ทะลุเข้ามาเป็นวายร้าย นิยาย บท 212

สรุปบท บทที่ 212 พ่อบ้านรองปรากฏตัว: ทะลุเข้ามาเป็นวายร้าย

สรุปเนื้อหา บทที่ 212 พ่อบ้านรองปรากฏตัว – ทะลุเข้ามาเป็นวายร้าย โดย ฮั่วลั่วหยิง

บท บทที่ 212 พ่อบ้านรองปรากฏตัว ของ ทะลุเข้ามาเป็นวายร้าย ในหมวดนิยายเวลาเดินทาง เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย ฮั่วลั่วหยิง อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ณ เรือนกรุ่นฝัน เฟิงเจิงเห็นมู่ซืออวี่และลู่อี้ปรากฏตัวขึ้นก็รีบเข้ามาทักทาย

“เถ้าแก่เนี้ย ตู้สองใบพร้อมแล้ว”

“นำออกมาขายได้”

เวลานี้ท้องของมู่ซืออวี่ปวดมาก ถึงแม้จะแต้มชาดบ้างแล้วก็ไม่อาจปิดบังสีหน้าซีดเซียวได้ นางพยายามปกปิดไว้จนถึงที่สุด ทว่าเสียงที่เปล่งออกไปยังคงอ่อนแรง

เฟิงเจิงรับคำ

หลังจากสั่งให้คนงานสองสามคนพยายามขายตู้สองใบนี้แล้ว เขาก็กลับมาหามู่ซืออวี่พร้อมถามว่า “สีหน้าเถ้าแก่เนี้ยไม่ค่อยดีเลย ไม่สบายตรงไหนหรือไม่?”

“เจ้าไปเทน้ำร้อนมาหน่อย” ลู่อี้เอ่ยขึ้น

“ได้ ๆ”

เฟิงเจิงเทน้ำร้อนมา

หลังจากมู่ซืออวี่ดื่มน้ำร้อนแล้วก็ให้ลู่อี้พยุงขึ้น “ข้าจะอยู่ในห้องตำรา หากตู้สองใบนั้นขายออกแล้ว เจ้าก็ไปแพร่ข่าวว่าตู้ทั้งหมดขายออกแล้ว”

“ได้”

ภายในห้องตำรา ลู่อี้ช่วยพยุงนางนอนลง เขานั่งลงข้าง ๆ แล้วลูบท้องของนาง

“ตอนนี้ข้าไม่ต้องให้ท่านอยู่ด้วยจริง ๆ ไปทำงานของท่านเถอะ”

“อาจเป็นเพราะช่วงนี้เหนื่อยเกินไป จึงทำให้เจ้าไม่สบายขนาดนี้ เจ้านอนลง ข้าจะไปทำน้ำตาลแดงมาให้”

“ท่านไม่ต้องทำ”

“เชื่อฟังข้า”

มู่ซืออวี่เห็นสีหน้าจริงจังของลู่อี้ก็รู้สึกอบอุ่นขึ้นมาในหัวใจ ได้แต่รับคำเสียงเบา

นางผล็อยหลับไปด้วยความมึนงง รู้สึกตัวอีกทีเมื่อมีคนเปิดประตูเข้ามา

“ชู่ว” ลู่อี้ส่งสัญญาณให้เฟิงเจิงเคลื่อนไหวเงียบ ๆ

เฟิงเจิงปรายตามองมู่ซืออวี่ที่นอนอยู่ตรงนั้นแล้วเอ่ยเสียงเบา “พ่อบ้านรองมาแล้ว”

“เขาว่าอย่างไร?” ลู่อี้ถามขณะที่เดินออกไปข้างนอก

เฟิงเจิงเดินตามลู่อี้ไป

ส่วนมู่ซืออวี่นั้น ลู่อี้ไม่แม้แต่จะปลุกนาง นับประสาอะไรกับเฟิงเจิง

มู่ซืออวี่เกือบจะตื่นเต็มที่แล้ว เพียงแต่กำลังงุนงง ร่างกายยังไม่มีเรี่ยวแรง หลังจากทั้งสองคนออกไป นางก็ค่อย ๆ ลุกขึ้น พลันรู้สึกถึงกระแสความร้อนที่พวยพุ่งขึ้นมา จึงนอนลงไปอีกครั้งด้วยความหงุดหงิด

ไม่ได้การ จะปวดเกินไปแล้วนะ

ทำไมนางต้องเป็นสตรีด้วย…

ภายในร้าน ชายวัยกลางคนหน้าตาเฉลียวฉลาดคนหนึ่งกำลังตะคอกคนงาน “เหตุใดพวกเจ้าจึงไม่รักษาสัญญา ตู้นี้สัญญาไว้ดิบดีว่าจะทำให้เจ้านายของพวกเราโดยเฉพาะ พวกเจ้ากลับขายให้คนอื่นไปแล้ว พวกเจ้าทำกิจการแบบนี้ ใครจะกล้าซื้อของจากพวกเจ้าอีก? ข้าไม่สน ตามรายการสั่งซื้อ หากไม่ส่งของให้ตรงเวลา เช่นนั้นพวกเจ้าก็ต้องจ่ายค่าเสียหายมาสองเท่า”

“พวกเราไปหาท่าน แต่ก็ไม่เคยได้พบท่าน พวกเราไปส่งของตั้งแต่สามวันที่แล้ว ท่านกลับไม่ยอมออกมา แน่นอนว่าพวกเราต้องคิดว่าท่านไม่ต้องการสินค้าเหล่านั้นแล้ว”

“ใช่แล้ว ลูกค้าท่านนี้ ท่านไม่อาจไร้เหตุผลเช่นนี้ได้!”

