“รอก่อนฟิลิป หยุดก่อน จะรีบไปไหนล่ะ? ไม่ใช่บ่อย ๆ นะที่เพื่อนเก่าอย่างพวกเราจะได้มาเจอกัน มาคุยกันต่ออีกหน่อยเถอะ” เวสลีย์วิ่งตามเขามา
ฟิลิปขมวดคิ้วยุ่ง แสดงสีหน้าถมึงทึง
พวกเขาสองคนแทบจะไม่มีอะไรเหมือนกัน ฟิลิปไม่อยากจะรับมือกับเพื่อนเก่าคนนี้แล้ว
พวกเขาได้เปลี่ยนไปแล้ว—เปลี่ยนไปเป็นคนที่มีฐานะและสถานะที่ดีกว่าเดิม
ฟิลิปส่ายหน้าและเอ่ยขึ้น “แต่ก่อน นายก็เป็นแค่เศษขยะไร้ค่าในสายตาฉัน เวสลีย์ วอร์เรน และฉันก็ไม่คาดคิดเหมือนกันว่าจนถึงตอนนี้ นายก็ยังเป็นแค่เศษขยะอยู่อีก”
เวสลีย์ตัวแข็งทื่อไป “พูดว่าอะไรนะ?”
เขาคาดไม่ถึงเลยว่าจะได้ยินคำพูดแบบนั้นออกมาจากปากของคนไม่ได้เรื่องอย่างฟิลิป คลาร์ค
นี่มันเรียกเขาว่าเศษขยะงั้นเหรอ?
ใครกันแน่ที่เป็นแค่เศษขยะ?
“นายคิดว่านายเป็นใครกัน? ได้เป็นผู้จัดการอาร์ค เดอ ไทรอัมพ์แล้วจะทำให้นายเหยียบหัวใครบนโลกก็ได้งั้นเหรอ? เท่มากสินะ? ก็เลยมาเบ่งต่อหน้าฉันงั้นสิ? พนักงานส่งอาหารอย่างพวกฉันมันเป็นอะไรงั้นเหรอ? นายคิดว่านายดีกว่าพวกเรามากงั้นเหรอวะ?” ฟิลิปพ่นลมหายใจ
เขายอมมามากพอแล้ว
ไม่อยากจะเติมเชื้อเพลิงเข้าไปในกองไฟอีก เขาไม่ได้คาดคิดว่าผลลัพธ์ของการอดทนของเขาจะไปซ้ำเติมคนอื่น
“ฮ่าฮ่า! ฟิลิป คลาร์ค แกนี่มันโง่บรมเลย ล้อฉันเล่นรึไงวะ?” เวสลีย์หัวเราะออกมา สีหน้าของเขาแสดงออกถึงการดูถูกเหยียดหยาม “ฉัน ผู้จัดการของอาร์ตเดอร์ไทรอัมพ์ได้เงินเดือนเดือนละสี่หมื่น ส่วนแกก็แค่เด็กส่งของ ถึงแม้แกจะทำงานเป็นบ้าเป็นหลัง ฉันก็คิดว่าแกคงจะทำเงินได้แค่หกพันหรือบางทีอาจจะได้แค่ห้าพันต่อเดือนเสียด้วยซ้ำ แล้วแกจะเอาอะไรมามีดีกว่าฉัน? ทั้งเรื่องชาติตระกูล สถานะทางสังคมและสัญญาต่าง ๆ ฉันเหนือกว่าแกมากโว้ย ฟิลิป! ทีนี้แกจะทำยังไงละ ห๊ะ?”
เวสลีย์ทนไม่ได้ที่อีกฝ่ายยังคงแสร้งทำตัวสูงส่งและยิ่งใหญ่กว่า
“แกน่ะเคยเป็นคนที่ยอดเยี่ยมมากสมัยมหาวิทยาลัย มีสาว ๆ รุ่นน้องหลายต่อหลายคนมาตกหลุมรักแก แล้วทำไมตอนนี้มาเป็นแค่เด็กส่งอาหารซะแล้วล่ะ? ฉันจะบอกให้นะว่าทำไม ก็เพราะแกมันห่วยแตกไง แกมันก็เป็นแค่เศษขยะในสายตาของฉัน ก็แล้วถ้าฉันจะคิดว่าฉันดีกว่าพวกแกแล้วมันยังไงล่ะ?”
