บทที่ 379 ใส่ร้าย
บทที่ 379 ใส่ร้าย
“คุณหลี่กำลังเจรจากับลูกค้าอยู่ที่ห้องประชุมครับ”
พนักงานต้อนรับรู้จักชายหนุ่มตรงหน้าเป็นอย่างดี แถมยังรู้ว่าอีกฝ่ายมีความสัมพันธ์อย่างไรกับตระกูลหลี่จึงตอบไปตามตรง
“เจรจาเรื่องอะไร? ทำไมถึงต้องคุยจนดึกดื่นอย่างนี้?”
อวี้ฮ่าวหรานขมวดคิ้วหลังจากได้ฟังคำตอบของพนักงานต้อนรับ เขาไม่ได้คาดหวังว่าอีกฝ่ายจะชะงักไปเพราะเรื่องนี้
“เรื่องนี้ผมเองก็ไม่ทราบ…เอ่อ ทำไมคุณไม่ลองขึ้นไปดูด้วยตัวเองล่ะครับ”
พนักงานหนุ่มหันหลังแล้วเดินจากไป เพราะเขาไม่รู้รายละเอียดเรื่องนี้จริง ๆ
“พ่อจ๋า เราไปหาคุณน้ากันเถอะ”
ถวนถวนถูกอุ้มไว้ในอ้อมแขนของเขา หลังจากกินจนหนังท้องตึง หนังตาของเด็กหญิงก็หย่อนลงเรื่อย ๆ
นี่เป็นครั้งแรกที่เธอออกมาข้างนอกบ้านในตอนดึกดื่น
อวี้ฮ่าวหรานพยักหน้ารับเมื่อได้ยินคำพูดของลูกสาว ทั้งสองจึงตรงดิ่งไปยังห้องรับรองภายในอาคารทันที
ด้านนอกประตู เสียงทะเลาะเบาะแว้งดังลอดออกมาจากห้องรับรอง
“ในเมื่อเรื่องมาถึงจุดนี้แล้ว ผมแนะนำให้คุณคิดให้รอบคอบกว่านี้! ถ้าคุณไม่ขายหุ้นให้เรา บริษัทของคุณก็จะอยู่ได้ไม่นาน!”
“อย่าแม้แต่จะคิด!”
“ฮึ่ม! หน้าตาก็สะสวย แต่น่าเสียดายที่ไม่มีความฉลาดในการทำธุรกิจ ถ้าคุณตกลงแต่งงานกับผมแต่แรกก็สิ้นเรื่อง”
เมื่อได้ยินแบบนั้น อวี้ฮ่าวหรานก็ขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจ จากนั้นเขาจึงผลักประตูห้องประชุมให้เปิดออก
ในเวลานี้ห้องประชุมจึงเต็มไปด้วยผู้บริหารระดับสูงของบริษัทฮัวหรง
อีกด้านหนึ่งบริเวณกลางห้องประชุมมีชายหนุ่มท่าทางเย่อหยิ่งยืนอยู่ ด้านหลังของเขามีผู้คุ้มกันกว่าสิบคน ทุกคนล้วนมีรูปร่างกำยำและแข็งแกร่ง
ขณะที่หลี่หรงนั่งอยู่ตรงข้ามชายหนุ่มคนนั้นด้วยท่าทีสงบนิ่ง ด้านหลังของเธอก็มีผู้คุ้มกันรูปร่างกำยำกว่าสิบคนเช่นกัน พวกเขาต่างมีรัศมีน่ากลัวไม่น้อยกว่าอีกฝ่าย
ทั้งสองคนกำลังโต้ตอบกันแบบตาต่อตาฟันต่อฟัน ดูเหมือนว่าบรรยากาศภายในห้องกำลังอึมครึม!
“ฮึ่ม! คุณไม่มีคุณสมบัติมากพอที่จะซื้อบริษัทของฉัน!”
จู่ ๆ หลี่หรงก็แค่นเสียงเย็นชาพร้อมแสดงท่าทีเหยียดหยาม ซึ่งแตกต่างจากบุคลิกอบอุ่นและมีเสน่ห์ตอนที่อยู่ที่บ้านอย่างสิ้นเชิง
“ฉันจะบอกอะไรให้นะจ้าวเทียน! ฉันรู้ทันเล่ห์เหลี่ยมของคุณหมดแล้ว เพราะงั้นอย่าทำแบบนี้อีกเลย!”
น้ำเสียงไม่แยแสดังก้องภายในห้องประชุม ตอนนี้หลี่หรงมีมาดของนักธุรกิจอย่างเต็มเปี่ยม
“ฮ่า ๆ ไม่เลวนี่ ผมได้ข่าวมาว่าคุณยังเรียนมหาวิทยาลัยไม่จบด้วยซ้ำ คิดดีแล้วเหรอที่ลาออกมาเป็นคู่แข่งธุรกิจกับผม? คุณคู่ควรแล้วเหรอ?!”
ชายหนุ่มที่ถูกเรียกว่าจ้าวเทียนมีรูปลักษณ์ที่ดูอ่อนโยน แต่น่าเสียดายที่เขาพูดประโยคเหล่านั้นออกมาอย่างเลือดเย็น
“แค่ก ๆ”
อวี้ฮ่าวหรานรู้ตัวว่ากำลังถูกเมิน เขาคิดว่าเสียงเปิดประตูในตอนแรกคงเบาเกินไปจึงตัดสินใจกระแอมเสียงดังเพื่อให้ทั้งสองฝ่ายสนใจตัวเอง
ชายหนุ่มในชุดสูทที่ถูกเรียกว่าจ้าวเทียนหันมองต้นเสียงอย่างรวดเร็ว ก่อนพบว่าผู้มาเยือนคือชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลา เขาจึงอดแปลกใจไม่ได้
“หืม? คุณเป็นใคร?”
ในขณะนี้นอกจากผู้คุ้มกันและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยแล้ว ผู้คนที่อยู่ในห้องประชุมต่างเป็นผู้บริหารระดับสูงของทั้งสองบริษัท ดังนั้นบรรยากาศภายในห้องจึงตึงเครียดอย่างมาก
ในสถานการณ์แบบนี้ อวี้ฮ่าวหรานที่บุกเข้าไปในห้องประชุมด้วยชุดลำลองจึงค่อนข้างสะดุดตาไม่น้อย
สิ่งที่ทำให้ทุกคนพูดไม่ออกก็คือ ตอนนี้อวี้ฮ่าวหรานสวมรองเท้าแตะ…เขาลืมถอดเปลี่ยนก่อนออกจากบ้านน่ะ
แน่นอนว่าเรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาสำหรับชายหนุ่ม แต่ในสายตาของจ้าวเทียน ชายหนุ่มตรงหน้าไม่ต่างอะไรจากตัวตลกที่บุกเข้ามาในที่เป็นสถานที่ที่เป็นทางการแบบนี้!
“คุณมาได้ยังไง?”
ถึงอย่างนั้นหลี่หรงก็เป็นคนแรกที่โพล่งขึ้น ในเวลานี้ทุกคนกำลังจดจ่ออยู่กับการพูดคุยเรื่องธุรกิจ จู่ ๆ พี่เขยและถวนถวนก็บุกเข้ามาในประประชุม สีหน้าเคร่งเครียดของเธอจึงผ่อนคลายลงเล็กน้อย
“เอ่อ พวกเราเห็นว่าเธอยังไม่กลับบ้านเลยเป็นห่วงน่ะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านเทพกลับมาเป็นคุณพ่อ[神尊归来当奶爸]