ในเวลาเดียวกันทางด้านของแก็งค์มังกรคราม
หลังจากเหตุการณ์ล่าสุด หยวนหลงหัวหน้าแก็งค์มังกรครามก็ไม่มีความเคลื่อนไหวอะไรสักเท่าไหร่ สิ่งที่เขาทำก็มีแค่ส่งคนไปติดตามดูความเคลื่อนไหวของอวี้ฮ่าวหรานก็แค่นั้น
อย่างไรก็ตามตอนนี้เขาแอบออกไปนอกเมืองฮ่วยอัน มุ่งหน้าไปยังคฤหาสน์หลังใหญ่ที่อยู่ท่ามกลางเทือกเขา
“อาจารย์ ศิษย์มั่นใจว่าชายหนุ่มคนนั้นจะต้องทะลวงขอบเขตไปถึงขอบเขตก่อรากฐานแล้วแน่นอน ศิษย์ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของชายคนนั้นเลย”
ในเวลานี้ หยวนหลงผู้ไม่เคยยอมก้มหัวให้ใครในเมืองฮ่วยอันกำลังนั่งคุกเข่าลงต่อหน้าชายชราผู้หนึ่งอย่างนอบน้อมและเล่าเรื่องทุกอย่างที่เพิ่งเกิดขึ้นให้กับอีกฝ่ายฟัง
“อืม ฟังจากที่เจ้าดูเหมือนว่าไอ้เจ้าหนุ่มคนนั้นจะต้องเป็นสุดยอดอัจฉริยะอย่างไม่ต้องสงสัย!”
ผู้ที่พูดคืออาจารย์ของหยวนหลง ปรมาจารย์คงเหอ!
“เจ้าต้องระมัดระวังให้กับบุคคลประเภทนี้ และในเมื่อเจ้าไม่อาจต่อกรกับฝั่งตรงข้ามได้ เจ้าก็ควรพยายามไม่ต้องยั่วยุฝั่งตรงข้ามให้มากที่สุด”
“ท่านอาจารย์ หลังจากเหตุการณ์ล่าสุดศิษย์ก็ไม่ได้ไปยุ่งอะไรกับอีกฝ่ายอีกเลย” หยวนหลงรีบตอบกลับทันที
“เป็นแบบนั้นก็ดีแล้ว เอาล่ะตอนนี้เจ้ากลับไปก่อน เอาไว้เดี๋ยวหลังจากนี้หากข้าว่างเมื่อไหร่ข้าจะไปพบกับเจ้าหนุ่มนั่นเองเพื่อดูว่าเขามีดีแค่ไหน” ปรมาจารย์คงเหอเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าเรียบเฉย
“ท่านอาจารย์ ท่านอย่าได้ประมาทไอ้หนุ่มนั่นเป็นอันขาด จากที่ผมเผชิญมาความแข็งแกร่งของเขาคือของจริง!”
“จากที่เจ้าเล่าเด็กนั่นเพิ่งจะอายุ 20 ต้นๆ ไม่ใช่เหรอไง เขาจะเก่งได้สักแค่ไหนกัน? เขาคงไม่สามารถฝึกฝนได้ตั้งแต่อยู่ในท้องแม่จริงไหม?”
หยวนหลงรู้สึกกังวลเมื่อเห็นว่าอาจารย์ของเขาดูถูกอวี้ฮ่าวหรานมากเกินไป “แต่ท่านอาจารย์…”
“ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว…ตอนนี้เจ้ากลับไปได้แล้วและไปทำให้สถานการณ์สงบลงชั่วคราวก่อน” คงเหอโบกมือขึ้นตัดบท
…
ในออฟฟิศของอวี้ฮ่าวหราน
อวี้ฮ่าวหรานกำลังนั่งอ่านบัญชีรายรับรายจ่าย 2 วันที่แล้วของบริษัทด้วยสีหน้าพึงพอใจ
หากรายได้ของบริษัทยังมีแนวโน้มบวกแบบนี้ต่อไป ต่อให้เขาจะซื้อวัตถุโบราณมากแค่ไหนมันก็ไม่เป็นปัญหา!
แต่แล้วจู่ๆ โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น
“พี่เขย พี่เขย ฉันมีเรื่องอยากจะถามพี่!”
คนที่โทรมาคือหลี่หรง น้ำเสียงของเธอดูมีความคาดหวังเล็กน้อย
“เกิดอะไรขึ้น?”
“ฟ่านซีเหยียนกำลังจะจัดคอนเสิร์ตขึ้นใกล้ๆ เมืองของเรา!”
“หะ? ใครนะ?”
อวี้ฮ่าวหรานรู้สึกงุนงง เขาไม่รู้จริงๆ ว่า ‘ฟ่านซีเหยียน’ คือใคร
“พี่เขยนี่พี่เคยได้ดูทีวีบ้างไหมเนี่ย? พี่ไม่รู้จักฟ่านซีเหยียนได้ยังไง? เธอเป็นนักร้องที่ดังมากๆ เลยเชียวนะ!”
หลี่หรงตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงประหลาดใจ
นี่ตลอดเวลา 3 ปีที่พี่เขยของเธอหายไป เขาไปอาศัยอยู่ในหุบเขาลึกมางั้นเหรอถึงไม่เคยได้ยินชื่อของฟ่านซีเหยียนเลย?
“อ…อ้อ พี่พอจะเข้าใจแล้ว” อวี้ฮ่าวหรานเดาได้ว่าฟ่านซีเหยียนคงเป็นน้องร้องชื่อดังที่หลี่หรงกำลังติดตามอยู่แน่ๆ “ว่าแต่เธอต้องการจะถามพี่ว่าอะไรกันแน่?”
“คือแบบนี้พี่เขย อีกไม่กี่วัน ฟ่านซีเหยียนจะมาจัดคอนเสิร์ตไม่ไกลจากเมืองของเรา แต่ฉันยังหาตั๋วไปดูไม่ได้เลยฉันก็เลยอยากจะถามพี่ว่า พี่พอจะมีทางหาตั๋วให้ฉันได้ไหม?” หลี่หรงเผยความต้องการของเธอออกมาทันทีเมื่อถูกถาม
อวี้ฮ่าวหรานขมวดคิ้วกับคำขอของหลี่หรง “ก็แค่นักร้องธรรมดาๆ คนหนึ่งไม่ใช่เหรอ ทำไมเธอต้องคลั่งไคล้อะไรนักหนา?”
ในสายตาของอวี้ฮ่าวหราน พวกดาราหรือนักร้องทั้งหลายไม่ได้มีค่าอะไรเลย ก่อนหน้านี้ตัวเขาเองเป็นถึงจักรพรรดิเทพที่มีสิ่งมีชีวิตกราบไหว้บูชาเป็นหมื่นเผ่า ซึ่งบางเผ่ามีจำนวนเท่ากับประชากรโลกด้วยซ้ำ ดังนั้นถ้านับความโด่งดัง ตัวเขาถือว่าดังกว่าคนธรรมดาพวกนี้เป็นหมื่นเท่าได้
“เฮ้! ฟ่านซีเหยียนเป็นไอดอลของฉันเลยเชียวนะ พี่เขยพูดให้มันดีๆ หน่อย! ไม่รู้แหละเอาเป็นว่าพี่หาตั๋วให้ฉันด้วยนะโอเคไหมพี่เขย~”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านเทพกลับมาเป็นคุณพ่อ[神尊归来当奶爸]