เขาควรจะรับสายดีไหมนะ?
ฟิลิปรู้สึกสับสน เขาเรียกแอกเนสและบอกเธอว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนจะพูดขึ้น “จัดการเรื่องนี้ให้ทีนะ”
แอกเนสพยักหน้าก่อนจะทำมือส่งสัญญาณ ‘โอเค’ กดรับโทรศัพท์ด้วยเสียงเบิกบาน “สวัสดีค่ะ นั่นใครคะ?”
อีกด้านของปลายสายวินน์ตกตะลึงไป เธอไม่คิดว่าเจ้าของเบอร์จะเป็นผู้หญิง
และอีกอย่างน้ำเสียงของเธอฟังดูดี
อย่างไรก็ตามในเวลาเดียวกันนั้น เธอก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ไม่ใช่เขา
นี่เธอคิดมากไปยังงั้นเหรอ?
หึหึ ก็คงจะใช่
เธอรู้ดีว่าฟิลิปเป็นคนยังไง?
แต่เธอก็ยังแต่งเรื่องในหัวขึ้นมาเองแบบนั้น
“สวัสดีค่ะมิสคลาร์ค ฉันชื่อวินน์ จอห์นสตัน คุณคงไม่รู้จักฉัน ในวันนั้นฉันถูกคุณช่วยเอาไว้ที่ซีเลสเชียลคลับ ต้องขอบคุณคุณเป็นอย่างมากนะคะ” วินน์ได้เตรียมคำพูดเอาไว้ว่าจะพูดขอบคุณคนที่ช่วยเธออย่างไร
“อ้อ ไม่มีปัญหาหรอกค่ะ ฉันยินดีที่ช่วย พวกเราก็เป็นผู้หญิงเหมือนกัน และฉันเกลียดพวกผู้ชายที่บังคับให้ผู้หญิงทำในสิ่งสกปรก” แอกเนสกล่าว เธอมีทักษะเก่งไม่เบาในการเจรจาพูดคุย
ในขณะที่คุยโทรศัพท์อยู่ เธอก็ไปกับมองไปที่ฟิลิปที่ยกนิ้วโป้งให้กับเธออยู่
ทำไมเขาต้องปิดบังเรื่องนี้กับภรรยาด้วยนะ?
“เอ่อ มิสคลาร์คคะ คุณพอจะมีเวลาไหม? ฉันอยากจะเลี้ยงอาหารคุณสักมื้อ” วินน์ถามขึ้นมาก่อนจะรีบอธิบาย “ไม่ต้องกังวลนะคะ ฉันแค่อยากจะแสดงความขอบคุณน่ะค่ะ”
แอกเนสไม่ได้ตอบกลับไปในทันที เธอมองไปที่ฟิลิปและขยับปากของเธอเล็กน้อยเธอกระซิบ “เธอบอกว่าเธออยากจะเลี้ยงอาหารคุณ ตกลงหรือเปล่าค่ะ?”
ฟิลิปส่ายหน้า
แอกเนสยิ้มออกมาก่อนจะตอบ “ฉันค่อนข้างที่จะยุ่งค่ะช่วงนี้ แล้วฉันจะติดต่อกลับไปตอนที่ฉันว่างนะคะ”
จริง ๆ แล้วแอกเนส ไม่ได้คิดมากไปเอง
เธอคิดว่าฟิลิปทะเลาะกับวินน์ และพวกเขาก็เล่นสงครามประสาทกันอยู่
เธอจึงต้องการช่วยให้พวกเขาคืนดีกัน
“จริงเหรอคะ? เยี่ยมไปเลย!” เสียงของวินน์พึงพอใจ
“ใช่ค่ะ ฉันมีเรื่องต้องไปจัดการ ต้องขอวางสายแล้วนะคะ” แอกเนสกดวางสายหลังจากที่เธอพูดจบ เธอยิ้มให้กับฟิลิปและเอียงคอถาม “ฉันทำหน้าที่เป็นยังไงบ้างคะ?”
