ทายาทอันดับหนึ่ง นิยาย บท 72

ฟิลิป คลาร์ค เหลือบตาขึ้นมองและก็พบกับใบหน้าอันคุ้นเคย คน ๆ นั้นมองมาที่เขาด้วยสีหน้าถากถาง

“เวสลีย์ วอร์เรน?”

ฟิลิปขมวดคิ้ว พวกเขาเคยเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนสมัยมหาวิทยาลัย ที่จริงแล้วพวกเขาตกหลุมรักวินน์ จอห์นสตัน ด้วยกันทั้งคู่ ทำให้พวกเขาเป็นเหมือนศัตรูหัวใจกันเสียมากกว่า

ในท้ายที่สุด วินน์เลือกที่จะตกลงปลงใจกับฟิลิป คลาร์ค หนุ่มที่มากด้วยความสามารถ

ด้วยเหตุนี้ เวสลีย์ยังคงขุ่นเคืองอยู่

ตามความเข้าใจของเขา เวสลีย์เองก็ไม่ได้มีดีน้อยไปกว่าฟิลิปเลย แต่ทำไมวินน์ถึงเลือกฟิลิปไม่ใช่เขา?

เท่าที่ข่าวแว่วเข้าหูของเวสลีย์ ฟิลิปไม่ได้มีอะไรก้าวหน้าในชีวิตเลย เขาวางแผนจะสร้างธุรกิจของเขาเองแต่ก็ไปไม่รอด และตอนนี้เขาก็ต้องกลายมาเป็นพนักงานส่งอาหาร หารายได้จุนเจือปากท้องไปวัน ๆ ลูกสาวของเขาก็ป่วยเป็นโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด และชีวิตแต่งงานของเขากับวินน์ก็ไม่หวานชื่นเหมือนที่มันเคยเป็นอีกต่อไปแล้ว

ยิ่งฟิลิป คลาร์คมีชีวิตที่ย่ำแย่ลงเท่าไหร่ เวสลีย์ก็ยิ่งเกลียดเขามากขึ้นเท่านั้น

เป็นเรื่องปกติที่ผู้ชายจะคับแค้นใจเพราะโดนแย่งสาวที่แอบชอบสมัยมหาวิทยาลัย

‘มันเป็นแค่ขยะดี ๆ นี่เอง! กล้าดียังไงมาทำให้ผู้หญิงที่ฉันรักต้องทุกข์ทรมาน!’

“โอ้ว้าว! นายเองเหรอวะ เพื่อนยาก!”

เวสลีย์หัวเราะออกมาสุดเสียงในขณะที่เดินเข้าไปตบลงที่บ่าของฟิลิปและเอ่ยขึ้น “ไม่เจอกันตั้งสี่ปีแล้วสินะ! ฉันได้ยินข่าวมาว่านายเปลี่ยนงาน ตอนนี้ก็มาเป็นพนักงานส่งอาหารแล้วนิ? แล้วเป็นไง ได้เงินเดือนเท่าไรวะ? คงไม่แย่เกินไปหรอกมั้ง ถ้าให้ฉันเดานะ”

น้ำเสียงของเวสลีย์ที่เปล่งออกมาเต็มไปด้วยความเย่อหยิ่งและถากถาง

ฟิลิปขมวดคิ้วและยิ้มออกมา “ก็ไม่แย่หรอก”

เวสลีย์หัวเราะหึ ๆ รู้ดีว่าฟิลิปพยายามอย่างมากที่จะไม่ทำตัวให้ดูเป็นไอ้ไก่อ่อน เขาหยิบนามบัตรสีทองวิบวับออกมาก่อนจะยื่นให้ฟิลิปราวกับยื่นเงินให้ขอทาน พูดขึ้นอย่างภาคภูมิใจ “ถ้านายอยากจะมากินข้าวที่นี่ก็แค่โทรหาฉัน ฉันจะให้ส่วนลดกับนายเพราะถึงยังไงเราก็เป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนกันมาก่อน”

ฟิลิปจ้องมองชื่อที่อยู่บนนามบัตรสีทองนั่นอย่างสงบนิ่ง เวสลีย์ วอร์เรน ผู้จัดการแห่งอาร์ค เดอ ไทรอัมพ์

