อวี้ฮ่าวหรานรู้อยู่แล้วว่าสวีรุ่ยเป็นคนหัวแข็ง หากเขาไม่พูดขู่เธอไปแบบนั้นเธอคงไม่ไม่ยอมอยู่ที่นี่แน่นอน
“เอาแบบนั้นก็ได้ แต่ว่าคุณไม่ต้องจ่ายให้ผมทุกเดือน ผมขี้เกียจจะต้องมานั่งเก็บเงิน เอาเป็นคุณจ่ายผมสักปีละครั้ง…เอ๊ย ไม่สิสัก 5 ปี 1 ครั้งจะดีกว่า ส่วนจำนวนเงินที่ต้องจ่ายผมขี้เกียจกำหนดให้ เปลืองสมอง เอาเป็นว่าคุณสะดวกจ่ายเท่าไหร่ก็เอามาเท่านั้นก็พอ เอาตามนี้แหละ!”
“หะ?”
เมื่อได้ยินคำพูดส่ง ๆ ของอวี้ฮ่าวหราน สวีรุ่ยตกตะลึง จนอ้าปากค้าง เงื่อนไขแบบนี้มันไม่ต่างอะไรกับให้บ้านหลังนี้เธอฟรี ๆ ไม่ใช่หรือไง?
สิ่งที่เธอไม่รู้ก็คืออวี้ฮ่าวหรานไม่ได้ให้ความสำคัญอะไรกับเงิน มากนัก ตราบใดที่เขาสามารถเอาเงินที่เขามีมาสร้างความสุข ความสบายให้กับคนรอบ ๆ กายของเขาได้ เขาก็ไม่เสียดายอะไร
หลังจากจัดการเรื่องที่พักให้สวีรุ่ยแล้ว อวี้ฮ่าวหรานก็เดินกลับคอนโดทันที ปล่อยให้สวีรุ่ยทำความคุ้นเคยกับบ้านหลังใหม่ของเธอไป
อย่างไรก็ตามในขณะที่เขากำลังเดินกลับ จู่ ๆ เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
“ฮ่าวหราน ตอนนี้ผมเจอที่อยู่ของประธานถงแห่งบริษัทเว่ยไห่แล้ว!”
เสียงของเฉิงกัวอันดังขึ้นจากปลายสาย ทำให้สีหน้าของ อวี้ฮ่าวหรานเปลี่ยนเป็นตื่นเต้นทันที
เขาอยากได้ยินข่าวนี้มาตลอด!
หลังจากคุยโทรศัพท์ไปได้สักพัก อวี้ฮ่าวหรานจึงเรียกแท็กซี่ ไปตามที่อยู่ที่เฉิงกัวอันให้ไว้ทันที
เขาไม่ต้องการเอารถของตัวเองไปเพราะมันอาจจะเป็นการเปิดเผยตัวตนกับฝั่งตรงข้าม
ราว 45 นาที อวี้ฮ่าวหรานก็สั่งให้แท็กซี่จอดที่บริเวณใกล้เคียง กับคฤหาสน์ย่านชานเมืองหลังหนึ่ง
เมื่อแน่ใจว่าแท็กซี่ขับจากไปไกลลิบแล้ว อวี้ฮ่าวหรานค่อย ๆ ย่องไปปีนต้นไม้สูงที่อยู่ห่างจากคฤหาสน์ราว 300 เมตรเพื่อที่จะดูสภาพแวดล้อมด้านในหลังกำแพงคฤหาสน์ว่ามีอะไรบ้าง
เมื่อปีนขึ้นไปถึงกิ่งบนสุด อวี้ฮ่าวหรานก็ได้เห็นว่ารอบ ๆ คฤหาสน์มีการวางระบบรักษาความปลอดภัยเอาไว้อย่างแน่นหนามันมีทั้งลวดหนามไฟฟ้า ทั้งเหล่าบอดี้การ์ดหลายสิบคน
จากนั้นเพื่อความแน่ใจ อวี้ฮ่าวหรานได้เปิดใช้เนตรเทวะเพื่อ ส่องดูอีกที
คราวนี้เขาเห็นกับดักมากมายวางอยู่รอบ ๆ กำแพงเต็มไปหมดรวมถึงข้างในรอบ ๆ คฤหาสน์!
