“หึหึ แต่บังเอิญว่านายไม่มีความแข็งแกร่งเท่าฉันคนนี้ไง นายก็เลยต้องวางแผนและดำเนินการอย่างระมัดระวังในทุกขั้นตอนเหมือนอย่างที่มนุษย์ธรรมดาทั่วไปทำกัน”
กงซุนซาสั่งให้คนของตัวเองปิดม่านและพูดขึ้นพลางหัวเราะ
เขาเป็นคนที่ระมัดระวังตัวมากเสมอ และบ่อยครั้งที่ศัตรูของเขาตายโดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาคือภัยคุกคามที่อยู่เบื้องหลัง
ทุกครั้งที่ตัวเองลงมือคือการลงมืออย่างเฉียบขาดและหวังผลถึงตาย!
“แล้วสรุปคราวนี้พี่กงซุนเห็นอะไรบ้าง?”
คำพูดของอีกฝ่ายทำให้หลิ่วอวี้จิงรู้สึกจนใจ ตอนนี้เขาอยู่ใต้บังคับบัญชาของอีกฝ่าย ดังนั้นเขาจึงทำได้แค่คล้อยตามไปอย่างไม่มีทางเลือก
“จากเมื่อครู่ที่ฉันสังเกตไอ้เด็กคนนี้ดูเหมือนว่ามันจะอยู่ในจุดสุดยอดของขอบเขตพลังภายใน และถ้าหากเทียบกับนาย ไอ้เด็กนี่มันแข็งแกร่งกว่านายมาก”
“ตรงนี้แหละที่ผมไม่เข้าใจ! ผมเองก็อยู่ในจุดสูงสุดของขอบเขตพลังภายใน แต่ทำไมผมกลับแข็งแกร่งไม่เท่ามัน ผมไม่เข้าใจเลย!”
หลิ่วอวี้จิงเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าสับสน ครั้งล่าสุดที่เขาสู้กับอวี้ฮ่าวหราน เขาใช้กำลังเต็มสิบส่วนแล้วแต่เขาก็เทียบไม่ได้กับอีกฝ่ายเลย
“การที่มันเป็นแบบนั้นก็มีคำอธิบายเดียวก็คือ ไอ้เด็กนี่เคยได้รับการชี้แนะจากตัวตนลึกลับที่น่ากลัว ดังนั้นมันจึงไม่แปลกที่คนอย่างนายซึ่งฝึกฝนด้วยตัวเองจะสู้มันไม่ได้ คนที่ได้รับการชี้แนะมาเป็นอย่างดีย่อมแข็งแกร่งกว่าคนที่ฝึกมาอย่างไม่ถูกหลักที่แท้จริง การที่มันแข็งแกร่งได้ขนาดนี้ ฉันไม่เชื่อว่ามันจะไม่มีตัวตนลึกลับหนุนอยู่เบื้องหลัง”
“นี่…แต่ผมตรวจสอบประวัติมันแล้ว มันเป็นแค่ลูกเขยของตระกูลหลี่ เท่านั้นเองนี่นา ส่วนญาติพี่น้องของมันก็ไม่มีเลย…”
หลิ่วอวี้จิงขมวดคิ้วเมื่อได้ยินคำอธิบายนี้ คำอธิบายของกงซุนซามันขัดแย้งกับข้อมูลที่เขามี
แต่เมื่อลองคิดดูดี ๆ มันเป็นไปไม่ได้เลยที่ชายหนุ่มไร้ญาติจะสามารถฝึกฝนได้จนแข็งแกร่งขนาดนี้ด้วยตัวเองเพียงคนเดียว
อย่างไรก็ตาม อันที่จริงเขาเคยได้รับคำแนะนำจากผู้บ่มเพาะมาก่อน แต่คนผู้นั้นไม่ได้แข็งแกร่งสักเท่าไหร่ โดยเฉพาะหากเทียบกับเขาในตอนนี้ ซึ่งด้วยความรู้ที่เขาได้รับการถ่ายทอดต่อมาไม่มากนัก เขาจึงต้องใช้เวลาฝึกฝนอย่างหนักนานกว่า 20 ปีเพื่อให้ถึงจุดสูงสุดของขอบเขตพลังภายใน
“ดูเหมือนว่านายไม่ได้ตรวจสอบอย่างละเอียดจริง ๆ ไม่งั้นนายต้องรู้ว่าจริง ๆ แล้วเมื่อเกือบสี่ปีที่แล้วไอ้เด็กนี่มันหายตัวไปสามปีเต็มและมันเพิ่งโผล่มาได้เกือบปี ซึ่งหลังจากกลับมา ตัวของมันเปลี่ยนไปในทุกด้านไม่ว่าจะเป็นพรสวรรค์ในการทำธุรกิจ หรือแม้แต่ความแข็งแกร่งที่น่าประหลาดของมันเอง”
กงซุนซาค่อย ๆ บอกข่าวที่เขาสืบมาเอง
“มันหายตัวไปงั้นเหรอ?”
