ทะลุเข้ามาเป็นวายร้าย นิยาย บท 272

หลังจากมู่ซืออวี่ตรวจดูงานล่าสุดของคนงานในร้าน เดิมทีนางเตรียมตัวจะกลับแล้ว ทว่าเหวินอี้กลับเข้ามาพร้อมรูปภาพรูปหนึ่ง

“เถ้าแก่เนี้ย รบกวนท่านดูภาพแบบนี้ว่าเป็นอย่างไร”

มู่ซืออวี่รับมา แววตาของนางเปล่งประกายขึ้นมาทันที “เจ้าคิดออกมาหรือ?”

“ขอรับ ก่อนหน้านี้เฟิงเจิงทำพัง ข้าลองปรับอีกสองสามครั้ง แต่ก็ไม่สำเร็จเสียที”

“แน่นอนว่าต้องไม่สำเร็จ เพราะสัดส่วนไม่ถูกต้อง” มู่ซืออวี่กล่าว “แค่ปรับตรงนี้สักหน่อยก็ใช้ได้แล้ว”

มู่ซืออวี่ทำเครื่องหมายลงไปจุดหนึ่ง เปลี่ยนสี่เหลี่ยมจัตุรัสให้เป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า นางมองมันอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นหยิบพู่กันขึ้นมาปรับแก้อีกสองจุด ภาพแบบที่เดิมทีดูเรียบง่ายนั้นดูหรูหรายิ่งกว่าเดิมทันที ทั้งยังไม่ทำให้ความสวยงามของมันน้อยลงด้วย

“เหวินอี้ เจ้าวาดภาพเก่งจริง ๆ” มู่ซืออวี่กล่าวชม “ด้วยความสามารถของเจ้า หากเจ้าได้เล่าเรียนหนังสือต่อไป อนาคตเจ้าอาจจะสว่างไสว เหตุใดเจ้าไม่ศึกษาเล่าเรียนต่อเล่า?”

“ร่างกายของข้าไม่แข็งแรง ไม่เหมาะที่จะเป็นขุนนางขอรับ” เหวินอี้ตอบ “ยิ่งไปกว่านั้น ข้ารู้สึกว่าวาดแบบให้ท่าน ข้าก็มีความสุขมากแล้ว อีกทั้งรายได้ยังดีกว่าเบี้ยหวัดของเจ้าหน้าที่ทางการข้างนอกเสียอีก”

“เจ้านำแบบไปให้เฟิงเจิง ให้เขาทำตัวอย่างออกมา อีกอย่างร่างกายของเจ้าไม่สู้ดี เหตุใดไม่ย้ายไปอยู่ที่เรือนสกุลลู่ ที่นั่นมีห้องว่างหลายห้อง เพิ่มเจ้าไปอีกคนไม่ถือว่ามากมายอะไร ทั้งยังมีคนดูแลอาหารการกินให้อีกสามมื้อต่อวัน”

เหวินอี้มีท่าทีลังเลใจ

“เจ้าลองกลับไปคิดดู หากเจ้าอยากย้ายเมื่อไหร่ก็ไปแจ้งเฟิงเจิง ให้เขาจัดเตรียมให้” มู่ซืออวี่กล่าว “ช่วงนี้ข้าไม่ได้อาศัยอยู่ที่เรือนสกุลลู่ อาศัยอยู่ที่หมู่บ้านแถบชนบท อาจจะไม่ได้คอยดูแลเจ้า”

“ขอรับ ขอบคุณ”

“เจ้ามาอยู่ที่นี่นานเพียงนี้แล้ว เหตุใดไม่ออกไปเดินเล่นดูเสียบ้าง? ถึงแม้เมืองฮู่เป่ยจะไม่ดีเท่าเมืองซูโจว ทว่าต้องการสิ่งใดก็มีสิ่งนั้นเช่นกัน ออกไปเที่ยวเล่นได้นะ!”

