ในระหว่างที่ศาสตราจารย์เทิร์นเนอร์กำลังตรวจร่างกายของมิล่าอยู่ วินน์ก็ลากฟิลิปไปที่บริเวณห้องรับรองและจ้องไปที่เขา
ฟิลิปยักไหล่อย่างช่วยไม่ได้ก่อนที่จะตัดสินใจบอกวินน์ตามตรง “ผมจะพูดตามตรงนะ ศาสตราจารย์เทิร์นเนอร์เคยเป็นหมอประจำตัวของพ่อผม”
“หมอประจำตัว?” วินน์ประหลาดใจ ดวงตาของเธอเป็นประกายระยิบระยับ
‘พ่อของฟิลิปคือใครกันแน่นะ? ทำไมถึงสามารถจ้างศาสตราจารย์เทอร์เนอร์ให้เป็นหมอส่วนตัวของเขาได้?’
“ฟิลิปมีเรื่องอะไรอีกหรือเปล่าที่คุณอยากจะบอกกับฉัน?” วินน์ถามขึ้นอีกครั้งด้วยสีหน้าที่โกรธเคืองเล็กน้อย
‘ฟิลิปต้องแอบปิดบังบางอย่างอีกแน่’
ฟิลิปรีบเข้าไปโอบเอววินน์ ยิ้มออกมาและพูดขึ้น “ไม่มีอะไรจริง ๆ ในตอนนั้นศาสตราจารย์เทิร์นเนอร์ยังไม่ได้มีชื่อเสียง พ่อของผมมีปัญหาด้านสุขภาพ ดังนั้นเขาจึงให้ศาสตราจารย์เทิร์นเนอร์มาเป็นหมอส่วนตัว ผมไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องโกหกคุณ ถ้าผมโกหกคุณขอให้ฟ้าผ่า…”
ในขณะที่ฟิลิปกำลังจะกล่าวคำสาบาน วินน์ก็รีบเอามือปิดปากเขาไว้ และจ้องเขม็งไปที่เขาอย่างไม่พอใจนัก และพูดขึ้น “ก็ได้ ฉันเชื่อคุณ”
ฟิลิปฉีกยิ้มกว้างก็จะเอามือเขี่ยจมูกของวินน์เล่น
วินน์รีบหันหน้าหนีอย่างเขินอายก่อนจะกรอกตาใส่เขาและพูดขึ้น “คุณทำอะไรน่ะ? ที่นี่มีคนเยอะแยะนะ”
ศาสตราจารย์เทิร์นเนอร์เข้ามาตรวจสอบอาการของมิล่าอีกครั้ง วินน์จึงเข้าไปร่วมดูด้วย
ปัญหาเรื่องการผ่าตัดของมิล่าจะผ่านไปอย่างเรียบร้อย และศาสตราจารย์เทิร์นเนอร์ยังช่วยเธอทำกายภาพบำบัดต่อจากนี้เป็นประจำด้วย วินน์จึงอารมณ์ดีทั้งวัน
ในขณะเดียวกันนั้น ความคิดของเธอที่มีต่อฟิลิปก็เปลี่ยนไปอย่างมาก
เธอกำลังคิดว่าจะบอกพ่อกับแม่เรื่องนี้ตอนไหนดี
‘ช่างมันเถอะ ฉันจะบอกทีหลัง ตอนนี้แม่ก็คงจะยังโกรธอยู่’
กลับมาที่บริษัท วินน์รู้สึกว่าเพื่อนร่วมงานพยายามที่จะหลบหน้าเธอ
“นี่มินดี้ เกิดอะไรขึ้นเหรอ?” วินน์ถามผู้ช่วยของเธอ
ผู้ช่วยมองไปรอบ ๆ ก่อนจะพูดขึ้น “วินน์ ตอนที่เธอไม่อยู่ มีรองประธานคนใหม่เพิ่งเข้ามารับตำแหน่งในบริษัทของเราเมื่อสองสามวันก่อน รองประธานคนนี้เป็นผู้หญิง และฉันได้ยินมาว่าเธอเป็นคนรักของมิสเตอร์ฮอลล์ เธออารมณ์ร้ายมากเลยแหละ แล้วยังพูดชื่อของวินน์ออกมาเมื่อเช้านี้และบอกจะจัดการเธออีกด้วย”
วินน์ยิ้มออกมาและพูด “ฉันไม่รู้จักรองประธานคนใหม่นี้นิ ทำไมเธอต้องมาจัดการอะไรฉันล่ะ?”
