เมื่อลู่อี้เดินเข้าไปในบ้าน เขาพบว่าลานหน้าบ้านรกร้างเป็นอย่างมาก ถุงขนาดเล็กใหญ่มากมายวางเรียงรายบนพื้น ที่พักอาศัยบางส่วนถูกทุบทิ้ง
เมื่อเห็นมู่ซืออวี่เคลื่อนย้ายสิ่งของอยู่ด้านนอก เขาก็รีบรุดเข้าไปช่วยทันที
“จะขนย้ายไปที่ใดหรือ?”
“ตรงนั้น” มู่ซืออวี่ชี้ไปยังที่ว่างบริเวณใกล้เคียง
ตุบ!
เขาวางของลง
“เหตุใดจึงย้ายของ?” ลู่อี้เอ่ยถาม
มู่ซืออวี่เช็ดฝุ่นออกจากใบหน้าของนางด้วยผ้าขนหนู “ข้าพบนายช่างที่จะสร้างบ้านให้เราแล้ว พรุ่งนี้เขาจะพาคนงานมาดำเนินการ เราจะอยู่อาศัยกับแม่ข้าเป็นการชั่วคราว จะขนย้ายกลับมาอีกทีตอนสร้างบ้านเสร็จ”
“ที่นั่นจะไม่ลำบากและรบกวนแม่เจ้ามากเกินไปหรือ? เราไปเช่าบ้านอยู่ชั่วคราวกันดีหรือไม่?” ลู่อี้เอ่ยถาม “หากไม่มีบ้านว่างในหมู่บ้านของเรา ก็ไปเช่าในหมู่บ้านถัดไป”
“ไม่จำเป็น หานเอ๋อร์ไม่ได้อยู่ที่นี่ ห้องของเขาก็ว่างเปล่า เรายังขนของในห้องฟืนออกไปแล้วทำเป็นห้องนอนได้ ข้ากับอวิ๋นเอ๋อร์จะพักในห้องเดียวกัน ส่วนเจ้ากับน้องชายก็อาศัยในห้องเดียวกัน แค่นี้ก็เหมาะสมลงตัวแล้ว”
ลู่อี้เงียบไป
เมื่อเห็นว่าเขาไม่พูดอะไร มู่ซืออวี่จึงเอ่ยถาม “เจ้ามีปัญหาใดหรือไม่?”
“ไม่มี” ลู่อี้กล่าว “แล้วแม่เจ้าเห็นด้วยหรือไม่?”
“ข้าบอกเรื่องนี้กับท่านแม่แล้ว ท่านแม่เห็นด้วยและยินดีมาก เพราะตอนนี้นางอาศัยอยู่เพียงคนเดียว” เมื่อเห็นว่าลู่อี้ไม่พูดอะไรอีก มู่ซืออวี่ก็ย้ายของต่อไป
เนื่องจากคืนนี้มู่ซืออวี่ตั้งใจจะนอนที่บ้านของตน นางจึงย้ายเพียงของบางส่วนไปยังบ้านแม่ แล้วจะย้ายชุดเครื่องนอนในวันพรุ่งนี้
เครื่องเรือนในบ้านหลังนี้เก่าเกินไป นางจะแทนที่ด้วยของใหม่ทั้งหมด จึงเก็บไว้เพียงเตียงสองหลังที่ทำขึ้นใหม่เท่านั้น
ลู่เซวียนต้องการจะเข้ามาช่วยขนของ แต่มู่ซืออวี่กลับหยุดเขาไว้
“อย่าเข้ามา ที่นี่ฝุ่นหนามาก ไม่ดีต่อสุขภาพของเจ้า ย้ายไปเพียงหนังสือของเจ้าเถิด”
ลู่อี้ซึ่งถือเป็นคนงานผู้แข็งแกร่ง สิ่งของมากมายจึงถูกนำขึ้นรถม้าอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็เคลื่อนย้ายไปยังบ้านของถงซื่อ
หลังจากเสร็จสิ้นการขนของ ท้องฟ้าก็เริ่มมืด แต่พวกเขายังไม่ได้ทานอาหารเย็น