พ่อบ้านรองปรายตามองพวกเขา “ข้าไม่ออกมาไม่ได้หมายความว่าข้าไม่ต้องการมัน ข้าเพียงแต่มีเรื่องบางอย่างทำให้ล่าช้า เพิ่งกลับมาที่เมือง ข้ามีเหตุผลรับรอง”

ลู่อี้ออกมาพร้อมกับเฟิงเจิง จึงทันได้ยินคำพูดของชายผู้นี้พอดี

“เจ้าไปศาลาว่าการ ให้นักการเกานำคนมา” ลู่อี้เอ่ยขึ้นเสียงเรียบ

“ได้เลย” เฟิงเจิงนับได้ว่าเป็นคนคุ้นเคยของศาลาว่าการ ขอแค่เขาโผล่ไป คนในที่ว่าการก็พอจะไว้หน้าเขาบ้าง

ตอนที่ลู่อี้ปราฏตัวขึ้น พ่อบ้านรองก็รับรู้ได้ถึงอันตรายโดยสัญชาตญาณ แต่เขาเป็นแค่บ่าวรับใช้ ไม่เคยพบลู่อี้มาก่อน ไม่รู้ตัวตนของอีกฝ่าย จึงคิดว่าเป็นเพียงผู้ดูแลร้าน

“ท่านต้องการสินค้าชุดนั้นหรือ?” ลู่อี้หยิบเครื่องมือที่ใช้ทำงานไม้ที่วางอยู่ข้าง ๆ ขึ้นมา ก่อนจะไสไปบนเนื้อไม้สองสามครั้ง ได้ยินเพียงเสียงครืด ๆ ดังขึ้น เศษฝุ่นไม้กระจัดกระจายลงไปด้านล่าง

“ได้!” เฟิงเจิงปรบมือ ทันใดนั้นก็มีคนยกตู้ออกมา

เมื่อเห็นคนยกตู้ออกมาใบแล้วใบเล่า พ่อบ้านรองก็ตระหนักได้ทันทีว่าตนถูกหลอกแล้ว

ต่อหน้าผู้คนมากมายเช่นนี้เขาย่อมไม่กล้ากลับคำ ทำได้เพียงมอบเงินให้อย่างซื่อสัตย์เท่านั้น

มู่ซืออวี่เห็นเงินที่ส่องประกายระยิบระยับ สีหน้าของนางก็ดีขึ้นไม่น้อย

ลู่อี้เห็นนางแทบจะล้มลงไปแล้ว จึงอุ้มนางขึ้นมาด้วยท่าเจ้าหญิง

“ปล่อยข้าลง” มู่ซืออวี่หันไปมองรอบ ๆ เห็นคนมากมายกำลังจับจ้องนางอยู่ พลันอยากจะแหวกพื้นแล้วมุดลงไปเสียให้รู้แล้วรู้รอด

“ตอนนี้ไปได้แล้วหรือยัง” ลู่อี้เอ่ยเบา ๆ “อย่าดื้อ ระวังข้าจะทำเจ้าตกลงไป”

เฟิงเจิงและคนอื่น ๆ เหม่อมองฟ้า ไม่มองคนที่อยู่ข้าง ๆ อีกต่อไป ท่าทางน่าตลกเช่นนั้น ราวกับเขียนคำว่าที่นี่ไม่มีเงินสามร้อยตำลึง*[1] เอาไว้บนหน้า

“เฟิงเจิง ไปตรวจดูบางอย่างให้ข้าหน่อย” มู่ซืออวี่ไม่ให้โอกาสเฟิงเจิงได้แกล้งตาย

เฟิงเจิงตอบทันทีว่า “เถ้าแก่เนี้ยบอกข้ามาได้เลย”

“ช่วยข้าหาว่าใครอยู่เบื้องหลังพ่อบ้านรอง” มู่ซืออวี่กล่าว “พวกเราไม่เคยมีปัญหากับเขา จะต้องมีเหตุผลที่จู่ ๆ ก็ทำกับพวกเราเช่นนี้แน่นอน”

“รับทราบ”

ลู่อี้อุ้มมู่ซืออวี่เข้าไปพักในห้อง จากนั้นเขาก็ตรวจดูสมุดบัญชีของร้าน ส่วนนางเพียงดูอยู่ข้าง ๆ ว่าเขาทำถูกหรือไม่

มู่ซืออวี่เห็นเขาจดจ่อเช่นนั้นก็อยากช่วยเขาทำอะไรบ้าง แต่แค่เพียงนางขยับตัว เขาจะหันขวับมาทันที ทั้งยังเป็นสายตาที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจ

“จริง ๆ เลย ข้าอึดอัดจะแย่แล้ว ให้ข้าออกไปเดินเล่นหน่อยไม่ได้หรือ?” มู่ซืออวี่พึมพำเบา ๆ

ลู่อี้เดินเข้ามา แล้วอุ้มนางกลับไปยังที่เดิม “อีกสองสามวันเจ้าอยากจะไปที่ใดก็ไปได้ แต่สองวันนี้ไม่ได้ หากมีคันฉ่อง ข้าอยากเอาให้เจ้าส่องดูตัวเองจริง ๆ”

ขณะที่พูด เขาก็ช่วยพยุงนางลงนอนนิ่ง ๆ และให้ตักของเขากลายเป็นหมอนหนุน นางจะได้วิ่งวุ่นไปทั่วไม่ได้

[1] ที่นี่ไม่มีเงินสามร้อยตำลึง เปรียบเปรยว่า อยากปกปิดซ่อนเร้น กลับกลายเป็นเผยให้โลกรู้

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุเข้ามาเป็นวายร้าย