ผู้ช่วยถอนหายใจอย่างหมดหนทางและพูด “เพราะมีใครบางคนไปฟ้องน่ะสิ ว่าเธอกับมิสเตอร์ฮอลล์มีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกันน่ะสิ”
วินน์สะดุ้ง ไม่มีที่ไหนที่จะไปหลบซ่อนจากข่าวลือพวกนี้จริง ๆ สินะ
ถึงกระนั้นวินน์ก็ไม่ใส่ใจ เธอพูดยิ้ม ๆ “ไม่เป็นไรหรอก อย่าไปพูดหรือสนใจอะไรกับข่าวลือเลย”
ผู้ช่วยของเธอพยักหน้า แต่ก็ยังไม่วายเตือนเธอออกมา “วินน์ ฉันแนะนำว่าเธอควรจะจับตาดูไว้นะ รองประธานคนใหม่นี้ไม่ใช่เล่น ๆ เลยนะ มิสเตอร์ฮอลลเชื่อคำพูดของเธอมาก”
วินน์พยักหน้าเพื่อบอกให้รู้ว่าเธอรับฟัง ก่อนที่จะนำเอกสารข้อเสนอต่อโรงพยาบาลแห่งที่สองของเทิร์นเนอร์เข้าไปที่ห้องทำงานของประธาน
หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมง วินน์ออกมาจากห้องทำงานของประธาน
ผู้หญิงคนนึงท่าทางสุขุมเดินตรงเข้ามาหาเธอ ผมลอนเป็นคลื่นและสวมตุ้มหู้คริสตัลเม็ดโต
เธอแผ่รังสีที่บ่งบอกว่า ‘จะสยบต่อหน้าราชินีสิ’ ออกมา
แค่แวบแรกที่มองก็สามารถบอกได้ว่า เธอไม่ใช่คนที่จะไปล้อเล่นด้วยได้
วินน์ยิ้ม พยักหน้าและกล่าวทักทาย
แต่ผู้หญิงคนนั้นกลับตรงปรี่เข้ามาหาวินน์ ง้างมือขึ้นและตบหน้าเธออย่างแรง!
เพี๊ยะ!
การตบครั้งนี่เกิดขึ้นต่อหน้าผู้ร่วมงานทุกคนในบริษัท
ทุกคนต่างสูดลมหายใจเข้าเฮือกใหญ่ ไม่มีใครกล้ายืนมือเข้ามาช่วย ต่างพากันเลือกที่จะทำเป็นไม่เห็นและมองดูอย่างเงียบ ๆ
วินน์ตกตะลึงจนพูดไม่ออกและแก้มของที่โดนตบก็ร้อนผ่าว
“เธอคือวินน์ใช่ไหม?” เสียงเย็น ๆ ของหญิงสาวคนนั้นถามขึ้น
วินน์จ้องเธออย่างโกรธเคืองพร้อมกับถามขึ้น “คุณเป็นใคร แล้วทำไมถึงมาตบหน้าฉัน?”
หญิงสาวคนนั้นหัวเราะเยาะและตบเธออีกครั้ง เธอชี้หน้าวินน์และพูดขึ้น “ฉันชื่อยาสมิน เป็นรองประธานคนใหม่และเป็นแฟนของมิสเตอร์ฮอลล์ นี่เป็นการเตือนเธอ เลิกมาวุ่นวายกับมิสเตอร์ฮอลล์ซะ ไม่อย่างนั้นแล้วละก็ฉันจะตบเธอทุกครั้งที่เห็นหน้า!”
เธอวางตัวเหนือคนอื่นและหยิ่งยโส!
และนี่คือยาสมิน ลูวอิส รองประธานคนใหม่แห่งเภสัชกรรมบีคอน
วินน์รู้สึกโกรธมาก เธอไม่คาดคิดว่ายาสมินจะชอบใช้อำนาจและไม่มีเหตุผลมากขนาดนี้
และดูเหมือนว่าเธอจะอายุแค่ยี่สิบต้น ๆ เท่านั้น
และในเวลาเดียวกันนั้น เดอร์ริค ฮอลล์ก็ออกมาจากห้องทำงาน เมื่อเขาเห็นว่าเกิดอะไรขึ้น เขาตะโกนออกไป “รองประธานยาสมิน นั่นคุณกำลังทำอะไร?”
