ศาสตราจารย์เทิร์นเนอร์มาเพราะฟิลิปจริงด้วย!
นี่มันเป็นเรื่องน่าอัศจรรย์ใจมาก
ในสายตาของฆวน ฟิลิปเป็นแค่ไอ้ขี้แพ้เท่านั้น!
แล้วมันมีดีอะไรถึงทำให้ศาสตราจารย์เทิร์นเนอร์ปฏิบัติกับมันด้วยความเคารพขนาดนี้?
เดี๋ยวก่อน!
ฆวนนึกย้อนไปถึงครั้งที่เจอฟิลิปก่อนหน้านี้ และศาสตราจารย์เทิร์นเนอร์ก็อยู่ที่ห้องพักรับรองของโรงพยาบาลด้วย ‘หรือว่าในตอนนั้นศาสตราจารย์เทิร์นเนอร์ก็มาพบมันเป็นกรณีพิเศษเหมือนกัน?’
ทันใดนั้น ฆวนก็รู้สึกกระวนกระวายใจขึ้นมา
และในเวลาเดียวกัน เขาก็รู้สึกโกรธเป็นอย่างมาก
‘นี่มันเป็นไปไม่ได้! มันจะต้องเป็นเรื่องเข้าใจผิด!’
ดวงตาของวินน์ยังคงเบิกกว้าง เธอจ้องไปที่ฟิลิปอย่างไม่อยากจะเชื่อ ปากเล็กของเธออ้าค้างเล็กน้อย มือสั่นเทา เธอถามขึ้น “ฟิลิป…ฟิลิปนี่คุณพาศาสตราจารย์เทิร์นเนอร์มาได้จริงด้วย?”
เรื่องนี้มันเกิดขึ้นได้ยังไงกัน?
ถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้นในอดีต วินน์คงจะคิดว่าศาสตราจารย์เทิร์นเนอร์คนนี้ไม่ใช่ตัวจริง
แต่หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ วินน์ก็ได้รู้ตัวตนอีกด้านของฟิลิป
ถึงแม้ครอบครัวของฟิลิปก็จะมีฐานะมั่งคั่ง แต่นั่นก็คงไม่ใช่เหตุผลที่ทำให้ศาสตราจารย์เทิร์นเนอร์จะปฏิบัติกับเขาด้วยความนอบน้อมเช่นนี้
เขาคือผู้นำทางด้านการแพทย์ เป็นคนสำคัญที่ใคร ๆ หลายคนต่างต้องการตัว
แต่ในตอนนี้ เขากลับมาพินอบพิเทาสามีของเธอ
นักบุญทางการแพทย์อายุ 60 เกือบ 70 ปีที่มีผู้เคารพนับถือเป็นอย่างมากกลับมาทำตัวนอบน้อมต่อชายหนุ่มอายุแค่ 20 กว่า ๆ
ถ้าเหล่าเจ้าสัวและนักธุรกิจทั้งหลายที่เคยมาอ้อนวอนศาสตราจารย์เทิร์นเนอร์ให้รักษาพวกเขารู้เรื่องนี้เข้า พวกเขาเองก็คงจะต้องตกตะลึงไปเช่นเดียวกัน
‘นี่ฟิลิปกำลังปิดบังอะไรบางอย่างจากฉันกันแน่? ครอบครัวของเขาทำธุรกิจอะไรกันแน่นะ?’
ฟิลิปมองออกว่าวินน์กำลังสงสัยอะไรเขาพูดพร้อมกับยิ้มออกมา “ศาสตราจารย์เทิร์นเนอร์เป็นเพื่อนเก่าของพ่อผม พ่อสนับสนุนงานวิจัยของเขา ใช่ไหมครับศาสตราจารย์เทิร์นเนอร์?”
ในขณะที่กำลังกลบเกลื่อน ฟิลิปก็มองไปที่ศาสตราจารย์เทิร์นเนอร์ผู้ที่เข้าใจสถานการณ์ในทันที ศาสตราจารย์เทิร์นเนอร์พยักหน้ารับพร้อมกับยิ้ม “ใช่แล้วครับ มิสวินน์ คุณพ่อของมิสเตอร์ฟิลิปสนับสนุนโครงการวิจัยของพวกเราก่อนหน้านี้ ผมจึงต้องการตอบแทนน้ำใจของเขา”
“นั่นมันเป็นไปไม่ได้! จะเป็นไปได้ยังไง? ฟิลิปเป็นแค่คนไม่เอาถ่านพ่อของเขา...เป็นผู้สนับสนุนงั้นเหรอ? ศาสตราจารย์เทิร์นเนอร์ คุณรู้หรือเปล่าว่ากำลังพูดอะไรอยู่?”
ฆวนโกรธจนหน้ามืดตามัวจนกล้าตั้งคำถามแบบนี้กับศาสตราจารย์เทิร์นเนอร์
‘พ่อของฟิลิปอยู่ที่ไหน? เขาเป็นลูกกำพร้าไม่ใช่หรอ?’
นี่เป็นสิ่งที่ฟิลิปบอกกับเขาตอนที่เรียนมหาวิทยาลัยด้วยกัน
ผู้สนับสนุน?
ตลกแล้ว!
ศาสตราจารย์เทิร์นเนอร์พูดราวกับว่าครอบครัวของฟิลิปร่ำรวยอย่างนั้นแหละ
ถ้าเขามีเงินจริงทำไมเขาต้องไปตกระกำลำบากกับวินน์แบบนั้นด้วย? ทำไมเขาถึงไม่สนใจอาการป่วยของมิล่า?