ก็จริง ที่มันเป็นเรื่องยากที่คน ๆ นึงจะไปเทียบเคียงตระกูลของเวสลีย์ได้

งานจบการศึกษาเพิ่งจะผ่านไปแค่สามสี่ปีเท่านั้น แต่เขากลับสามารถขึ้นเป็นผู้จัดการของอาร์ค เดอ ไทรอัมพ์ ได้แล้ว

โรงแรมอาร์ค เดอ ไทรอัมพ์คือหนึ่งในโรงแรมที่มีชื่อเสียงของเมืองริเวอร์เดล

ซึ่งมีสาขาอยู่ทั่วประเทศ อาร์ค เดอ ไทรอัมพ์ เป็นโรงแรมระดับห้าดาวอีกด้วย!

การที่เขาเป็นผู้จัดการเห็นได้ชัดว่าเขามีอำนาจมากแค่ไหนที่นี่

มุมปากของฟิลิปกระตุกยิ้มออกมาเล็กน ๆ “ขอบใจ”

แววตาของเวสลีย์ฉายแววภาคภูมิใจในขณะที่เขายิ้มออกมา “มีอะไรที่ต้องขอบคุณฉันงั้นเหรอ? ไม่ใช่ว่านายจะมาที่นี่บ่อย ๆ เสียหน่อย ฉันว่าก็คงจะแค่ปีละครั้งล่ะมั้ง? ยังไงซะเราก็เป็นเพื่อนเก่ากัน ฉันก็ควรจะให้ส่วนลดกับนาย และไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ฉันไม่คิดว่านายจะสามารถจ่ายให้กับราคาอาหารที่นี่ได้ด้วยเงินเดือนของพนักงานส่งอาหารอย่างนาย ฉันได้ยินมาว่านายต้องการเงินเพื่อไปรักษาลูกสาวที่ป่วยของนายด้วย การที่ได้ช่วยเหลือนายฉันก็คิดว่ามันเป็นการช่วยวินน์ด้วยเหมือนกัน

เวสลีย์จงใจเน้นย้ำตรงคำว่า ลูกสาวที่ป่วยของเขาและวินน์ จอห์นสตัน

จู่ ๆ เวสลีย์ก็นึกขึ้นมาได้ “นี่ ฉันได้ยินคนอื่นพูดกันว่านายกำลังจะหย่ากับวินน์ใช่ไหม? เป็นเรื่องจริงเหรอ? สมัยก่อนทุกคนต่างอิจฉาความสัมพันธ์ของพวกนาย แต่นี่ก็เพิ่งผ่านไปสามปีเองนะ ทำไมถึงจะหย่าแล้วล่ะ?”

“โอ้ ใช่! มันเป็นการท้องก่อนแต่งใช่ไหม? ทำดีว่ะเพื่อน นายขึ้นรถไฟไปเสียก่อนจะได้จ่ายค่าตั๋วเสียอีก”

เวสลีย์พูดยิ้ม ๆ คำพูดแต่ละคำของเขาอาบไปด้วยคำดูดถูกถากถาง

ฟิลิปตอบกลับอย่างใจเย็น “ฉันคิดว่าเรื่องการหย่าของฉันกับวินน์ไม่ใช่ธุระกงการอะไรของนายนะ”

เวสลีย์ไม่เข้าใจความหมายแฝงของฟิลิป เขาถอนหายใจออกมา “ฟิลิป ฉันไม่อยากจะพูดแบบนี้เลยนะเพื่อน แต่มันดีแล้วงั้นเหรอที่นายมาเป็นพนักงานส่งอาหารแบบนี้? สมัยมหาวิทยาลัยนายเป็นไอดอลของพวกเราเลยนะ ตอนนั้นฉันชื่นชมจิตวิญญาณแรงกล้าของนายมากนะ แล้วมันเกิดอะไรขึ้นกับนายกัน? ทำไมนายถึงกลายเป็นแบบนี้?

