ทายาทอันดับหนึ่ง นิยาย บท 11

เฮ้อ! ภรรยาของเขาสวยเกินไปทำให้ผู้คนมากหน้าหลายตามาตามจีบเธอ มันทำให้ฟิลิปปวดหัว

“เฮ้ เอเดนมาถึงแล้ว! เข้ามาสิ มานั่งลงข้างลุงจอห์นสตัน” มาร์ธาตื่นเต้นดีใจ เธอออกไปต้อนรับเขา “เธอเอาของขวัญมาด้วยทำไม? ไม่จำเป็นเลย เธอใจดีเกินไปแล้วแค่เธอมาที่นี่ก็ดีมากแล้ว”

“แต่นี่เป็นงานวันเกิดของลุงจอห์นสตันนี่ครับ” เอเดนยิ้มก่อนจะเดินเข้ามานั่งด้านข้างชาร์ลส์

ในตอนนี้เองก็ผู้คนต่างพากันจ้องมองมาที่ฟิลิปด้วยสายตาเยาะเย้ย ลูกเขยของตระกูลจอห์นสตัน คนนี้ช่างไร้ประโยชน์สิ้นดี! แม้แต่คนนอกยังได้นั่งข้างชาร์ลส์ จอห์นสตัน แต่ในฐานะลูกเขยเขากลับได้นั่งใกล้ประตู การปฏิบัติที่แตกต่างนี้แสดงออกอย่างเห็นได้ชัด

มาร์ธายิ้มอย่างจริงใจในขณะที่เธอจ้องมองไปที่เอเดนราวกับว่าเธอกำลังจ้องมองลูกเขยในอนาคตอยู่ “ต้องขอบคุณเอเดน ที่ช่วยจองห้องรับรองส่วนตัวนี้ ทำให้พวกเราได้มาทานอาหารที่เวอร์เทียส คอร์ทในวันนี้”

ผู้คนต่างมองไปที่เอเดนด้วยด้วยความเอ็นดู การที่จะจองห้องจัดเลี้ยงรับรองส่วนตัวที่ เวอร์เทียส คอร์ทได้นั้นจะต้องเป็นสมาชิกเท่านั้นและการที่จะเป็นสมาชิกที่นี่ได้ ก็จะต้องมียอดใช้จ่ายอย่างน้อยหนึ่งล้านต่อปี เขาช่างเป็นคนที่ร่ำรวยมหาศาลจริง ๆ

เอเดนโบกมือเล็กน้อย ถึงแม้เขาจะดูจริงใจ แต่ก็ไม่สามารถปกปิดความพึงพอใจที่อยู่บนใบหน้าของเขาได้ “อ้า ไม่มีปัญหาหรอกครับ เป็นเรื่องเล็กน้อยเท่านั้น บริษัทของเรามีกำไรเล็กน้อยและนั่นก็ต้องขอบคุณพ่อของผมที่ช่วยจัดการจองห้องนี้ให้”

เขาเพิ่งจะพูดอวดความรวยและตระกูลของเขา แต่ถึงอย่างไรก็ไม่มีใครฉีกหน้าเขา ในทางกลับกันต่างพากันชื่นชมเขาเป็นการใหญ่

“เอเดน เป็นชายหนุ่มมากความสามารถ”

“ใครก็ตามที่ได้เค้าไปเป็นลูกเขยจะต้องทำบุญมาดีได้แน่”

เอเดนได้รับคำชื่นชมและความเคารพนับถืออย่างรวดเร็ว แต่ฟิลิปที่นั่งเงียบอยู่มุมโต๊ะมาโดยตลอดกลับโดนดูถูก เขาทั้งสองเป็นชายหนุ่มเหมือนกันแต่กลับต่าง

“ในสายตาของฉัน ถ้าวินน์เลือกแต่งงานกับเอเดน เธอก็คงกลายเป็นภรรยาที่ร่ำรวยไปแล้วตอนนี้”

ไม่มีใครรู้ว่าใครเป็นคนพูดแต่สมาชิกทุกคนในตระกูลต่างก็พูดกดดัน เยาะเย้ยฟิลิป

“ดูสารรูปเจ้าคนไม่เอาไหนนั่นสิ เกะกะลูกตาชะมัด!”

“เจ้าคนไม่เอาไหนนั่นทำได้ก็แค่รับส่งอาหารเท่านั้นแหละ”

“ฉันได้ยินมาว่าลูกสาวของเขาต้องกินยาอยู่ตลอด เธอป่วยเป็นโรคหัวใจที่ไม่สามารถรักษาให้หายได้”

คำพูดอันคุ้นเคยจากใบหน้าที่คุ้นชิน ทำให้สายตาของฟิลิปเย็นชา แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรออกไปสองปีที่ผ่านมามันทำให้เขาเคยชินไปแล้ว

วินน์เองก็ไม่ได้ดีไปกว่าเขาสักเท่าไหร่ ใบหน้าของเธอร้อนผ่าวในขณะที่นั่งอยู่ด้านข้างสามีของเธอ เธอกระทืบเท้าฟิลิปอย่างเดือดดาลใต้โต๊ะ ก่อนจะจ้องหน้าเขาระบายความหงุดหงิดของเธอ

