ทายาทอันดับหนึ่ง นิยาย บท 48

หลังจากที่มาร์ธาออกมา เธอไปที่สวนสาธารณะเพื่อพบกับเพื่อน ๆ ของเธอ ระหว่างพบปะเพื่อนของเธอ เพื่อน ๆ ก็เริ่มถามถึงกันและกัน เมื่อพวกเขามาถึงหัวข้อเกี่ยวกับลูกเขยหรือลูกสะใภ้ ทุกคนก็กระตือรือร้นเพราะลูกเขยของพวกเธอประสบความสำเร็จและลูกสะใภ้ก็กตัญญู มีเพียงมาร์ธาเท่านั้นที่นิ่งเงียบขณะที่เธอยิ้มแห้งๆ

“เฮ้ มาร์ธา ฟิลิป ลูกเขยของเธอเป็นยังไงบ้างช่วงนี้? ฉันได้ยินมาว่าเขากำลังทำงานส่งของอยู่” หญิงวัยกลางคนที่แต่งตัวฉูดฉาดก็เปิดโปงมาร์ธาอย่างไร้ความปราณีขึ้นมาฉับพลัน เพราะทุกครั้งที่พบกัน พวกเขาจะพูดถึงลูกเขยของมาร์ธาอย่างแน่นอน มันได้กลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว

“โอ้ มาร์ธา ทำไมลูกเขยของเธอถึงได้แย่มาก? ทำไมเธอไม่ให้ลูกสาวหย่ากับเขาไปซะล่ะ?”

“เธอจะไม่ทำแบบนั้น ถ้าพวกเขาหย่ากัน ถ้าเธอแต่งงานใหม่ มันจะเป็นการแต่งงานครั้งที่สอง ไม่มีใครต้องการเธอหรอก เธอมีลูกติด ผู้ชายสมัยนี้ไม่ชอบแม่เลี้ยงเดี่ยว”

“นั่นเป็นความจริง ใครจะอยากเลี้ยงลูกของคนอื่น?”

ความคิดเห็นของผู้หญิงนั้นรุนแรง ภายนอกเพื่อน ๆ ดูเหมือนกำลังคิดถึงลูกสาวของเธอ แต่ภายใน เพื่อน ๆ อาจกำลังเพลิดเพลินกับความโชคร้ายของเธอ

มาร์ธากัดฟันด้วยความโกรธ รู้สึกเขินอายอย่างยิ่ง เธอฝืนยิ้มและพูดว่า “ฉันจะบังคับลูกสาวให้หย่าไอ้ลูกเขยขยะนั่นอย่างแน่นอน! อย่างมากที่สุด ฉันแค่ต้องดูแลเธอไปตลอดชีวิต”

ทุกคนสังเกตเห็นสีหน้ามืดหม่นของมาร์ธา ดังนั้นพวกเขาจึงหยุดพูดถึงเรื่องนี้และเปลี่ยนหัวข้อเรื่องจนกระทั่งพวกเธอพูดถึงบริษัทการเงิน

***

ในทางกลับกัน เนื่องจากสตรีมสด เหตุการณ์ของฟิลิปได้แพร่กระจายออกไป อย่างไรก็ตาม ในทันทีทุกสื่อที่รายงานเหตุการณ์นี้ได้ลบเนื้อหาของตนออกไป แม้แต่วิดีโอก็หายไป มันเหมือนก้อนหินที่ตกลงไปในทะเลสาบ มันเป็นสิ่งที่จะไม่ได้ยินถึงอีกเลย

ภายในร้านเสริมสวย รูบี้ ฟอร์ด ได้วางแผนกับเพื่อนของเธอจำนวนหนึ่งเพื่อทำสปาทรีตเมนต์

สิบนาทีก่อนหน้านี้ เพื่อนของเธอเฮเลน เบนเน็ตต์ สวมชุดคลุมอาบน้ำตัวสั้นสีขาว โดยมัดผมของเธอขึ้นด้วยผ้าขนหนูและมาสก์หน้า แล้วเดินวางท่าเข้ามาและพูดว่า “สาว ๆ ฉันพบนักธุรกิจใหญ่ที่แท้จริงเข้าแล้ว!”

“นักธุรกิจใหญ่อะไรนะ?” รูบี้นอนหงาย เพลิดเพลินกับบริการนวด ขณะที่เธอถามโดยไม่แม้แต่จะลืมตา

“สามร้อยล้าน! ผู้ชายคนนี้ใช้เงินสามร้อยล้านเพื่อถือสิทธิครองไพร์ม ฮาร์เวสท์ กรุ๊ปของเมืองของเรา!” เฮเลนอุทาน ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความอิจฉาริษยาและความตื่นเต้น “พวกหล่อนทุกคนรู้จักนายน้อยผู้มั่งคั่งคนนั้น ลีออน ลาร์สันใช่ไหม? มันคือบริษัทของเขาที่ถูกนักธุรกิจใหญ่รายนี้ซื้อกิจการ"

เมื่อกล่าวถึงสามร้อยล้านและลีออน สาว ๆ ก็ลุกขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วและรีบไปดูโทรศัพท์ของเฮเลน มันเป็นเพียงคลิปสั้น ๆ และเฮเลนดาวน์โหลดมันมาอย่างยากลำบากจากโซเชียลมีเดีย คุณภาพของวิดีโอพร่ามัวและมีลายน้ำด้วย

