หมับ!
นักเลงลูกน้องของสวีเปียว ฟันมีดอย่างสุดกำลังที่ตัวเองมีหวังจะฟันคอของอวี้ฮ่าวหรานให้ขาดภายในครั้งเดียว สีหน้าของเขาตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่ตัวเองกำลังจะประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ แต่ในไม่ช้าเขาก็ต้องตกตะลึงจนแทบจะหยุดหายใจเมื่อพบว่ามีดที่เขาฟันไปมันกลับถูกอีกฝ่ายใช้มือเปล่า ๆ จับเอาไว้ได้อย่างง่ายดาย!
นี่…มันเป็นแบบนี้ได้ยังไง?!
เมื่อเห็นสิ่งนี้ นักเลงก็พยายามดึงมีดออกอย่างสุดแรง
แต่วินาทีต่อมา อวี้ฮ่าวหรานใช้กำลังเล็กน้อยบดขยี้ใบมีดที่ตัวเองจับอยู่จนแหลกละเอียด พร้อมกับปล่อยคลื่นพลังวิญญาณอัดเข้าใส่นักเลงผู้น่าสงสาร!
บรึ้ม!
อ๊ากกกก
นักเลงที่โดนคลื่นพลังวิญญาณอัดเข้าเต็ม ๆ กระอักเลือดเป็นสายและลอยละลิ่วหายเข้าป่าข้างทาง โดยที่ไม่มีใครทราบชะตากรรมว่าเป็นหรือตาย!
อวี้ฮ่าวหรานยิ้มเยาะเย้ยให้กับความโง่เขลาของอีกฝ่าย
“หึหึ เป็นความกล้าหาญที่น่ายกย่องแต่น่าเสียดายที่ใช้มันผิดที่!”
หลังจากเยาะเย้ยนักเลงที่โชคร้ายคนนั้นแล้ว ชายหนุ่มก็เบนสายตากลับมามองพวกนักเลงที่เหลือ
“พวกแกอยากลองด้วยไหม?”
สวีเปียวตัวสั่นหลังจากได้ยินคำพูดนี้ เขาตอบกลับทันทีด้วยอาการสั่นกลัว
“พี่อวี้ พี่อวี้! ผ…ผมไม่โทษพี่แน่นอนต่อให้ไอ้นั่นมันตาย! ผ…ผมจะไปเดี๋ยวนี้! ร…เร็วเข้า! พวกแกทั้งหมดรีบกลับไปขึ้นรถเร็ว!”
ขณะที่เขาพูด สีหน้าของสวีเปียวหวาดกลัวสุดขีด เขารีบเอ่ยสั่งลูกน้องทันทีให้เตรียมออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด
อย่างไรก็ตาม อวี้ฮ่าวหรานได้โบกมือหยุดเขาเอาไว้!
“เดี๋ยวก่อน! ฉันบอกแกเมื่อไหร่ว่าฉันจะปล่อยแกไป?”
สวีเปียวแข็งค้างเป็นรูปปั้นทันทีเมื่อเขาได้ยินคำพูดนี้
ตอนนี้เขารู้สึกเหมือนว่าความตายกำลังใกล้เข้ามา และเขาก็รีบหันไปอธิบายด้วยสีหน้าวิงวอน
“พี่อวี้ ฉัน…ฉันไม่ได้ตั้งใจจะล่วงเกินพี่จริง ๆ!”
อวี้ฮ่าวหรานเพิกเฉยต่อการร้องขอความเมตตาของอีกฝ่าย เขาจึงถามกลับด้วยเสียงทุ้มต่ำ
“ฉันได้ยินมาว่าแก๊งวาฬยักษ์ของแกสั่งให้สมาชิกทั้งหมดถอยร่นจากแนวหน้าเมื่อเร็ว ๆ นี้ พวกแกมีแผนชั่วใหม่ ๆ อีกแล้วใช่ไหม?”
เนื่องจากชายหนุ่มเคยเจอกับพวกแก๊งวาฬยักษ์หลายรอบแล้ว ดังนั้นเขาจึงจำได้ว่าคนเหล่านี้สวมชุดของแก๊งวาฬยักษ์
“ฉัน…ไม่…คือเราแค่ขัดคำสั่งของหัวหน้าไม่ได้…”
“ถ้าแกโกหก แกตาย!”
เมื่อเห็นอีกฝ่ายลังเลไม่กล้าพูดบางประโยคออกมา อวี้ฮ่าวหรานจึงข่มขู่อีกฝ่ายพร้อมกับปลดปล่อยกลิ่นอายสังหารเพื่อเป็นการบ่งบอกว่าเขาเอาจริง!
สวีเปียวเลิกลังเลและไม่กล้าโกหกในทันที
เขามองอีกฝ่ายด้วยความสยดสยองเล็กน้อย และสัมผัสได้ถึงความตายที่จะมาถึงแน่หากตัวเองโกหกต่อไปอีกแค่ครึ่งคำ!
น่ากลัวโคตร ๆ เลย!
“พวกเรา…แก๊งวาฬยักษ์ของเราได้เข้าร่วมแก๊งฉลามคลั่ง ดังนั้นการกระทำทั้งหมดที่เกิดขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้เป็นคำสั่งของกงซุนซา!”
ในที่สุดเขาก็จะพูดความจริง…
ลูกน้องส่วนใหญ่ไม่ทราบข่าวนี้ ดังนั้นพวกเขาจึงแสดงสีหน้าประหลาดใจทันที
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าคนเหล่านี้จะมีปฏิกิริยาอย่างไร อวี้ฮ่าวหรานก็พยักหน้าเล็กน้อย
“อืม เข้าใจแล้ว แกไสหัวไปได้แล้ว”
จากการเพ่งมองจังหวะการเต้นของหัวใจและภาษากายต่าง ๆ เขาจึงสามารถตัดสินได้อย่างง่ายดายว่าอีกฝ่ายไม่ได้โกหกอย่างแน่นอน
หลังจากได้รับอนุญาต สวีเปียวรู้สึกเหมือนได้เกิดใหม่ เขาถอนหายใจด้วยความโล่งอกและรีบวิ่งกลับไปขึ้นรถด้วยความตื่นตระหนกและจากไปพร้อมกับลูกน้องทั้งหมดของเขา
ย่านรกร้างแห่งนี้จึงกลับมาเงียบสงบอีกครั้ง ยกเว้นเสียงร้องโอดโอยที่เจ็บปวดของเฉียนเซา เพราะโดนเตะจนกระดูกซี่โครงหักไปหลายซี่
อวี้ฮ่าวหรานเหลือบมองไปที่กลุ่มของเฉียนเซาอย่างดูถูก แต่เมื่อคิดได้ว่าขณะนี้มีซูหว่านเอ๋อเฝ้ามองอยู่ เขาจึงไม่อยากจะสร้างฉากโหดร้ายขึ้นมาให้อีกฝ่ายฝันร้าย ดังนั้นจึงเดินกลับไปที่รถและเร่งเครื่องจากไป
ภายในรถ
ไม่นานหลังจากที่ขับออกมา ซูหว่านเอ๋อที่ตื่นตระหนกก็เริ่มทำใจได้บ้างเล็กน้อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านเทพกลับมาเป็นคุณพ่อ[神尊归来当奶爸]