ยาสมินมีสีหน้าไม่สะทกสะท้าน เธอกอดอก เดินออกไปและไม่ลืมที่จะจ้องอย่างเย็นชาไปที่วินน์
ภายในห้องทำงาน ไม่มีใครกล้าพูดอะไรสักคน
เดอร์ริคมองไปที่วินน์ เขารู้สึกผิดจึงเรียกให้วินน์เข้ามาในห้องทำงานของเขา เขาพูดขอโทษขึ้น “ผู้จัดการจอห์นสตัน ผมขอโทษด้วยจริง ๆ นะ ผมขอโทษแทนยาสมินด้วย ได้โปรดยกโทษให้เธอด้วยot”
ในขณะที่พูด เดอร์ริคหยิบบัตรเครดิตออกมา ยื่นให้วินน์และพูดขึ้น “นี่เป็นเงินหนึ่งแสนดอลลาร์ ผมได้ยินมาว่าคุณต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลของลูกสาวคุณ คิดซะว่านี่เป็นเงินช่วยเหลือแล้วกันนะ”
วินน์ไม่ได้รับบัตรมา เธอพูดขึ้นอย่างเย็นชา “ไม่จำเป็นหรอกค่ะมิสเตอร์ฮอลล์ ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ฉันขอตัวก่อน”
หลังจากนั้น วินน์หมุนตัวเดินออกจากห้องทำงานของเดอร์ริค และกลับไปยังห้องทำงานของเธอ
ผู้ช่วยของเธอรีบวิ่งเข้ามาและถามขึ้นอย่างร้อนรน “วินน์เธอเป็นอะไรรึเปล่า? ฉันไม่คิดเลยว่ายาสมินจะจองหองขนาดนี้ มิสเตอร์ฮอลล์ยังไม่จัดการอะไรเลยอีกด้วย”
วินน์อารมณ์เสียเป็นอย่างมาก เธอมองไปในกระจกและเห็นรอยแดงที่เป็นรอยนิ้วมืออยู่บนใบหน้าพร้อมกับรอยเลือดจากแผลถลอกบนแก้มขวาจากเล็บของยาสมิน
แล้ววินน์โมโหรึเปล่า?
แน่นอนสิ
อย่างไรก็ตาม เธอก็เป็นแค่ผู้จัดการแผนกการตลาด ยาสมินเป็นถึงรองประธานคนใหม่และเป็นคนรักของมิสเตอร์ฮอลล์
ทางเลือกเดียวของเธอคือต้องรับมือกับมันและผ่านไปให้ได้
ที่ทำงานหรือว่าสนามรบกันแน่
เมื่อเลิกงาน วินน์กลับมาที่โรงพยาบาลอย่างหัวเสีย เธอมาอยู่เป็นเพื่อนมิล่าที่ห้องพิเศษของโรงพยาบาล
เมื่อฟิลิปมาถึง วินน์ก็หาข้ออ้างปลีกตัวออกมา
มิล่าสวมชุดสีชมพูของโรงพยาบาล เธอดึงแขนเสื้อฟิลิปและพูดขึ้นอย่างใสซื่อ “พ่อคะ แม่ร้องไห้ หนูเห็นว่าแม่มีแผลที่หน้าด้วย”
‘วินน์ร้องไห้และมีแผลที่หน้างั้นเหรอ?’
ฟิลิปย่นคิ้ว รีบวิ่งออกไปและก็ได้เจอวินน์ด้านนอก วินน์พยายามจะวิ่งหนีแต่ฟิลิปก็เห็นแผลของเธอก่อน
ที่แก้มของเธอมีรอยแดง รอยถลอกนั้นเห็นได้ชัดว่าเป็นรอยเล็บของใครบางคน!
“ใครกล้าทำคุณ?!”
ฟิลิปโกรธจัด ไฟแค้นที่ลุกโชนฉายแววขึ้นในดวงตาของเขา!
‘ใครหน้าไหนมันกล้าทำร้ายวินน์! นี่มันให้อภัยไม่ได้!’
เวรเอ๊ย!!!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทอันดับหนึ่ง