ฟิลิปหรี่ตา

เวสลีย์เป็นคนต่ำช้า จริงอยู่ที่ดูเหมือนพวกเขากำลังพูดรำลึกความหลังกัน แต่ทุกคำที่เขาพูดออกมากลับเต็มไปด้วยคำวิจารณ์และเยาะเย้ยทิ่มแทงมา

และยังมีท่าทีที่เย่อหยิ่งและสีหน้าที่ยั่วยุของเขาอีก ไม่มีแม้แต่นิดเดียวที่เขาให้เกียรติฟิลิป

“แต่ก็ไม่เป็นไรหรอก ฉันเชื่อในตัวนาย ถึงแม้นายจะเป็นแค่คนส่งอาหารตอนนี้ ทำงานหนักก็เรียกว่าการทำงานใช่ไหม? ฉันเชื่อว่าไม่นานนายก็จะได้เป็นคนส่งพัสดุ และเมื่อไหร่ที่นายหย่ากับวินน์ฉันก็จะตามจีบเธออีกครั้งแน่นอน ฉันยังคงคิดถึงเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้

เวสลีย์ยักไหล่ “อ้อใช่ จะมีงานคืนสู้เหย้าในเดือนหน้า นายต้องมานะเพื่อน แล้วก็อย่าลืมพาวินน์มาด้วยล่ะเพราะพวกนายไม่ได้มาร่วมงานเลยสองปีที่ผ่านมา หรือนายจะกลัวว่าพวกเพื่อน ๆ ที่เหลือจะพากันล้อนาย?”

ฟิลิปยิ้ม “ นี่นายพยายามจะพูดอะไรกันแน่?”

“ก็ไม่มีอะไรมากหรอกนายก็รู้นี่ว่ามนุษย์เป็นยังไง เมื่อเราเห็นบางอย่างที่น่าสงสารเราก็อดไม่ได้ ที่จะเห็นใจ แต่ว่าตอนที่นายล้มเหลว ฉันกลับรู้สึกสงบอย่างบอกไม่ถูก” เวสลีย์เปล่งเสียงหัวเราะออกมา

เขาจะยังพูดอะไรได้อีก?

เขากำลังหัวเราะเยาะฟิลิป

เรื่องห่อเหี่ยวใจทั้งหลายและความคิดที่จะลากออกที่อยู่ในหัวของเขาหายไปในพริบตา จ้องไปที่สภาพของฟิลิปในตอนนี้ทำให้จิตใจของเวสลีย์เบิกบาน

เขาจ้องไปที่ฟิลิป พยายามที่จะมองหาร่องรอยของความขายหน้าหรือละอายใจในสีหน้าของเขา

อย่างไรก็ตามสิ่งที่เขาเห็นมีเพียงแค่สีหน้าที่นิ่งสงบของฟิลิป

ก็ได้ แกล้งทำต่อไปเถอะ!

ฟิลิปยักไหล่ “นี่นายคิดว่านายเท่มากอย่างนั้นเหรอวะ? อะไรที่ทำให้นายคิดว่าฉันจะไม่ไปอยู่ในจุดที่สูงกว่านายในอนาคต?”

ด้วยเหตุนี้ ฟิลิปหย่อนนามบัตรสีทองลงไปในกระเป๋าเสื้อตัวนอกของเวสลีย์ก่อนจะหันกลับและเดินจากไป

เวสลีย์ไม่ชอบท่าทีนั่นเอาเสียเลย

ถึงแม้ชีวิตของเขาจะตกต่ำไปแค่ไหน ฟิลิปก็ยังวางท่ายิ่งยโส

สมัยมหาวิทยาลัย เขานั้นไม่สามารถเทียบกับฟิลิป คลาร์ค ได้เลยจริง ๆ

ตราบใดที่ยังมีฟิลิป เวสลีย์ก็เป็นได้แค่ตัวประกอบฉากอยู่ดี

ชีวิตของฟิลิปตกต่ำลงมาอย่างมาก สถานะของพวกเขาตอนนี้แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เวสลีย์รู้สึกถึงความสงบนิ่งที่ไม่อาจจะบรรยายได้

เขาต้องการที่จะดูถูกเหยียดหยามฟิลิปให้มากเท่าที่จะทำได้

เขาต้องการที่จะเรียกคืนทุกสิ่งที่เขาเคยสูญเสียไปในตอนนั้น

รวมไปถึงวินน์ จอห์นสตัน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทอันดับหนึ่ง