ฆวนสะดุ้ง เขาถามด้วยความสงสัย “แกหมายความว่ายังไง?”
จู่ ๆ เขาก็รู้สึกว่าฟิลิปคนที่อยู่ตรงหน้าดูแตกต่างออกไป แต่อย่างไรก็ตามเขาไม่สามารถหาคำตอบได้ว่าอะไรที่ทำให้ฟิลิปนั้นดูต่างไป
ฟิลิปพูดขึ้นอย่างเฉยชา “ไม่ต้องกังวลไปหรอก ก็แค่อยากจะบอกนายว่าฉันสามารถทำในสิ่งที่นายทำไม่ได้”
ฟิลิปอดทนกับสิ่งที่ฆวนยั่วแหย่เขามาโดยตลอด
และเขาก็ไม่ถือสาเลย ถ้าหากฆวนได้ตระหนักเสียทีว่าเขาสามารถทำอะไรได้บ้าง
“ฟิลิป แกเสียสติไปแล้วเหรอ? กำลังจะบอกว่าคนไข้ที่ศาสตราจารย์เทิร์นเนอร์จะมาพบในวันนี้คือมิล่าอย่างนั้นเหรอ?” ฆวนพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันและแววตาที่เย็นชา
‘ไอ้ขยะนี่มันคิดว่ามันเป็นใครกัน?’ ศาสตราจารย์เทิร์นเนอร์คือบุคคลที่ยิ่งใหญ่ ขนาดคนอย่างฉันที่ครอบครัวมีฐานะทางสังคมขนาดนี้ก็ยังต้องอ้อนวอนเขาอยู่ตั้งนาน แล้วคนอย่างฟิลิปจะไปติดต่อเขามาได้ได้ยังไงกัน?”
ฟิลิปไม่ได้ปฏิเสธ แต่เผยรอยยิ้มบาง ๆ ออกมาแทน “เดี๋ยวก็รู้”
“ก็ได้ฟิลิป โกหกเก่งขึ้นนะ แกรู้หรือเปล่าว่ามันต้องใช้ความสามารถมากแค่ไหนในการที่จะให้ศาสตราจารย์เทิร์นเนอร์ยอมรักษาผู้ป่วยคนหนึ่ง? มีเหล่าคนรวยและผู้มีอิทธิพลกว่า 100 คนมาขอร้องเขาในวัน ๆนึง…แต่แกคิดว่าแค่รวยและมีอิทธิพลจะสามารถทำให้ศาสตราจารย์เทิร์นเนอร์ยอมรับเป็นคนไข้อย่างนั้นเหรอ? แกรู้ไหมว่ามีนักธุรกิจและเหล่าคนรวยมากมายแค่ไหนที่ถูกศาสตราจารย์เทิร์นเนอร์ปฏิเสธ?”
ฆวนมองไปที่ฟิลลิปอย่างเหยียดหยาม สีหน้าของเขาเย็นชาขึ้น “แค่ค่ารักษาพยาบาลของศาสตราจารย์เทอร์เนอร์เพียงอย่างเดียวก็มีมูลค่าถึงสองสามล้าน แกจ่ายไหวอย่างนั้นเหรอ?”
จะโทษฆวนที่ดูถูกฟิลิปก็ไม่ได้ เพราะการที่จะได้เป็นคนไข้ของศาสตราจารย์เทิร์เนอร์นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เลย
ถ้าไม่ใช่เพราะพ่อของเขา บางทีศาสตราจารย์เทิร์นเนอร์อาจจะไม่เห็นหัวเขาด้วยซ้ำ
ฟิลิปส่งมิล่าให้วินน์อุ้ม และพูดอย่างใจเย็น “ไม่มีอะไรแน่นอน นายแน่ใจได้ยังไงว่าฉันจะไม่สามารถพาศาสตราจารย์เทิร์นเนอร์มาได้?”
ฆวนระเบิดเสียงหัวเราะออก เขาหันหน้าไปหาวินน์ก่อนจะกล่าวหาฟิลิป “วินน์ เธอเห็นรึเปล่า? ฟิลิปเป็นพวกโกหกหน้าด้าน ๆ เขาคิดว่ามีปัญญาพาศาสตราจารย์เทิร์นเนอร์มาได้จริง ๆ!”
