ทะลุเข้ามาเป็นวายร้าย นิยาย บท 251

สรุปบท บทที่ 251 รับไปอยู่ด้วย: ทะลุเข้ามาเป็นวายร้าย

อ่านสรุป บทที่ 251 รับไปอยู่ด้วย จาก ทะลุเข้ามาเป็นวายร้าย โดย ฮั่วลั่วหยิง

บทที่ บทที่ 251 รับไปอยู่ด้วย คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายเวลาเดินทาง ทะลุเข้ามาเป็นวายร้าย ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย ฮั่วลั่วหยิง อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

หูซื่อให้เกียรติสามีของนางเสมอ นางจึงยอมกล้ำกลืนมาหลายปี

หากนางออกจากตระกูลหวง อย่าว่าแต่สตรีอ่อนแอเช่นนางจะทำเช่นไร ไหนจะลูกสาวทั้งสองของนาง สามีของนางล้มป่วยหนัก แค่จะประทังปากท้องยังทำไม่ได้ ทำได้เพียงนอนเฉย ๆ เท่านั้น

ผู้นำตระกูลหวงจะส่งคนมาดูความเป็นความตายของหวงเฉิงเฟิงทุกเดือน ไม่สนว่าในตระกูลจะทะเลาะกันอย่างไร จั๋วซื่อและฮัวซื่อจึงไม่กล้าเหิมเกริม ยังคงส่งอาหารส่วนของเขามาให้ทุกวัน

รังแกหวงเฉิงเฟิงไม่ได้ ก็ไปรังแกหูซื่อและลูกสาวทั้งสองแทน พวกนางแทบไม่ได้กินสิ่งใดจนดูเหมือนมนุษย์กระดาษ หูซื่อดูแก่เฒ่า ไร้เรี่ยวแรงกว่าถงซื่อเสียอีก

“ท่านกำลังคิดแยกบ้านหรือ?” มู่ซืออวี่ถาม

“แยกบ้านอะไร?” ดวงตาของจั๋วซื่อวูบไหวเป็นประกาย “ข้าไม่ได้พูด”

“หากท่านคิดจะไล่ลูกชายออกไป ก็คืออยากขาดจากกันนั่นแหละ” มู่ซืออวี่กล่าวเนิบ ๆ “ตัดขาดกันไม่ได้หรอก บุตรชายท่านพบหมอเมื่อวานนี้ ใช้เงินไปมาก ท่านต้องคืนให้ข้า หากแยกบ้านกันไปแล้ว เขาอ่อนแอเช่นนี้จะหาเงินมาคืนข้าได้อย่างไร?”

“อะไรนะ? ใครจ่ายเงิน ใครใช้คืน เหตุใดต้องให้เราใช้คืนด้วย?” จั๋วซื่อแผดเสียงแหลม

มู่ซืออวี่เหมือนเห็นเงาของแม่เฒ่าเจียงทาบทับบนร่างจั๋วซื่อ

โลกนี้มีผู้คนหลากหลายมารยา แต่ละคนแตกต่างหลากหลาย แต่สิ่งหนึ่งที่ล้วนมีเหมือนกันคือความเห็นแก่ตัวและใจดำ

“เขาไม่ใช่ลูกท่านหรือ? เขาป่วยเช่นนี้ คนเป็นแม่อย่างท่านไม่กังวลใจเลยหรือ?” ถงซื่อถามอย่างโกรธเคือง

“กังวลใจรึ? ข้าชราเพียงนี้ เลี้ยงเขามาตั้งหลายปี หากเจ้าตัวถลุงเงินนั่นกตัญญูจริง ๆ ก็ต้องตอบแทนกันเป็นร้อยเท่าสิ มีอย่างที่ไหนให้คนเฒ่าคนแก่มาลำบากลำบน ลูกสาวแสนล้ำค่าสองคนนั้นจะได้หมั้นหมายหรือเปล่าก็ไม่รู้ รู้หรือไม่เพราะเหตุใด? เพราะบ้านอื่นไม่กล้าแต่งด้วย กลัวผีป่วยนั่นเอาเชื้อโรคมาติดน่ะสิ!”

“เฮอะ! ข้าจะพาป้าข้าไปอยู่ด้วยสองสามวันก็ไม่ให้ ให้คืนเงินก็ไม่จ่าย ท่านไม่ใส่ใจความเป็นความตายคนในตระกูลสักนิด ข้าจะให้ทางเลือกกับเจ้า ข้าจะพาพวกเขาไปทั้งครอบครัว แต่ว่านะ บุตรคนโตของท่านกับป้าข้าจะต้องจดทะเบียนแยกบ้าน ป้าข้าเป็นเจ้าบ้านหญิง ส่วนบุตรชายคนโตของเจ้าจะนับเป็นผู้อาศัย”

จั๋วซื่อ ฮัวซื่อ ถงซื่อ และหูซื่อในเวลานั้น “…”

วาจาเหล่านี้รื้อความคิดพวกนางเสียใหม่หมด

เช่นนี้ก็ได้หรือ?