“เถ้าแก่เนี้ยไม่ต้องห่วงข้าเลยขอรับ แต่ไหนแต่ไรมาข้าก็ไม่ชอบออกไปข้างนอก นอกจากนี้อาหารและที่พักล้วนมีอยู่ในร้าน ไม่มีเรื่องจำเป็นให้ต้องใช้เงินขอรับ”

นักการเกาเดินเข้ามาจากข้างนอก เมื่อเห็นมู่ซืออวี่จึงเอ่ยขึ้นยิ้ม ๆ “เถ้าแก่เนี้ย ข้าอยากจะซื้อตู้สักหลัง ท่านช่วยข้าเลือกสักหน่อย”

“ได้” มู่ซืออวี่เดินเข้าไปหานักการเกา

นักการเกาดึงจดหมายฉบับหนึ่งออกมาจากอกแล้วยื่นให้มู่ซืออวี่ “ของสิ่งนี้มอบให้น้องลู่ รบกวนน้องสะใภ้นำไปมอบให้เขาแทนข้า”

“เข้าใจแล้ว” มู่ซืออวี่นำจดหมายฉบับนั้นใส่แขนเสื้อของนาง

“เจ้าไม่ถามหรือว่านี่คืออะไร?” นักการเกานึกสงสัย

“เหตุใดข้าต้องถามเล่า? อย่างไรเสียข้าก็ไม่รู้ว่าพวกท่านกำลังทำอะไรกัน หากสามีของข้าไม่อยากกล่าว แม้ข้าจะถามเขา เขาก็คงไม่ยอมบอกหรอก” มู่ซืออวี่กล่าว “อีกอย่าง ข้าเชื่อใจเขา”

มู่ซืออวี่เลือกตู้ให้เขาด้วยตนเอง จากนั้นนักการเกาก็นำคนของเขามาขนย้ายไปจริง ๆ

“ฮูหยิน ฝนใกล้จะตกแล้ว พวกเรายังไม่ไปหรือขอรับ?” จือเชียนวิ่งเข้ามา

มู่ซืออวี่หันออกไปมองท้องฟ้าข้างนอก ฝนยังไม่มีทีท่าว่าจะตกลงมาเร็ว ๆ นี้ “ไปเถอะ พวกเรากลับเดี๋ยวนี้เลย”

ล้อของรถม้าหมุนกลับ เคลื่อนออกไปนอกเมืองอย่างรวดเร็ว

ครั้นออกจากเมืองมาไม่นานนัก ถนนด้านหน้ากลับมีรถม้าคันหนึ่งจอดอยู่ อีกทั้งยังมีสตรีผู้หนึ่งกำลังพยุงสตรีอีกคนอยู่ริมถนน สตรีผู้นั้นดูมีสีหน้ากระวนกระวายใจ

จือเชียนเอ่ยกับนางว่า “เถ้าแก่เนี้ยขอรับ ข้างหน้าดูเหมือนจะเกิดบางอย่างขึ้น”

มู่ซืออวี่เปิดม่านออกมา มองเห็นพวกเขากำลังเข้าใกล้ร่างที่อยู่ข้างหน้ามากขึ้นเรื่อย ๆ

“ช้าก่อน” สาวใช้เข้ามาขวางหน้ารถม้าของพวกเขาไว้

จือเชียนรีบบังคับรถม้าให้หยุดโดยพลัน

“เจ้ามีเรื่องอะไร?” เขาดึงสายบังเหียนม้าไว้ได้ทันเวลาพอดี

“ฮูหยินของพวกเราใกล้จะคลอดแล้ว ข้าขอร้องพวกท่าน ได้โปรดพาฮูหยินไปหาท่านหมอด้วยเถิด!” สาวใช้ผู้นั้นเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

“โอ๊ย…” หญิงสาวคุกเข่าลงด้วยความเจ็บปวด หน้าเผือดสีจนมู่ซืออวี่สังเกตเห็น

“มู่ซือเจียว!” มู่ซืออวี่ขมวดคิ้ว

มู่ซือเจียวเผยสีหน้าอ่อนแรงให้มู่ซืออวี่เห็น “มู่ซืออวี่…”

“เถ้าแก่เนี้ย ตอนนี้จะทำอย่างไรดีขอรับ?” จือเชียนย่อมต้องเคยเห็นมู่ซือเจียว อีกทั้งยังรู้ความบาดหมางใจระหว่างพวกนาง แต่ในสถานการณ์เช่นตอนนี้ เขาไม่รู้ว่าควรต้องทำอย่างไร

“เด็กเป็นผู้บริสุทธิ์” มู่ซืออวี่เอ่ยขึ้น “พาพวกเขากลับเข้าเมืองไปหาหมอตำแย”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุเข้ามาเป็นวายร้าย