มู่ซืออวี่ซื้อบะหมี่มาแจกจ่ายให้กับทุกคน หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ พวกเขาก็ทำงานต่อไป
“ข้าหมดแรงแล้ว เหนื่อยแทบตาย”
มู่ซืออวี่เดินเข้ามาในห้องอย่างอ่อนแรงก่อนจะเอนกายลงบนเตียง ดูไร้เรี่ยวแรงเป็นอย่างยิ่ง
ทันใดนั้น มือข้างหนึ่งก็วางลงบนไหล่ของนาง
มู่ซืออวี่แข็งทื่อไปทั้งตัว
ลู่อี้นั่งลงด้านข้างพลางกดไหล่ให้นาง
มู่ซืออวี่ลืมตาขึ้นทันที “เจ้าจะนวดให้ข้าหรือ? ไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้น เจ้าเองก็เหนื่อยไม่น้อย ไปพักผ่อนเถิด”
ช่วงเวลานี้อาจเรียกได้ว่าเป็นช่วงเวลาที่ทั้งสองได้อยู่ในห้องเดียวกันโดยไม่เคอะเขิน อีกทั้งบรรยากาศในห้องก็ทำให้รู้สึกผ่อนคลายอย่างยิ่ง
เมื่อมู่ซืออวี่คิดว่าในวันพรุ่งนี้นางจะได้ย้ายห้องนอน นางก็ผ่อนคลายมากขึ้น นางหลับตาลงและเพลิดเพลินไปกับการนวดของลู่อี้
“วันนี้ข้าไปพบเฟิงเจิงกับคนอื่น ๆ มา เฟิงเจิงป่วยหนัก ถูกนำตัวส่งโรงหมอแล้ว คาดว่าอีกสองสามวันคงจะดีขึ้น”
“ยอดเยี่ยม แต่เขากำลังจะเป็นหนี้หลายสิบตำลึง อาจต้องทำงานหนักนานกว่าจะจ่ายหนี้ครบ เจ้ารู้หรือไม่ว่าบ้านของเขาอยู่ที่ใด?”
“รู้”
“เช่นนั้นหากมีเวลาว่างก็ไปเยี่ยมเยียน ซื้ออาหารบำรุงให้เขาสักหน่อย ก่อนหน้านี้เขาเคยช่วยเหลือเราไว้มาก หากไปถึงแล้วช่วยบอกว่าข้ามีงานให้ทำที่นี่ มาหาข้าได้เสมอหากเขาต้องการจะทำ”
“อืม”
“ข้ารู้สึกดีขึ้นแล้ว เจ้าไม่ต้องนวดอีกต่อไปแล้ว” มู่ซืออวี่ลุกขึ้นนั่ง “อยากให้ข้านวดให้เจ้าหรือไม่?”
“ไม่เป็นไร ข้าไม่เหนื่อย”
“เช่นนั้นก็ไม่เป็นไร”
อันที่จริงนางเพียงเอ่ยถามตามมารยาท
มู่ซืออวี่กำลังจะเอนกายนอนเพื่อพักผ่อน ทันใดนั้นนางก็รู้สึกได้ว่าลู่อี้ใช้นิ้วสะกิดไหล่ นางจึงหันกลับมามอง
“นี่…” เขายืนห่อปริศนาบางอย่างให้นาง “ข้าไม่รู้ว่าเจ้าจะชื่นชอบหรือไม่”
มู่ซืออวี่หยิบห่อปริศนานั้นมาแล้วเปิดออก ก่อนจะพบชุดกระโปรงลายดอกกล้วยไม้ที่ปักด้วยมืออย่างประณีต นี่เป็นชุดที่เรียกได้ว่าสง่างามทีเดียว
“เจ้ามอบให้ข้าหรือ?” มู่ซืออวี่เอ่ยถามด้วยความลังเล
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุเข้ามาเป็นวายร้าย
กำลังสนุกเลยค่ะ ขอบคุณแอดที่ลงให้อ่านนะคะ แต่ถ้าลงวันละ 10 ตอนจะดีมากเลยค่ะ รออ่านอยู่นะคะ...
รออ่านบทต่อไปค่ะ...