สีหน้าของศาสตราจารย์เทิร์นเนอร์เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมขึ้น เขาหันหลังกลับไปและพูดขึ้นด้วยเสียงเย็น “อย่ามาทำตัวหยาบคายที่นี่นะ! พ่อของมิสเตอร์ฟิลิปไม่ใช่คนที่นายจะมาพูดพล่อย ๆ ได้! ถ้านายกล้ามาทำหยาบคายกับมิสเตอร์ฟิลิป ก็อย่ามาโทษฉันแล้วกันถ้าฉันจะไม่เห็นนายอยู่ในสายตาอีก”
ฆวนได้ทำผิดพลาดไปเสียแล้ว
ชีวิตของเขาคงสั้นลงไปหลายปีถ้าหากยังกล้าทำหยาบคายต่อพ่อของฟิลิป
นี่เขาไม่รู้เหรอว่าพ่อของมิสเตอร์ฟิลิปสามารถสร้างผลระทบต่อรายได้รวมของคนในประเทศได้เพียงแค่ดีดนิ้วเท่านั้น?!
ฆวนตัวสั่นด้วยความหวาดหวั่นและกระวนกระวาย เขารีบขอโทษ “ผมต้องขอโทษด้วยครับศาสตราจารย์เทิร์นเนอร์ มันเป็นเพียงอารมณ์ชั่ววูบเท่านั้น”
“หึ่ม!” ศาสตราจารย์เทิร์นเนอร์พ่นลมหายใจออกมาทางจมูกอย่างดุดันและพูดขึ้นหลังจากนั้น “พรุ่งนี้ฉันจะให้คนส่งคืนหยกที่พ่อนายให้ฉันมา นับแต่นี้ไปตระกูลปาร์คเกอร์กับฉันไม่มีอะไรติดค้างกันอีก!”
เพี๊ยะ!
นั่นราวกับเป็นการตบหน้าฆวนฉาดใหญ่
ฆวนสติแตกขึ้นมาทันที เขาขอโทษครั้งแล้วครั้งเล่า “ศาสตราจารย์เทิร์นเนอร์ครับ ผมขอโทษ ได้โปรดอย่าทำเช่นนั้นเลย ไม่อย่างนั้นพ่อจะต้องฆ่าผมแน่”
ศาสตราจารย์เทิร์นเนอร์พูดกับเขาต่อหน้า “ไม่ต้องขอโทษฉันนายต้องขอโทษมิสเตอร์ฟิลิป”
ฟิลิป คลาร์ค?
ฆวนหันหน้าไปมองฟิลิป สีหน้าของเขาดูลำบากใจเป็นอย่างมาก
‘ทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้? ทำไมศาสตราจารย์เทิร์นเนอร์ถึงดูให้ความเคารพกับไอ้ขยะนี่นัก? มันเป็นใครกันแน่?!?”
ฆวนกัดฟันแน่น เค้นรอยยิ้มออกมาก่อนจะพูด “ฟิลิป ในเมื่อฉันก็ทำดีกับมิล่ามาตลอด นายก็ช่วยพูดกับศาสตราจารย์เทิร์นเนอร์ให้ทีได้รึเปล่า?”
‘คิดว่าฉันยอมง่าย ๆ อย่างนั้นสินะ! ฉัน ฆวน ต้องมาขอโทษฟิลิป คลาร์ค เนี่ยนะ!’
วินน์ที่ยืนอยู่ด้านข้างพูดขึ้น “ฟิลิปเห็นแก่ฉันเถอะนะ คุณช่วยปล่อยเรื่องนี้ไปได้รึเปล่า?”
ในเมื่อภรรยาของเขาขอร้องมา ฟิลิปก็จะไม่สนใจอีกต่อไป เขาพูดขึ้นเสียงราบเรียบ “จะต้องไม่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกใรครั้งต่อไป”
หลังจากนั้นเขาก็อุ้มมิล่าเดินเข้าโรงพยาบาลไปพร้อมกับศาสตราจารย์เทิร์นเนอร์
เหลือเพียงฆวนที่ยังยืนอยู่คนเดียวตรงทางเข้า เหงื่อท่วมตัว สีหน้าของเขาโกรธจัดพร้อมกำหมัดแน่น
เขาหันหลังกลับแล้วเดินจากไป
เมื่อมาถึงที่รถ เขาปิดประตูลั่นและทุบไปที่พวงมาลัยอย่างบ้าคลั่ง
ฆวนอารมณ์เสียเป็นอย่างมาก มากเสียจนแปรเปลี่ยนเป็นความเกลียดชัง!
“ทำไม!”
ฆวนคำรามอยู่ในรถก่อนจะหยิบโทรศัพท์ออกมา เขาเหนื่อยหอบ ตัวสั่นเทิ้มไปด้วยความโกรธ แววตาเย็นยะเยือกปรากฏขึ้นที่มุมหางตา พูดขึ้น “เลื่อนเป็นวันมะรืนเลย!”
ปัง!
หลังจากวางสาย ฆวนจ้องอย่างโกรธเคืองไปที่ประตูทางเข้าโรงพยาบาล
และในตอนนั้นเอง ความเกลียดชังก็ถาโถมเข้ามา
‘วินน์ ฉันต้องเอาตัวเธอมาให้ได้! ฉันต้องได้!’
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทอันดับหนึ่ง