"หลายปีต่อมา ผู้หญิงคนนั้นเสียชีวิตด้วยโรคภัยไข้เจ็บ ได้ทิ้งบริษัทนั้นไว้ ชายคนนั้นต้องดูแลลูกในขณะที่บริหารบริษัทด้วย และญาติของเขาไม่เคยออกมือช่วยเหลือเลย หรือแม้แต่มีส่วนร่วมด้วย"
เจียงเซิงหรี่ตาลงและเยาะเย้ย "หลายปีต่อมา เมื่อเด็กผู้หญิงคนนั้นโตขึ้น ผู้ชายคนนั้นต้องการมอบบริษัทให้กับเด็กผู้หญิงคนนั้น แต่แม่ของผู้ชายคนนั้นพาญาติมาถึงบ้าน และออกคำสั่งให้ชายคนนั้นมอบบริษัทที่แม่ของเด็กผู้หญิงก่อตั้งมาโดนยากลำบากให้กับลูกชายของญาติ เพียงเพราะญาติคนนั้นคิดว่าเด็กผู้หญิงคนนั้นเป็นเพศหญิงจึงไม่มีสทธิ์ที่จะสืบทอดบริษัท"
แน่นอนว่า ผู้เฒ่าเจียงฟังออกว่าเรื่องราวที่เจียงเซิงเล่านั้นเป็นการด่าพวกเขาแบบอ้อมๆ และตอนนี้สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปทันที
ส่วนนักข่าวพวกนั้นก็ฟังออกด้วยเช่นกัน
เวลานี้พวกเขาต่างก็รู้สึกว่าญาติพวกนั้นทำเกินไปแล้วจริงๆ
ลูกต่างมีสิทธิสืบทอดทรัพย์สิน ไม่ใช่ว่าเป็นเพราะพวกเขาเป็นลูกสาวก็หมดสิทธิ์ได้รับส่วนแบ่งเลย นี่มันยุคสมัยใหม่แล้ว ทำไมยังเป็นหัวโบราณที่เห็นลูกชายสำคัญกว่าลูกสาวล่ะ?
แถมต้องมอบบริษัทให้ญาติห่างๆ อีกด้วย
"เจียงเซิง อย่ากุเรื่องไร้สาระ เธอควรอธิบายเรื่องที่เธอฆ่าป้าของตัวเองให้ชัดเจนจะดีกว่า!"
เสียงของผู้เฒ่าเจียงไม่ได้ดังมาก แต่นักข่าวโดยรอบได้ยินกันหมด
นักข่าวคนหนึ่งจึงถามว่า "งั้นฉันขอถามคุณเรื่องที่คุณฆ่าวังเยี่ยนได้ไหม?"
"ตามข้อมูลที่เราได้รับ คุณมีข้อขัดแย้งกับกับญาติของคุณเนื่องจากเหตุการณ์ของไวน์เนอร์ จิวเวลรี่ และคุณมีความปรารถนาที่จะแก้แค้นด้วย คุณฆ่าป้าของคุณโดยไม่ได้ตั้งใจเพราะความผิดพลาดในการแก้แค้นหรือไม่"
ซือเย่เจ๋วที่ยืนอยู่เบื้องหลังมีดวงตาที่เย็นชา หากไม่ใช่ว่าเจียงเซิงห้ามเขาปรากฏตัว เขาอยากจะรีบขึ้นไปบนเวทีตอนนี้ เพื่อด่าทอพวกเขา
เจียงเซิงมองไปที่นักข่าว "ไม่ทราบว่ามีหลักฐานอะไรที่พิสูจน์ว่าฉันฆ่าคนเหรอ?"
ทันทีที่เจียงเซิงพูดอย่างนั้น นักข่าวคนนั้นก็พยักหน้าและพูดอะไร
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านประธานของสามโอรสแห่งสวรรค์พาตัวกลับบ้าน
แอดดดดด....กลับมาลงต่อหน่อยจ้าาาา🤣🤣🤣🤣...
โอ้ยยอยากอ่านต่อทำไมเทกันแล้วละ...
กลับมาลงต่อให้ด้วยนะคะ..อย่าเทกันกลางทางนะคะแอด😁😁...
สู้เพื่อลูกสักครั้งนะพ่อ...
เดาไว้แล้วว่า ต้องมีคนทำลายผลดีเอ็นเอแล้วก็เปลี่ยน แต่ไม่คิดว่าจะเป็นฝ่ายนางเอกทำเอง5555...
หวังว่าพระเอกจะไม่ตกม้าตายเหมือนเรื่งอื่นๆนะ...