มู่ซืออวี่คิดเช่นนี้

หากแค่แยกบ้านกันอย่างเดียว ดูจากความโลภของบ้านนี้ เกรงว่าคงมีปัญหาตามมาเป็นแน่ หากหวงเฉิงเฟิงเป็นผู้อาศัย เช่นนั้นก็เท่ากับเขาเป็นเขยแต่งเข้าบ้านของหูซื่อและถงซื่อ หรือก็คืออยู่ใต้โอวาทพ่อกับแม่เลี้ยงของถงซื่อ ฝั่งนั้นมีบุตรชายอยู่แล้ว มีลูกเขยป่วยเพิ่มมาอีกคนจะเป็นอะไรไป นอกจากนั้น ต่อให้อีกฝ่ายจะไม่ยอมก็คงไม่กล้าว่าอะไร

หากให้หูซื่อเปิดสาแหรกใหม่โดยให้นางขึ้นนำ แล้วหวงเฉิงเฟิงกลายเป็นผู้อาศัย ภายหน้าเขาก็จะตัดขาดแยกจากตระกูลหวงโดยสิ้นเชิง

ท่านหมอจูกล่าวว่า ยากจะตัดสินว่าโรคร้ายของหวงเฉิงเฟิงรักษาได้หรือไม่ หรือก็คือโอกาสรักษาหายนั้นยากนัก เช่นนั้น หากหูซื่อขึ้นเป็นเจ้าบ้าน ต่อให้หวงเฉิงเฟิงมีอันเป็นไปอย่างเกินคาดคิด จั๋วซื่อและหวงต้าจงจะทำอะไรหูซื่อกับลูก ๆ ไม่ได้ โดยเฉพาะสองลูกสาวผู้ถึงวัยออกเรือน หากไม่ทำเช่นนี้ พวกนางจะถูกจับแต่งกับใครเมื่อไหร่ก็ได้

“ท่านแม่ ให้พวกเขาไปเถอะ” ฮัวซื่อกระตุกแขนจั๋วซื่อ “หลานชายอันมีค่าของท่านควรหมั้นหมาย หากมีพวกเขาอยู่ ใครเล่าจะกล้าแต่งเข้า? ท่านยังอยากอุ้มเหลนอยู่หรือไม่?”

“แต่ชื่อเจ้าบ้าน…”

“พวกเขาจะไปเอง เราไม่ได้ไล่พวกเขาไปเสียหน่อย”

แม่สามีและสะใภ้รองซุบซิบกันอยู่นาน และท้ายที่สุด เพื่อหลานชายที่รักทั้งสอง จั๋วซื่อจึงกัดฟันพยักหน้า

“ก็ได้ แต่ในเมื่อคนดีของข้าจะแต่งเข้า พวกเจ้าก็ต้องให้เงินพวกข้าด้วย” จั๋วซื่อกลอกตา เอ่ยขออย่างหน้าไม่อาย

“เราจะไปที่ใดกัน?” หูซื่อถาม

“ข้าย้ายไปอยู่กับลูกและเขยในเมืองแล้ว บ้านข้าว่างเปล่า เจ้าจะอยู่ที่นั่นก่อนหรือไม่?” ถงซื่อกล่าว “พอดีว่าในหมู่บ้านเรามีหมอ”

“ท่านหมอจูตั้งใจจะเข้าเมืองมาเปิดร้านยา แต่ถ้าลุงกับป้าย้ายเข้าหมู่บ้านเรา ก็ขอให้ท่านหมอจูออกเดินทางทีหลัง รอให้ลุงพักฟื้นเสียหน่อยก็ได้”

มู่ซืออวี่กล่าวถึงแผนของท่านหมอจู

ถงซื่อผงะไปครู่หนึ่ง สายตาของนางเผยแววกระวนกระวาย

“ข้าไม่รู้จะขอบคุณพวกเจ้าอย่างไร” หวงเฉิงเฟิงกล่าว “ร่างกายนี้ของข้าไม่ไหวแล้ว ข้าขอเพียงพวกเจ้าช่วยดูแลภรรยาอีกสักหน่อย ข้าจะได้ตายตาหลับ”

“ท่านหมอจูบอกว่าที่ผ่านมาไม่ได้รับการรักษาอย่างสมควร หากอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี ไม่ช้าก็เร็วก็หายได้นะ” มู่ซืออวี่โกหก

วาจาเดิมของท่านหมอจูก็คือ หากเขาอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดีก็คงยื้อชีวิตได้อีกสองสามปี ไม่ได้บอกว่าเขาจะหายดี แต่สำหรับผู้ป่วยขาดกำลังใจเช่นนี้ สิ่งที่นางต้องทำก็คือสร้างความมั่นใจให้เขา ไม่ให้เขาหมดอาลัยตายอยากเสียก่อน

“จริงหรือ?” หูซื่อเชื่อเป็นจริงเป็นจัง

“จริงสิ” มู่ซืออวี่พยักหน้า

ลูกพี่ลูกน้องหญิงทั้งสองไม่ได้เอ่ยวาจาใด คนหนึ่งมีนามว่าหวงอันหนิง อีกคนนามว่าหวงอันจิ้ง สาวน้อยทั้งสองเหมือนบิดานัก หน้าตากระจ่างใส ทว่าผอมแห้งเหลือเกิน ทั้งยังดูขี้กลัวอีกต่างหาก

พวกนางมองมาอย่างสงสัย เมื่อสบสายตากับมู่ซืออวี่ พวกนางก็ก้มหน้าก้มตาเหมือนกระต่ายน้อยตื่นกลัวเสียอย่างนั้น

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุเข้ามาเป็นวายร้าย