เวสลีย์ไม่เพียงแต่ดูถูกฟิลิปเท่านั้นแต่เขายังดูถูกเพื่อนร่วมงานของฟิลิปที่ยืนอยู่ตรงนั้นด้วย
และในตอนนี้คนมากกว่า 60 คนต่างก็โกรธเวสลีย์เป็นอย่างมาก
พวกเขาเดินรุมเข้ามาก่อนจะล้อมรอบเวสลีย์ไว้ สีหน้าของพวกเขาข่มขู่เต็มที่
“ใช่ พวกเราเป็นคนส่งอาหาร ส่วนแกเป็นผู้จัดการแล้วยังไง? แกก็ทำงานใต้คำสั่งของคนอื่นเหมือนกันละวะ!”
”
“แล้วนี่มันอะไรกันวะ? ฉันได้ยินว่ามีใครบางคนเรียกพวกเราคนส่งอาหารว่าเศษขยะ มันเป็นใครพระเจ้าเหรอวะ? คิดว่าตัวแกเหนือกว่าทุกคนงั้นเหรอ?”
“ช่างแม่ง! ฉันเกลียดคนอย่างแก อย่างนี้มันต้องสั่งสอน! ไอ้คนน่ารังเกียจ!”
ในพริบตา ห้องรับรองก็เกิดความชุลมุนวุ่นวายขึ้น
หลายคนเลือกที่จะใช้ความรุนแรง พวกเขาประเคนกำปั้นทำหน้าที่พูดแทน
ในตอนนั้นเอง บอดี้การ์ดสิบคนก็วิ่งเข้ามาปกป้องเวสลีย์โดยเอาตัวบังเขาไว้ด้านหลัง เหล่าบอดี้การ์ดยืนประจันหน้ากับกลุ่มของฟิลิป
“บ้าเอ้ย! พวกมันกล้ามากที่มาทำร้ายฉัน! ยืนทำอะไรกันอยู่? ลากพวกตัวปัญหานี้ออกไปซะ!” เวลสลีย์คำรามในขณะที่จัดชุดสูทของเขาให้เข้าที่ และจับใปที่ใบหน้าที่โดนชก
เหล่าบอดี้การ์ดล้อมพวกของฟิลิปเอาไว้ในทันที แต่ก็ทำได้แค่ล้อมไม่ได้ทำอะไรนอกเหนือจากนั้น
พวกเขามีจำนวนมากเกินไป ทั้งหมดกว่า 60 คน
พวกเขาทั้งหมดยืนอยู่ข้าง ๆ ฟิลิปจ้องอย่างเอาเรื่องไปที่เวสลีย์
“ก็ได้ ฟิลิป คลาร์ค แกจะไม่ยอมออกไปเองสินะ หึ? ดี ถ้าแกไม่ยอมออกไปเอง ก็อย่ามาโทษว่าฉันทำไม่สุภาพกับแกก็แล้วกัน!” เวสลีย์จ้องเขาด้วยสีหน้าที่บ่งบอกถึงลางร้ายไปยังฟิลิป
ด้วยเหตุนี้ เวสลีย์หยิบโทรศัพท์ของเขาออกมาและโทรเรียกพนักงานรักษาความปลอดภัย “ฉันมีงานให้นายทำ มาที่นี่เดี๋ยวนี้!”
คำว่าปีติยินดีดูเหมือนจะน้อยเกินไปที่จะบรรยายความรู้สึกของเขาในตอนนี้ ที่จะได้เห็นกลุ่มของฟิลิป คลาร์คถูกจับโยนออกไปนอกโรงแรมอย่างหน้าขายหน้า
พยายามจะทำตัวให้ดูเท่ต่อหน้าฉันท่ามกลางกลุ่มเด็กคนส่งอาหารเนี่ยนะ? ไอ้สวะเอ้ย!
ในเวลาเดียวกัน หัวหน้าทีมรักษาความปลอดภัยตกตะลึงเข้ากับเหตุการณ์วุ่นวายที่อยู่ตรงหน้า
“ผู้จัดการวอร์เรน เกิดอะไรขึ้นเหรอครับ?”
