หลังจากตัดหัวหนึ่งในลูกน้องของหวังเหยียนที่ยังรอดอยู่ไปแล้ว จิ่นเฟิง ก็ลากลูกน้องของหวังเหยียนอีกคนมานั่งคุกเข่าตรงหน้าเขา
“หึหึ ดูลูกน้องของแกคนนี้สิ! ขาหักขนาดนี้คงเดินไม่ได้เหมือนเดิมอีกตลอดชีวิต เฮ้อ…แต่ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันจะช่วยให้มันไม่ต้องเป็นคนพิการโดยการจบชีวิตมันทิ้งให้!”
จิ่นเฟิงพูดติดตลกพร้อมกับทาบมีดไปที่คอของชายคนนั้น และมองขึ้นไปยังหวังเหยียนด้วยแววตาหยอกล้อ
แต่แล้วก่อนที่เขาจะทันได้ลงมีด!
เสียงคำรามของรถสปอร์ตดังจากที่ไกล ๆ และเริ่มเข้ามาใกล้เรื่อย ๆ หลังจากเสียงเบรกอันรุนแรง รถสปอร์ตก็หยุดที่หน้าทางเข้าบ่อน!
“ห่าอะไรวะ! นี่แกเป็นใคร…”
“บัดซบ แกกำลังหาเรื่อง…”
พลั่ก ๆ! โครม!
ก่อนที่ลูกน้องของจิ่นเฟิงที่เฝ้าหน้าประตูอยู่สองคนข้างนอกจะทันได้พูดจบ คำพูดของเขาก็หายไปกลางคันก่อนที่จะมีเสียงโครมครามดังลั่นตามมา!
วินาทีถัดมา พวกเขาสองคนก็ถูกโจมตีจากด้านนอก ก่อนจะลอยเข้ามาในห้องโถงของบ่อน!
เสียงดังลั่นขนาดนี้ดึงดูดความสนใจของทุกคนในห้องโถงทันที!
ที่ประตู ร่างของชายหนุ่มคนหนึ่งค่อย ๆ ปรากฏขึ้น แต่ก่อนที่จะมองเห็นได้ชัดเจน สมาชิกของแก๊งวาฬยักษ์ก็ตะโกนสาปแช่งซะก่อน
“บัดซบ! ไอ้เวรนี่มันเป็นใคร!!”
“แม่งเอ๊ย! กล้าทำร้ายคนของพวกเราแบบนี้วันนี้แกตายแน่!”
“…”
ทว่าทันใดนั้นชายหนุ่มที่กำลังเดินเข้ามาก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา!
“วันนี้พวกแกทุกคนจะไม่มีใครรอดไปจากที่นี่!”
ทันทีที่ประโยคนี้ถูกเอ่ยออกมา สมาชิกของแก๊งวาฬยักษ์ต่างก็รู้สึกราวกับว่าพวกเขากำลังตกลงไปในถ้ำน้ำแข็ง พวกทุกคนต่างรู้สึกขนลุก!
ชายหนุ่มคนที่เดินเข้ามาหาพวกเขาอย่างช้า ๆ นั้นดูคล้ายกับสัตว์ร้ายที่จ้องจะขย้ำพวกเขาได้ทุกเวลา แค่ประโยคเดียว ทุกคนของแก๊งวาฬยักษ์ก็อดไม่ได้ที่จะก้าวถอยหลังโดยไม่รู้ตัว!
ทุกคนต่างมองหน้ากันอย่างโง่งมและหยุดสาปแช่ง
“บัดซบ! พวกแกเป็นบ้าอะไรกัน? พวกแกกลัวคน ๆ เดียวแบบนี้ได้ไงวะ!?”
ในขณะเดียวกัน จิ่นเฟิงก็ตะโกนด่าคนของตัวเองเสียงดังลั่น เขาอดไม่ได้ที่จะสาปแช่งลูกน้องของตัวเองเมื่อเห็นเช่นนี้
แต่จริง ๆ แล้วตัวเขาเองก็ยังตื่นตระหนกกับการปรากฏตัวของชายหนุ่มที่เพิ่งเดินเข้ามา ด้วยเหตุผลที่ตัวเองก็อธิบายไม่ได้ มันเหมือนกับว่าเขาได้เห็นยักษ์จากนรกที่แสนเหี้ยมโหดกำลังเดินเข้ามาใกล้เรื่อย ๆ
อวี้ฮ่าวหรานไม่สนใจความคิดของคนเหล่านี้ เขาค่อย ๆ เดินเข้ามาในห้องโถงอย่างช้า ๆ พร้อมกับปลดปล่อยกลิ่นอายสังหารให้ปกคลุมไปทั่วทั้งห้องโถง!
กลิ่นอายสังหารที่หนาแน่นขนาดนี้ ทำให้ทุกคนที่อยู่ในห้องโถงต่างตกอยู่ในความกลัว
อย่างไรก็ตาม เมื่อคนของแก๊งวาฬยักษ์ทุกคนมองเห็นรูปร่างของชายที่เดินเข้ามาได้อย่างชัดเจน ความกลัวของพวกเขาก็ลดลงอย่างรวดเร็ว และอดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างเยาะเย้ย!
มันเป็นเพียงชายหนุ่มร่างผอมเท่านั้นเอง!
พวกเขาไม่รู้จักอวี้ฮ่าวหราน ในวันนั้นตอนที่หลิ่วอวี้จิงพาคนไปล้อมบริษัทชิวเฮิง หลิ่วอวี้จิงไม่ได้เรียกคนของตัวเองไปทั้งหมด ซึ่งในวันนั้นพวกเขาก็ไม่ได้ไปด้วย
“ถุย! ฉันหลงคิดไปได้ยังไงว่ามันเป็นสัตว์ประหลาด! แม่งก็แค่ไอ้ละอ่อนที่เบื่อชีวิตก็แค่นั้นเอง!”
“เฮอะ! ผอมแห้งขนาดนั้น แค่ฉันดีดหัวมันทีเดียวกะโหลกมันก็ยุบแล้วมั้ง!”
“แม่งเอ๊ย! กล้าขู่ให้พ่อคนนี้กลัวงั้นเหรอ วันนี้แกตายแน่!”
“…”
หลังจากที่ทุกคนเห็นว่าคนที่เพิ่งเข้ามาเป็นเพียงชายหนุ่มธรรมดา พวกเขาก็เริ่มด่าทอกันในทันที
แม้แต่จิ่นเฟิงก็ยังเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าดูถูก
“ฮ่า ๆ แกน่ะเหรอ คนที่หวังเหยียนโทรหา?”
เขายิ้มเยาะเย้ย
“แกมาที่นี่เพื่อมาตายกับสหายของแกงั้นเหรอ?”
ขณะที่พูด จิ่นเฟิงก็ผลักลูกน้องของหวังเหยียนที่เขากำลังจะฆ่าให้กระเด็นออกไปก่อน จากนั้นก็เดินเข้าไปหาชายหนุ่มปริศนาพร้อมกับควงมีดในมือไปด้วยแบบสบาย ๆ
เมื่อเห็นการกระทำของเหล่านี้ อวี้ฮ่าวหรานก็พ่นลมหายใจก่อนที่จะแสดงสีหน้าดูถูก
“พวกฝูงมดนี่มันไร้สาระเหมือน ๆ กันหมด!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านเทพกลับมาเป็นคุณพ่อ[神尊归来当奶爸]