หลังจากที่โดนถากถางจากทุกคนมาตลอดฟิลิปก็สามารถนั่งนิ่งอยู่ตรงนั้นได้ราวกับว่าเขากำลังตกปลาอยู่ ท่าทีของเขาดูสงบนิ่ง เมื่อเห็นว่าฟิลิปไม่ได้ตอบกลับอะไรคนเหล่านั้นก็หันไปดื่ม ไม่ได้สนใจที่จะพูดถากถางเขาอีกต่อไป

และในตอนนั้นเอง สีหน้าท่าทางที่ดูราวกับเป็นห่วงเป็นใยของเอเดน เขาถามขึ้น “ฟิลิปผมมีตำแหน่งว่างที่บริษัท ทำไมคุณไม่มาช่วยที่บริษัทเราล่ะผมจะให้เงินเดือนคุณหกหรือเจ็ดพันต่อเดือน ผมว่ามันจะดีกว่าการที่คุณส่งอาหารนะ”

“ไม่เป็นไรหรอก งานส่งอาหารของผมก็ไปได้ดี” ฟิลิปพูดขึ้นเสียงราบเรียบ ถ้าฉันบอกนายว่าฉันเป็นทายาทของกลุ่มบริษัททางการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก นายจะต้องมาคุกเข่าต่อหน้าฉันตอนนี้ไปแล้วล่ะ สำหรับฉัน เงินก็เป็นเพียงแค่ตัวเลข

“อย่าไปสนใจเขาเลย เขาก็เป็นแค่ตัวปัญหา” เสียงตำหนิของมาร์ธาดังขึ้นมา ก่อนที่จะหันไปทางเอเดน ด้วยดวงตาเป็นประกาย “เอเดน แล้วเรื่องที่ฉันขอให้เธอช่วยช่วงก่อนหน้านี้เป็นอย่างไรบ้าง?”

เอเดนรีบตอบกลับพร้อมกับรอยยิ้ม “คุณป้าครับ คุณป้าสบายใจได้เลยผมจัดการให้แล้วเรียบร้อย ห้องจัดแสดงของสะสมของ ลุงจอห์นสตัน เรียบร้อยดี”

ชาร์ลส์ที่ก่อนหน้านี้ยังคงโกรธอยู่ รีบเงยหน้าขึ้นในทันทียิ้มออกมา “แอดดี้น้อยของเรา ขอบคุณมากเลยนะ มา มาดื่มกันหน่อย”

ทั้งสองชนแก้วกัน หลังจากดื่มเสร็จ เอเดนจงใจมองมาที่ฟิลิปด้วยหางตาของเขา ทำท่าทีหยิ่งยโสมากที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้ ก่อนที่สายตาของเขาจะจับจ้องไปที่วินน์ เขาชอบเธอมาเป็นเวลานาน แต่เธอกลับไปแต่งงานกับคนไร้ค่านั่น วินน์ จอห์นสตัน ผมจะทำให้คุณเห็นความแตกต่างระหว่างไอ้คนไร้ค่า ฟิลิปนั่น กับผม!

“วินน์ ลูกเห็นไหม? ว่าเอเดนใส่ใจพ่อของลูกมากแค่ไหน ผู้ชายแบบนี้หาไม่ได้ง่าย ๆ นะลูก และคนอื่นก็เทียบไม่ได้ด้วยซ้ำ” มาร์ธาพึงพอใจในตัวเอเดนเป็นที่สุด ชายหนุ่มมาจากครอบครัวที่ร่ำรวย มีธุรกิจเป็นของตัวเองและมีคนรู้จักเยอะแยะในสังคม ถ้าลูกสาวของเธอแต่งงานกับเขาเธอจะต้องได้อยู่อย่างสุขสบายแน่นอน

ก่อนที่มาร์ธาจะส่งสายตาเกลียดชังไปที่ฟิลิป

วินน์รู้สึกทรมานหัวใจมากอยู่แล้วเธอจึงทำได้เพียงแค่ฝืนยิ้มมันอึดอัดออกมา

ในทางกลับกัน ฟิลิปไม่ได้สนใจเลยสักนิดพวกเขาอยากจะพูดอะไรก็พูดไป

“ชาร์ลส์ คุณพูดถึงเรื่องห้องจัดแสดงงานสะสมส่วนตัวของคุณอยู่หรือเปล่า?” เพื่อน ๆ ของชาร์ลส์ต่างพากันจ้องมองเขาด้วยความอิจฉา การสะสมวัตถุโบราณและภาพวาดเป็นเรื่องปกติในสังคมเล็ก ๆ ของพวกเขา อย่างไรก็ตามการที่จะสร้างห้องจัดแสดงงานสะสมส่วนตัวนั้นเป็นเรื่องไม่ธรรมดา

เมื่อชาร์ลส์มองเห็นสีหน้าอิจฉาของเพื่อน ๆ ของเขา เขาก็ยิ่งรู้สึกภูมิใจในความช่วยเหลือของเอเดนมากยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกันเขาก็ดูแคลนฟิลิปมากยิ่งกว่าเดิม เขาสงสัยไปว่าทำไมเขาถึงยอมให้วินน์แต่งงานกับชายหนุ่มคนนี้ตั้งแต่แรกได้นะ แต่ในตอนนี้เขาจะต้องบังคับให้ลูกสาวของเขาหย่ากับเจ้าคนไร้น้ำยานั่นให้ได้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทอันดับหนึ่ง