ทายาทอันดับหนึ่ง นิยาย บท 64

บรรดาหญิงสาว รวมถึงอิซาเบลต่างพากันมองกันเป็นตาเดียวไปยังร่างนั้น สายตาของพวกเธอสะดุดเข้ากับชายสภาพมอซอถทอถุงพลาสติกในมือ กำลังเดินตรงมาทางนี้

เมื่อรูบี้เห็นหน้าของเขา เธอถึงกับผงะ “ฟิลิป นายมาทำอะไรที่นี่?”

เขาอยู่ไปทุกที่เลยจริง ๆ

เขามาทำอะไรที่นี่กันแน่นะ?

ฟิลิปประหลาดใจ เขาไม่คิดว่าจะได้เจอกับนังตัวแสบรูบี้ที่นี่

เมื่อเขานึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นที่โรงแรมคราวนั้น เขาก็รู้สึกแย่ขึ้นมาทันที

เขาจะอธิบายเรื่องนี้ได้อย่างไร? โฮเวิร์ดเป็นเพื่อนของเขา และเขาก็ไม่รู้ว่าจะบอกโฮเวิร์ดเรื่องนี้อย่างไรดี

เขาจะต้องหาโอกาสที่เหมาะสมเสียก่อน

“ฟิลิป?” อิซาเบลหวีดร้องออกมา ริมฝีปากของเธอค่อย ๆ แสยะยิ้มออกมา สีหน้าของเธอส่อแววถากถาง “นี่เขาคือฟิลิปที่เธอพูดถึงอย่างนั้นเหรอเนี่ย พวกเขาคือคนจำพวกเดียวกันแหละนะ และยังคนเดียวกันอีกด้วย!”

“เธอหมายความว่ายังไง?” รูบี้สับสน

“เขาคือชายเพี้ยนคนนั้นที่ฉันเล่าให้เธอฟังก่อนหน้านี้ไงล่ะ ยาจกที่เข้าไปในร้านของเราเพื่อที่จะซื้อฮาร์เล่ย์ 100 คัน!” อิซาเบลเยาะเย้ย สีหน้าของเธอดูถูกเหยียดหยามเขา

“โว้ว! งั้นเขาก็คือไอ้โง่นั่นน่ะสิ!”

“ฉันไม่คิดมาก่อนเลยว่าจะได้เจอคนแบบนี้ ได้เจอด้วยตัวเอง มันเยี่ยมยิ่งกว่าฟังจากปากคนอื่น ๆ เล่ามาอีกนะเนี่ย!”

“เขาดูยากจนสุด ๆ ไปเลย ดูเขาสิ แล้วยังถือถุงพลาสติกมาอีกด้วย เป็นคนเก็บขยะขายรึไงกัน?”

บรรดาหญิงสาวต่างพากันดูถูกและหัวเราะเยาะเย้ยเขาอย่างสนุกปาก

พวกเธอแต่ละคนดูจองหองและน่ารังเกียจ ทำตัวราวกับหญิงสาวจากตระกูลร่ำรวยที่เพิ่งเจอเข้ากับชายเก็บขยะผู้ยากไร้ แต่พวกเธอก็รู้สึกเป็นสุขอย่างหาคำบรรยายไม่ได้

รูบี้คาดไม่ถึงว่า ชายหนุ่มที่อิซาเบลเล่าให้ฟังคนนั้นคือฟิลิป สายตาของเธอเต็มไปด้วยความชิงชัง “ไม่อยากเชื่อเลยนะฟิลิป นี่นายมาถึงขั้นนี้แล้วงั้นเหรอ? ขายขี้หน้านัก”

“ฉันมันทำไม?” ฟิลิปขมวดคิ้ว ใบหน้าของเขาแสดงออกถึงความรำคาญใจ

“โอ้ นายยังแกล้งทำไขสืออยู่อีก หน้าไม่อาย ลูกพี่ลูกน้องของฉันเล่าเรื่องให้ฟังหมดแล้ว มีคนแบบนายเหลืออยู่ไม่มากแล้วตอนนี้” รูบี้เลิกคิ้วพร้อมกอดอก เธอแสดงกิริยาท่าทางอย่างหยาบคาย

“นี่เธอเป็นใคร? พูดเรื่องอะไรของเธอ?” แอกเนสยืนอยู่ด้านหลังของฟิลิปมาตลอด เมื่อเธอเห็นว่าหญิงสาวพวกนี้ทำตัวหยาบคายกับฟิลิปเธอจึงทนไม่ไหวจึงผลักตัวมาด้านหน้า

“แอกเนส ไปกันเถอะ” ฟิลิปรู้สึกเหนื่อยหน่ายใจ เขาส่ายหน้า ไม่อยากจะไปสนใจพวกเธออีก เขาหันหลังกลับเพื่อจะเดินออกไป

“ถุย!” รูบี้ถ่มน้ำลายออกมา เธอมองไปที่ฟิลิปอย่างเหยียดหยาม

และในตอนนั้นเอง เสียงคุ้น ๆ เสียงหนึ่งก็ดังขึ้น

“เฮ้ นั่นไม่ใช่ลุงส่งของหรอกเหรอ? บังเอิญจริง ๆ!”

