยอดอีกแล้ว!”
ถวนถวนมองไปที่นักเลง 4 คนที่นอนราบอยู่บนพื้นอย่างหมดสภาพไม่หลงเหลือความน่ากลัวแบบเมื่อครู่เลยแม้แต่น้อย จากนั้นเธอก็หันกลับมากระโดดปรบมือดีใจกับพ่อของเธอ
“พ่อจ๋า ในอนาคตหนูจะต้องเก่งแบบพ่อให้ได้เลย ฮี่ฮี่ฮี่!”
ถวนถวนในเวลานี้กระโดดร่าเริงพูดเสียงดังด้วยความดีใจไม่เหมือนกับเด็กสาวทั่วไปแม้แต่น้อย สิ่งนี้มันดูเหมือนว่าเธอเริ่มชินกับแนวทางการใช้กำลังแก้ปัญหาของอวี้ฮ่าวหรานมาบ้างแล้ว
“ถวนถวน ลูกเป็นผู้หญิง ลูกไม่ควรจะสู้กับใครด้วยตัวเอง เอาไว้ในอนาคตหากมีใครมารังแกลูกปล่อยให้มันเป็นหน้าที่ของพ่อในการจัดการกับคนพวกนั้นเอง”
เมื่อพูดจบอวี้ฮ่าวหรานก็อุ้มลูกสาวของตัวเองขึ้นมาอีกรอบ และหอมไปอีกฟอดใหญ่ด้วยความเอ็นดู จากนั้นเขาหันไปมองชายใส่แว่นดำที่เป็นผู้นำกลุ่มด้วยสายตาเย็นชา
“ผลั่ก!”
ชายใส่แว่นดำรีบคุกเข่าลงทันที โดยที่อวี้ฮ่าวหรานไม่จำเป็นต้องพูดอะไร
จากประสบการณ์ในวงการนักเลงของเขาหลายปี เขาแน่ใจว่าชายตรงหน้าเขาคนนี้ไม่ใช่คนที่เขาสามารถล่วงเกินได้ ด้วยความสามารถที่ล้มลูกน้องของเขา 4 คนได้ภายในไม่เกิน 5 วินาที ความสามารถแบบนี้มันไม่มีทางที่คนธรรมดาจะทำได้แน่นอน
ชายคนนี้ไม่ใช่มนุษย์แต่เป็นปีศาจ!
เมื่อคิดได้เช่นนี้เขาก็คุกเข่าลงทันทีด้วยความเต็มใจให้กับคนที่เหนือกว่าเขาขนาดนี้ เขาไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรงให้ฝั่งตรงข้ามขุ่นเคืองด้วยซ้ำ!
ทางด้านของอวี้ฮ่าวหรานเมื่อเห็นว่าฝั่งตรงข้ามยอมจำนนเขาก็พ่นลมหายใจอย่างดูถูก และอุ้มถวนถวนขึ้นมา และเดินไปทางชายแว่นดำ ซึ่งความตั้งใจของอวี้ฮ่าวหรานนั้นแค่ต้องการจะเดินกลับบ้านก็เท่านั้น และบังเอิญว่าทิศทางที่ชายแว่นดำคุกเข่าอยู่มันคือทิศทางเดียวกับทางกลับบ้านของเขา
แต่ชายแว่นดำไม่ได้คิดแบบนั้น เขาคิดว่าอวี้ฮ่าวหรานเดินเข้ามาใกล้เพื่อมาเล่นงานเขา ดังนั้นเขาจึงรีบตะโกนขึ้นด้วยสีหน้าตื่นตระหนกทันที “พะ พี่ชาย พวกเราผิดไปแล้ว พวกเราไม่ได้อยากจะเล่นงานพี่ แต่มันเป็นเพราะลูกพี่เปียวส่งพวกเรามา!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้อวี้ฮ่าวหรานก็แสดงสีหน้าขบขัน เขาไม่คิดอะไรมากเกี่ยวกับคนแซ่เปียวนั่น เขาเดินจากไปโดยที่ไม่ถามอะไรต่อสักคำ
ในความคิดของอวี้ฮ่าวหราน คนพวกนี้มีค่าไม่ต่างอะไรกับมดแมลง…
…
ก๊อก ๆๆ
“เปิดหน่อยค่า พ่อกับหนูกลับมาแล้ว!”
แกร๊ก…แอ๊ดดด….
“ถวนถวน! ไหนมาให้แม่หรงดูหน่อยเร็วว่าหนูเจ็บตรงไหนบ้าง!”
ทันทีที่เปิดประตู หลี่หรงก็พรวดพราดออกมาจากห้อง และแย่งถวนถวนไปอุ้มทันทีพร้อมกับสำรวจร่างของเด็กสาวอย่างละเอียดทุกจุด แม้กระทั่งเปิดผมของเด็กน้อยดูเธอก็ทำ!
แน่นอนว่าเธอเป็นห่วงอย่างหมดใจ เพราะหลายปีที่ผ่านมาเธอเลี้ยงดูเด็กสาวคนนี้มาตลอดจนตอนนี้เธอรักถวนถวนยิ่งกว่าชีวิตของตัวเองซะอีก!
ทางด้านของอวี้ฮ่าวหรานเมื่อเห็นภาพเช่นนี้เขาก็รู้สึกอบอุ่นอยู่ในใจ ในตอนนี้เขาแน่ใจได้ 200% เลยว่าหลี่หรงรักถวนถวนอย่างหมดใจจริง ๆ
เมื่อตรวจดูร่างกายของถวนถวนอยู่พักใหญ่จนพอใจ และไม่เห็นว่าถวนถวนบาดเจ็บอะไรร้ายแรง หลี่หรงก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก
“ถวนถวน วันนี้แม่หรงทำจานโปรดให้ลูกหลายอย่างเลย มีทั้งซุปปลาแล้วก็ปลาชุบแป้งทอด แถมยังมีมันฝรั่งทอดอีกด้วย! ปะ พวกเราเข้าไปล้างมือกันก่อนแล้วพวกเราค่อยมากินพร้อม ๆ กันนะ!”
ถึงแม้ว่าหลี่หรงจะประหลาดใจนิดหน่อยที่ถวนถวนไม่มีบาดแผลอะไรเลยทั้ง ๆ ที่ตอนเธอคุยโทรศัพท์กับครูหวาง ฝั่งตรงข้ามบอกเธอว่าถวนถวนมีรอยถลอกที่แขน แต่ตอนนี้มันกลับไม่มีเลย เธอเหล่ไปมองอวี้ฮ่าวหรานด้วยสายตาสงสัยอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะถอนหายใจ และเลิกคิดเกี่ยวกับมัน
แน่นอนว่าสาเหตุที่รอยถลอกของถวนถวนหายไปนั้นมันเป็นเพราะอวี้ฮ่าวหราน ในระหว่างที่เดินกลับบ้านอวี้ฮ่าวหรานได้แอบใช้พลังวิญญาณที่เหลือเพียงน้อยนิดของเขาโคจรไปที่รอยถลอกของถวนถวนจนหายสนิท
จากนั้นเมื่อทุกคนเข้าไปในห้อง ทุกคนก็กินมื้อเย็นกันอย่างมีความสุข ซึ่งในระหว่างที่กินถวนถวนก็จ้อไม่หยุดเกี่ยวกับความน่าอัศจรรย์ของอวี้ฮ่าวหรานที่อัดหลิวเทียนอี้ และนักเลงอีก 4 คนจนหมอบราบคาบ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านเทพกลับมาเป็นคุณพ่อ[神尊归来当奶爸]