“นี่ไม่ใช่นักธุรกิจใหญ่ที่น่าเกรงขามคนนี้ใช่ไหม? นั่นคือนายน้อยลาร์สันจากไพร์ม ฮาร์เวสท์ กรุ๊ป”

"นั่นใครน่ะ? พวกหล่อนรู้จักเขาไหม? ชวนเขาออกมาพบเราสิ”

“ฉันไม่รู้ เขาดูไม่คุ้นตา”

สาว ๆ ต่างแย่งโทรศัพท์กัน พยายามมองใบหน้าของชายคนนั้นให้ดีขึ้น สามร้อยล้าน เขาต้องเป็นคนรวยขนาดไหน! เมื่อรูบี้เห็นวิดีโอ เธอก็ขมวดคิ้วอย่างหนัก เธอรู้สึกว่าภาพเงาในวิดีโอดูคุ้นเคยมาก ฟิลิป คลาร์ค? ไม่ เป็นไปไม่ได้! ผู้ชายคนนั้นยากจนมาก เขาเคยแม้แต่ยืมเงินจากโฮเวิร์ด

รูบี้ไม่ได้คิดอะไรมากกับมัน และยังคงพูดถึงชายที่เพิ่งใช้เงินไปสามร้อยล้านต่อไป เขาเป็นพ่อคนด้วย! สมเป็นลูกผู้ชายขนาดไหน!

กลับมาที่ฟิลิป วินน์กำลังเดินนำหน้าฟิลิปโดยมีมิล่าอยู่ในอ้อมแขนของเธอ ในขณะที่เขาเดินตามหลัง พวกเขาเดินต่อไปอย่างเงียบ ๆ จนถึงประตูบริเวณบ้าน

ทันใดนั้น วินน์ก็หยุด มิล่าหลับไปแล้วในอ้อมแขนของเธอ วินน์หันกลับมามองฟิลิปแล้วพูดว่า “เหตุการณ์นั้น เมื่อเช้านี้ ขอบคุณนะ”

เมื่อเช้านี้? โอ้ เหตุการณ์นั้นในซีเลสเชียลคลับ ฟิลิปกล่าวอย่างเคร่งขรึมว่า “วินน์ เธอเป็นภรรยาของฉัน ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นในครั้งหน้า เธอต้องบอกฉันไว้ก่อน”

วินน์พยักหน้าอย่างเข้าใจ เมื่อเธอตื่นที่โรงพยาบาล เธอรู้ว่าเป็นฟิลิปที่ช่วยเธอไว้ แต่เธอไม่รู้ว่าเขาทำได้อย่างไร เธอวางแผนจะถามเขาในวันพรุ่งนี้ เพราะเธอรู้ว่าเควินและเจฟฟรีย์ไม่ง่ายที่จะรับมือ ด้วยสถานะสามีของเธอ เขาอาจจะทำมันไม่ได้ ดังนั้น วินน์จึงคิดว่าคนอื่นจะต้องช่วยเขา หรือบางทีอาจช่วยเธอ เป็นไปได้ไหมว่าเป็นคนที่เคยช่วยเธอให้ได้รักษาข้อตกลงหนึ่งล้านดอลลาร์กับเภสัชกรรมวิคตอรี่ในตอนนั้น? เขาเป็นใครกันแน่?

ตลอดทั้งคืนดำเนินไปอย่างเงียบ ๆ

เช้าวันรุ่งขึ้นวินน์ไปทำงาน ฟิลิปแกล้งทำเป็นว่ากำลังเก็บของ จากนั้นเขาก็อุ้มมิล่าพร้อมจะออกไปข้างนอก เขาเพิ่งก้าวออกจากบ้านไปหนึ่งก้าวเมื่อแม่ยายของเขาโทรมา เมื่อเขารับสาย มาร์ธาก็ส่งเสียงขุ่นเคืองจากอีกด้านหนึ่งของสายว่า “ฟิลิป รีบมาที่ถนนริเวอร์ครอสในอีกสิบนาที!”

ก่อนที่เขาจะถามเหตุผลได้ การโทรก็สิ้นสุดลง มีเรื่องด่วนอะไรที่ทำให้เธอฟังดูวิตกกังวลมาก? แต่ฟิลิปเคยชินกับมันแล้ว เขามองไปที่มิลาและตัดสินใจส่งเธอไปที่บริษัทเพื่อให้แอกเนสดูแลเธอสักพัก หลังจากนั้นเขาก็รีบเรียกแท็กซี่จากออฟฟิศเพื่อไปที่ถนนริเวอร์ครอส

ทันทีที่เขาลงรถ เขาเห็นชายหญิงวัยกลางคนกลุ่มใหญ่ล้อมรอบประตูบริษัทการเงินที่ปิดอย่างแน่นหนา ขณะที่พวกเขาโต้เถียงกันอย่างเผ็ดร้อนกับชายและหญิงในชุดสูทสองสามคน

"นายทำอะไรอยู่? นายมาสายไปห้านาที! เริ่มกล้าหาญขึ้นใช่ไหม? นายแค่พยายามดูหมิ่นแม่ยายของนายอย่างโจ่งแจ้ง!” ฟิลิปเพิ่งมาถึงเมื่อมาร์ธาเข้ามาอย่างวางท่าและเริ่มด่าทอเขา