หากเป็นคนธรรมดาพยายามบุกเข้าไปคงตายตั้งแต่ยังไม่ทัน พ้นกำแพงแน่นอน!
แต่สำหรับอวี้ฮ่าวหราน กับดักเหล่านี้มันเป็นแค่ของเล่นเด็กเท่านั้น
เมื่อสำรวจเรียบร้อยแล้ว อวี้ฮ่าวหรานพ่นลมหายใจอย่างดูถูกจากนั้นเขาพุ่งตัวไปที่ประตูหน้าทันที
กับดักหลายอย่างที่ถูกวางอยู่บริเวณหน้าประตูถูกทำลายลง ในพริบตาจากหินที่อวี้ฮ่าวหรานเขวี้ยงออกไปทำลายพวกมัน
กับดักที่ถูกวางเอาไว้มีหลายรูปแบบมากไม่ว่าจะเป็นระเบิดพิษ กลไกหลุมหนาม หรือมีแม้กระทั่งกลไกปล่อยใบมีดให้พุ่งออกไปยังทิศทางที่ถูกจัดวางไว้
มองจากรูปแบบกับดักพวกนี้ อวี้ฮ่าวหรานเดาได้ทันทีว่าคนที่ วางพวกมันเอาไว้ต้องเป็นพวกชาวยุทธแน่นอนเพราะรูปแบบของมัน ขัดกับยุคสมัยเหลือเกิน …แต่ถึงแม้ว่ารูปแบบมันจะดูล้าสมัย ทว่าอำนาจการทำลายล้างของมันรุนแรงกว่าที่มนุษย์คนใดจะต้านทานได้
ยกตัวอย่างเช่นกลไกปล่อยใบมีด ความรุนแรงของใบมีดเหล่านั้นที่ถูกปล่อยออกมามันสามารถผ่าครึ่งรถสิบล้อได้แบบสบาย ๆ
แค่เพียง 5 นาทีจากหน้าประตูกำแพงคฤหาสน์ อวี้ฮ่าวหรานก็บุกตะลุยทำลายกับดักทุกอันและฆ่าเหล่าบอดี้การ์ดทุกคนที่ขวางหน้าไปถึงหน้าห้องที่มีประตูบานใหญ่หรูหราเตะตาที่ชั้น 2 ของคฤหาสน์
หลังจากใช้เนตรเทวะส่องเข้าไป อวี้ฮ่าวหรานพบว่าที่ด้านในมีชายคนหนึ่งนั่งอยู่ด้านในแค่เพียงคนเดียว
หลังจากถีบประตูเข้าไป ชายตัวอ้วนที่ดูมีอายุราว 40 กว่า ๆ ก็ระเบิดเสียงหัวเราะขึ้นทักอวี้ฮ่าวหราน
“แกคือคนแซ่ถงใช่ไหม?” อวี้ฮ่าวหรานเอ่ยถามขึ้นด้วยสีหน้า สงบนิ่ง
“ยินดีต้อนรับสู่คฤหาสน์ของฉัน! ฉัน ถงไห่เว่ย!” ผู้ที่นั่งอยู่ในห้องตอบรับด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ไม่มีความกลัวแม้แต่นิดปรากฏในแววตาของเขา
อย่างไรก็ตาม ถงไห่เว่ยเองก็รู้สึกประหลาดใจอยู่บ้างเหมือนกัน
ฝั่งตรงข้ามที่สร้างปัญหาให้เขามากมายดูเด็กจริง ๆ
ถึงแม้ว่าเขาจะเคยเห็นหน้าฝั่งตรงข้ามในรูปที่เคยใช้ให้คน ไปแอบถ่ายมากแล้ว แต่เขาไม่คิดว่าตัวจริงจะดูเด็กกว่าในรูปซะอีก!
ชายหนุ่มคนนี้คือคนที่ทำลายแผนการทั้งหมดของเขาซะยับเยิน!
และยิ่งไปกว่านั้นชายหนุ่มคนนี้กลับสามารถผ่านกับดักนานาชนิดที่เขาวางเอาในคฤหาสน์อย่างหมดจดโดยที่ไม่บาดเจ็บอะไรเลยแม้แต่นิด
ไอ้หนุ่มคนนี้มันไปฝึกมาจากไหนกัน?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านเทพกลับมาเป็นคุณพ่อ[神尊归来当奶爸]