“นายมาได้เวลาพอดี โยนไอ้พวกเศษสวะพวกนี้ออกไปให้หมด!”
“ผมทำแบบนั้นไม่ได้หรอกครับผู้จัดการวอร์เรน พวกเขาเป็นลูกค้าวีไอพีของโรงแรมเรา!”
หัวหน้าทีมรักษาความปลอดภัยตกตะลึง ถึงแม้เขาจะไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นแต่ก็เห็นได้ชัดว่าเวสลีย์เป็นคนไปหาเรื่องกลุ่มของฟิลิป
“นายหมายความว่ายังไงที่ว่าทำไม่ได้? พวกเขาก็เป็นแค่เด็กส่งของจะมาเป็นลูกค้าระดับวีไอพีของโรงแรมเราได้ยังไง?” เวสลีย์ขำ สีหน้าเย้ยหยันปรากฏอยู่บนใบหน้า ชี้หน้าไปที่เขาก่อนจะเริ่มตำหนิออกมา “ใครเป็นผู้จัดการของที่นี่? ถ้าฉันบอกให้นายโยนพวกมันออกไป นายก็ต้องโยนพวกมันออกไป!”
‘ช่างไร้ประโยชน์สิ้นดี กล้ายอกย้อนกับหัวหน้าอีกซะด้วย!”
“ผู้จัดการวอร์เรน พวกเขาเป็นลูกค้าระดับวีไอพีของโรงแรมเราจริง ๆ ครับ มีรถมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิ้ลยู 100 คันจอดอยู่ด้านนอก ทั้งหมดเป็นชื่อของลูกค้าท่านนี้ ผมไม่สามารถรับผิดชอบผลที่จะเกิดขึ้นมาได้ ถ้าผมโยนพวกเขาออกไป”
หัวหน้าทีมรักษาความปลอดภัยไม่ชอบเขาเลยสักนิดแต่เขาก็เก็บมันเอาไว้ข้างใน
เวสลีย์ทำตัวยิ่งยโสและวางอำนาจมาโดยตลอด ดังนั้นพนักงานจึงทำทีเป็นไม่รู้ไม่ชี้ไปซะ
แต่ตอนนี้เขากลับต้องการที่จะโยนคนเหล่านี้ซึ่งเป็นลูกค้าวีไอพีออกไปจากโรงแรมงั้นเหรอ?
เขาจะต้องถูกไล่ออกเป็นแน่ ถ้าเจ้านายของเขาได้รับรู้เรื่องนี้
เวสลีย์ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาหลังจากที่ได้ยินหัวหน้าทีมรักษาความปลอดภัยพูด “นี่มันเรื่องตลกอะไรกัน? รถมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิ้ลยู 100 คัน? นี่แกคิดว่าแกกำลังล้อเล่นกับใครอยู่?”
เวสลีย์หัวเราะหนักกว่าเดิม
เขาเองก็เห็นรถมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิ้ลยู 100 คันจอดอยู่ด้านนอกเช่นกันและก็รู้สึกอิจฉาด้วย
หลังจากที่ได้รู้ว่ามีเศรษฐีใหม่ที่เป็นลูกค้าระดับวีไอพีมาที่โรงแรมนี้ เวสลีย์ก็ตั้งใจที่จะไปสร้างสัมพันธ์อันดีกับเขา แต่เมื่อเขาได้พบกับฟิลิป คลาร์ค จึงตัดสินใจมาพูดถากถางฟิลิปสักเล็กน้อยแทน
และตอนนี้ ใครบางคนก็มาบอกเขาว่ารถมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิ้ลยูที่จอดอยู่ด้านนอก 100 คันนั้น ใช้สำหรับการรับส่งอาหารและเป็นของฟิลลิป
นี่มันเลือกไร้สาระอะไรกันวะ!
และในตอนนั้นเอง...
ฟิลิปหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าของเขาก่อนจะกดโทรออกหาจอร์จ โทมัส “ไง จอร์จเพื่อนยาก จะซื้ออาร์ค เดอ ไทรอัมพ์ต้องใช้เงินสักเท่าไหร่?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทอันดับหนึ่ง