วินน์นยังคงนิ่งเงียบ เธอมองไปที่มิล่าเธออยู่ในอ้อมแขนของเธอ จากนั้นจึงหันไปมองฟิลิปด้วยความกระดากอายเล็กน้อย “ฟิลิปถ้าคุณติดต่อศาสตราจารย์เทิร์นเนอร์ไม่ได้ ก็ไม่เป็นไรหรอก ไม่จำเป็นต้องพูดเรื่องนี้ต่อหน้าฆวนหรอก จะเป็นหมอคนอื่นก็ได้”
วินน์ไม่อยากจะทำให้ฟิลิปขายหน้า เธอหันไปหาฆวนก่อนจะยิ้มให้ “ฆวน ขอโทษด้วยนะ อย่าโทษฟิลิปเลย ฉันซาบซึ้งที่พี่ช่วยเหลือมากมายขนาดนี้ แต่พี่ก็รู้ว่าอาการของมิล่าเป็นยังไง เราจะพามิร่าไปพบหมอที่คลินิกได้ติดต่อไว้ในวันนี้ ถ้าผลลัพธ์ออกมาไม่ดีฉันก็จะรอต่อไปอีกครึ่งเดือน”
วินน์พูดเช่นนั้นเพราะเธอเองก็ไม่อยากจะทำให้ฆวนขายหน้าเช่นกัน
ฆวนมีท่าทีเฉยเมยและพูดขึ้น “วินน์ เธอเข้าใจที่พี่ต้องการจะสื่อใช่ไหม พี่จะยังคงติดต่อกับศาสตราจารย์เทอร์เนอร์ไว้ หวังว่าเธอจะลองไปคิดดูว่าฟิลิปจะทำให้เธอและมิล่ามีชีวิตที่ดีได้หรือเปล่า ถึงตัวเธอจะไม่ได้คิดอะไรมากแต่ก็นึกถึงอนาคตของมิล่าด้วยเถอะนะ”
ฆวนไม่ละอายใจแม้แต่น้อยหลังจากพูดยั่วยุฟิลิปไปเช่นนั้น
ฟิลิปเพราะขมวดคิ้วก่อนจะพูดออกมาด้วยเสียงเย็น “ฆวน ไม่ใช่ธุระกงการอะไรของนายที่จะต้องมาห่วงอนาคตของวินน์และมิล่าหรอกนะ เข้าใจหรือเปล่า?”
เขาไม่พอใจเป็นอย่างมาก
ฆวนเองก็ไม่พอใจเช่นกัน เขาโต้กลับ “ฟิลิป แสดงให้ฉันดูสิว่าแกสามารถหาอะไรมาให้วินน์และมิล่าได้บ้าง อย่าดีแต่พูด”
ใครกันที่ดีแต่พูด?
ในตอนนั้นเองโทรศัพท์ของฟิลิปก็ดังขึ้น ความตึงเครียดระหว่างทั้งสองก็เหือดหายไปทันที
เขาเดินหลบไปด้านข้างและก็ได้เห็นว่าเป็นเบอร์ของศาสตราจารย์เทิร์นเนอร์ที่โทรเข้ามา
“มิสเตอร์คลาร์คครับ ผมมาถึงแล้วครับคุณอยู่ที่ไหน?” ศาสตราจารย์เทิร์นเนอร์พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงนอบน้อมผ่านปลายสายมา
เขาได้เตรียมตัวสำหรับวันนี้มาเป็นเวลานานและได้พาผู้ช่วยที่ดีที่สุดมาด้วย
และเพื่อให้แน่ใจว่าทุกอย่างจะผ่านไปได้ด้วยดี แผนของเขาก็คือจะคอยตรวจดูร่างกายของลูกสาวมิสเตอร์คลาร์คแล้วจึงค่อยวางแผนการรักษาเธอ
“ผมอยู่ที่ใต้ตึกของแผนกฉุกเฉิน” ฟิลิปตอบกลับ
“ได้ครับผมจะไปที่นั่นเดี๋ยวนี้ ช่วยรอผมก่อน” น้ำเสียงของศาสตราจารย์เทิร์นเนอร์ตื่นเต้นอย่างมาก
หลังจากวางสายฟิลิปเดินเข้ามาหาวินน์พร้อมกับรอยยิ้ม “วินน์หมอที่ผมติดต่อไว้จะมาที่นี่เร็วๆ นี้ คุณจะได้รู้ว่าเขาเป็นใครในอีกไม่ช้า”
วินน์พยักหน้า
ฆวนหัวเราะเยาะที่เจือปนไปด้วยการดูถูก “ช่างเหมาะเจาะอะไรเช่นนี้ ฉันเองก็อยากจะเห็นหมอที่แกติดต่อมาเหมือนกัน”
เมื่อพูดเช่นนั้น ฆวนมองไปที่วินน์และพูดขึ้นด้วยท่าทางอิ่มเอมใจ “วินน์อย่ากังวลไปเลย ผมจะติดต่อไปหาศาสตราจารย์เทิร์นเนอร์ตอนนี้เลย และขอให้เขามาที่นี่เช่นกัน”
หลังจากที่เขาพูดจบเขาก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาจงใจกดเบอร์เพื่ออวดอ้างต่อหน้าฟิลิป พูดขึ้นด้วยเสียงนอบน้อม “ สวัสดีครับศาสตราจารย์เทอร์เนอร์ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหนเหรอครับ? คุณต้องการให้ผมไปรับคุณไหมครับ?”
ศาสตราจารย์เทิร์นเนอร์ที่กำลังรีบมาที่ตึกฉุกเฉินตอบกลับด้วยน้ำเสียงสบาย ๆ “ผมกำลังจะถึงตึกฉุกเฉิน คุณรอผมที่นั่นได้เลย”
เขาวางสายไปหลังจากนั้น
ฆวนพยักหน้าและขอบคุณศาสตราจารย์เทิร์นเนอร์ ก่อนจะหันหน้ามาพูดกับฟิลิปอย่างภาคภูมิใจ “ศาสตราจารย์เทิร์นเนอร์กำลังมาที่ตึกแผนกฉุกเฉิน เขาจะมาถึงในอีกไม่นาน”
ฆวนหัวเราะเยาะในใจ เขาไม่ได้คาดคิดว่าจะเจอเรื่องบังเอิญในโลกนี้
ราวกับว่าพระเจ้าได้มอบโอกาสที่จะถลกหนังหน้าของฟิลิปออกมา
ช่างเป็นเวลาที่เหมาะเจาะอะไรแบบนี้!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทอันดับหนึ่ง