เมื่อได้ยินข้อมูลนี้ หลิ่วอวี้จิงก็ยิ่งขมวดคิ้วแน่น ความสนใจของเขาเพิ่มขึ้นในทันใด
หากเป็นกรณีนี้ มันเป็นไปได้ที่ในระหว่างอีกฝ่ายหายตัวไปอาจจะได้ไปเจอกับปรมาจารย์ลึกลับและได้รับการถ่ายทอดวิธีการบ่มเพาะที่เหนือล้ำมาจนกลายเป็นคนละคนจากคนเดิม
อย่างไรก็ตาม ทั้งเขาและกงซุนซาต่างนึกไม่ถึงว่าจริง ๆ แล้ว อวี้ฮ่าวหรานไม่ได้หายไปแค่สามปี แต่อวี้ฮ่าวหรานไปใช้เวลาอยู่ที่ดินแดนแห่งเทพมากกว่าสามหมื่นปี!
ชื่อเสียงของจักรพรรดิเทพฮ่าวหรานได้ดังก้องไปทั่วชั้นฟ้าและปฐพี!
ในขณะเดียวกัน หลังจากที่อวี้ฮ่าวหรานรู้สึกได้ว่าเขาไม่ถูกจ้องมองอีกแล้ว เขาก็หันกลับมาที่ชายวัยกลางคนและโยนร่างของอีกฝ่ายออกไปกระแทกเข้ากับกำแพงอย่างรุนแรง
“ไสหัวไปให้พ้น!”
ชายวัยกลางคนกระอักเลือดออกมาคำโต แขนของเขาก็หักจากการกระแทกกับกำแพง แต่ก็ไม่บ่นแม้แต่น้อย
เขาจะกล้าบ่นคนที่แข็งแกร่งเช่นนี้ได้ยังไง!
“ไปเร็วพวกเรา! รีบไปให้พ้นหน้าพี่ชายคนนี้เร็ว!”
“เฮ้ย เดี๋ยวก่อน! มาช่วยกันอุ้มลูกพี่ด้วยสิวะ ลูกพี่เจ็บจนยืนไม่ได้แล้ว!”
ด้วยความตื่นตระหนก พวกนักเลงต่างพยายามฝืนเจ็บลุกขึ้นและพยุงพวกของตัวเองหนีจากไปอย่างทุลักทุเล
“ฮ่าวหราน คุณนี่น่าทึ่งจริง ๆ เลย!”
ทันทีที่เขากลับขึ้นรถ เฉิงชิวอวี้ก็ชมเขาอย่างตื่นเต้น…
ยอดเขาแฝดที่นุ่มนิ่มเบียดติดแขนเขาทันที!
“เอ่อ…เดี๋ยวผมต้องขับรถ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านเทพกลับมาเป็นคุณพ่อ[神尊归来当奶爸]