เสียงแน่นแหลมเล็กราวกับเสียงเล็บที่ขูดลงบนแผ่นกระดาน

ฟิลิปหันหลังกลับไปและพบกับวัยรุ่นสามคนเดินเข้ามาหาเข้าท่าท่าหยิงยโส

ลินน์ก็อยู่ในกลุ่มนั้นด้วย เธอเดินตามหลังชายหนุ่มสองคน

ฟิลิปรู้จักเด็กพวกนี้ พวกเขาคือไคล์และเจคอปจากเหตุการณ์คืนนั้น

“แม่เจ้าโว้ย! นี่ลุงมาซื้อรถมอเตอร์ไซค์งั้นเหรอ? แต่ลุงไม่อันจะกินนิ จ่ายไหวเหรอ?” ไคล์เดินเข้ามาหาฟิลิปพร้อมกับตบบ่าของเขาก่อนจะพูดถากถาง

“โธ่ โธ่ ลุง ที่วิ่งแจ้นหนีไปครั้งก่อนน่ะ ผมนี่ตามหาลุงมาตลอดเลยนะ ไม่คิดเลยว่าจะได้มาเจอลุงที่นี่” ดูเหมือนว่าเจคอปจะพยายามขวางทางไว้ไม่ให้ฟิลิปหนีไปได้

ชายยาจกนี่ เขาหนีรอดไปได้คราวก่อนแต่คราวนี้เขาไม่รอดแน่ จะไถเงินให้หมดตัวเลย

บังเอิญเหลือเกินที่ฮาร์เล่ย์-เดวิดสันเพิ่งจะปล่อยรถรุ่นใหม่ล่าสุดออกมา และพวกเขาก็มีเงินไม่พอที่จะซื้อมัน

แต่ฟิลิปไม่ได้สนใจเด็กไร้มารยาทพวกนี้เลย

เขามองไปที่ลินน์ที่ยืนอยู่ด้านหลังพวกเขาอย่างเย็นชา และสังเกตเห็นว่าเธอไม่กล้าสบตาเขา เธอคงจะรู้สึกผิด

“ลินน์ ไม่มีอะไรจะพูดกับฉันเลยงั้นเหรอ?” ฟิลิปถามด้วยน้ำเสียงอันเรียบเฉย

ลินน์ยืนกอดอก ไม่มองหน้าเขา ก่อนจะพูดขึ้น “มีอะไรที่เราต้องคุยกันอีกเหรอ? มันไม่ใช่ความผิดของฉันทั้งหมดเสียหน่อย ลูกสาวของนายทะเล่อทะล่าเอง นายจะมาโทษฉันเพราะเรื่องนั้นได้ยังไง? อีกอย่างเราก็เจอเธอแล้ว ยังต้องการอะไรจากฉันอีก?”

ลินน์บ่นอุบพร้อมใบหน้าอันเย็นชา

เธอไม่ชอบท่าทีของฟิลิปที่แสดงออกต่อเธอ คนขี้คลาดชั้นต่ำอย่างเขากล้ามาตั้งคำถามกับเธอได้ยังไง?

แม่งเอ้ย!

“นี่ นี่หล่อนพูดพล่ามอะไร? อยากจะมีเรื่องเหรอ? คิดว่าไม่กล้าลงไม้ลงมือเหรอไง?” เมื่อเจคอบเห็นว่าลินน์รู้สึกผิด เขาก็เดือนดาลขึ้นมา และผลักฟิลิปออกไป

พี่เขยของลินน์อย่างนั้นเหรอ?

โทษทีนะ แต่เขาก็เป็นแค่ขยะไร้ค่าที่เกาะเมียกินไม่ต่างกัน

อิซาเบล รูบี้และหญิงสาวคนอื่น ๆ ก็กำลังมองว่าเกิดอะไรขึ้นอยู่อย่างไม่ได้ตั้งใจ พวกเธอเยาะเย้ยและพูดขึ้น “ดูสิ เขาก็แค่คนไม่ได้เรื่อง แต่กลับมีหน้ามาบอกว่าจะซื้อฮาร์เล่ย์ 100 คัน ฉันไม่เคยพบเคยเจอคนอย่างเขามาก่อนเลย”

เมื่อไคล์และพวกได้ยินดังนั้น พวกเขาต่างพากันหัวเราะร่วนออกมาหลังจากตกตะลึงไปชั่วครู่

“นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันวะ? ฮาร์เล่ย์ 100 คัน ?” ไคล์หัวเราะก่อนจะชี้ไปที่ฟิลิปอย่างเหยียดหยาม

เขารู้สึกประทับใจในการเหยียดหยามครั้งนี้เสียจริง

อิซาเบลแสยะยิ้มพร้อมพูดขึ้น “ใช่ เขามาที่ร้านของเราเมื่อเช้านี้และบอกว่าต้องการที่จะซื้อฮาร์เล่ย์ 100 คัน แต่สุดท้ายฉันก็ไล่ตะเพิดออกจากร้านไป”

เมื่อพูดจบพวกเขาก็ต่างพากันหัวเราะเยาะชอบใจ

ลินน์เองก็กลั้นขำไว้ไม่อยู่เช่นกัน เธอเลิกคิ้วขึ้นก่อนจะเย้ยว่า “ขยะก็ยังคงเป็นขยะอยู่วันยังค่ำ ฉันไม่รู้ว่าทำไมลูกพี่ลูกน้องของฉันยังไม่หย่ากับแกสักที”

หลังจากนั้น...

ฟิลิปพูดอย่างเรียบเฉย “ใครบอกว่าฉันจะจ่ายไม่ไหว? แล้วฉันก็ซื้อมันแล้วด้วย…”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทอันดับหนึ่ง