สีหน้าของฟิลิปสลดไป แอกแนสตัดสินใจไปเองโดยไม่ถามเขา
อย่างไรก็ตามเขาก็ไม่สามารถพูดอะไรได้ เขาทำได้เพียงแค่ส่ายหน้าแล้วถอนหายใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้ “ไม่เป็นไร ปล่อยให้มันเป็นแบบนั้นแหละ แต่คราวหน้ากรุณาอย่าตัดสินใจแทนผม โอเคไหม? ผมไม่สามารถบอกตัวตนที่แท้จริงของผมให้ใครรู้ได้เลยตอนนี้ รวมถึงวินน์ด้วย”
แอกเนสชะงักไป เธอลืมว่าเธอกำลังจะพูดอะไรไปในทันที เธอโค้งหัวเล็กน้อยแล้วก็ขอโทษออกมา “มิสเตอร์คลาร์ค ฉัน...ฉันคิดว่าคุณทะเลาะกับ มิสจอห์นสตัน ฉันก็เลย…”
ดวงตาของแอกเนสเอ่อล้นไปด้วยน้ำตา ดูราวกับว่าเธอเจอเข้ากับเรื่องเศร้าซะละเกิน
ฟิลิปไม่ได้ต้องการจะตำหนิเธออยู่แล้ว เขายิ้มและพูดออกมา “ไม่เป็นไร แค่อย่าทำแบบนั้นอีก”
จากนั้นพวกเขาก็หมุนตัวเดินกลับเข้าไปในโรงแรม อาร์ค เดอ ไทรอัมพ์
คืนนี้ฟิลิปตัดสินใจที่จะเลี้ยงอาหารแก่พนักงานทุกคนเพื่อเป็นรางวัลตอบแทน
เมื่อทุกคนไปถึงที่นั่น ฟิลิปก็ดื่มเครื่องดื่ม
ทุกคนต่างพากันสงสัยว่าทำไมจู่ ๆ ฟิลิปถึงร่ำรวยขึ้นมาได้
“อย่ามองแบบนั้นเลย ผมก็แค่คนธรรมดาคนหนึ่ง ส่วนเรื่องเงินมันเป็นของที่พ่อของผมทิ้งไว้ให้ ผมก็ยังเป็นฟิลิปคนเดิม ถึงแม้จะร่ำรวย เราก็ยังเป็นเพื่อนกัน” ฟิลิปยิ้ม
“ฟิลิปนายพูดอะไรกัน? นายกลายเป็นคนรวยขนาดซื้อบริษัทของเราด้วยเงินพันล้านดอลลาร์ ฉันไม่เคยเห็นนายใช้เงินแบบนั้นมาก่อน”
“ใช่ พูดตรง ๆ นะ นาบเก่งมากที่ปิดบังเรื่องนี้เอาไว้ได้ ฟิลิป นี่นายเป็นเศรษฐีลึกลับที่ปรากฎตัวอยู่ในนิยายอย่างนั้นเหรอ?”
เพื่อนร่วมงานเก่าของเขาพูดพลางหัวเราะออกมา คำพูดของพวกเขาแอบซ่อนการยกยอฟิลิปอยู่เนือง ๆ
พวกเขาไม่มีทางเลือกเมื่อคนคนนึงผงาดขึ้นมาเป็นมังกร บรรดาคนนับล้านที่เหลือก็ย่อมต้องให้ความเคารพ
ถ้าขนาดผู้ชายอย่างฟิลิปกลายเป็นคนรวยได้ แล้วทำไมพวกเขาจะเป็นไม่ได้ล่ะ?
อย่างไรก็ตาม นี่ก็เป็นเรื่องจริง
พวกเขาก็ทำอะไรไม่ได้อีกนอกจากพูดประจบประแจง
ก่อนหน้านี้ ฟิลิปเป็นคนจนพวกเขาจึงพูดอะไรกับเขาก็ได้ แต่มันต่างไปแล้วในตอนนี้ พวกเขาต้องพูดด้วยความเคารพและพร้อมเลียแข้งเลียขาทันที่เจอ
ฟิลิปเข้าใจดีและพูดถึงเรื่องนี้ “เอาล่ะทุกคน เลิกประจบประแจงเสียที พวกนายไม่รู้หรือยังไงว่าฉันเป็นคนแบบไหน นอกเหนือจากวิลสันที่คอยจ้องเล่นงานฉันตลอดแล้ว ทุกคนก็ปฏิบัติกับฉันค่อนข้างดี ฉันจำเรื่องพวกนั้นได้ มันไม่เกี่ยวกับเรื่องที่ว่าฉันจนหรือรวย มันก็เป็นแค่เรื่องที่คนอื่นเขาพูดกัน ฉันจะไม่ลืมพวกนาย ฉันได้มีสิ่งที่ฉันอยากมีแล้วในตอนนี้ ดังนั้นฉันจะไม่มีทางปฏิบัติกับพวกนายอย่างไม่ยุติธรรมแน่นอน”
“ดังนั้นในวันนี้นอกจากอาหารแล้ว ฉันยังมีของขวัญเล็กๆน้อยๆให้กับพวกนายด้วย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทอันดับหนึ่ง