ทะลุเข้ามาเป็นวายร้าย นิยาย บท 344

สรุปบท บทที่ 344 ช่องทางทำเงิน: ทะลุเข้ามาเป็นวายร้าย

สรุปเนื้อหา บทที่ 344 ช่องทางทำเงิน – ทะลุเข้ามาเป็นวายร้าย โดย ฮั่วลั่วหยิง

บท บทที่ 344 ช่องทางทำเงิน ของ ทะลุเข้ามาเป็นวายร้าย ในหมวดนิยายเวลาเดินทาง เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย ฮั่วลั่วหยิง อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

มู่ซืออวี่ไม่ได้พบลู่ฉาวอวี่และมู่เจิ้งหานมาระยะหนึ่งแล้ว ขณะนั่งในรถม้า นางจึงจ้องมองพวกเขาทั้งสองโดยไม่วางตา

“ท่านพี่ อย่ามองเราเช่นนี้สิขอรับ สีหน้าของท่านราวกับว่าจะจับตัวพวกเราไปขายเลย” มู่เจิ้งหานพูดติดตลก

“รูปร่างหน้าตาเช่นเจ้า จะขายได้สักเท่าไหร่กันเชียว” มู่ซืออวี่กล่าว “ข้าว่าน้ำหนักพวกเจ้าลดลงไปมาก แต่เจ้าสูงขึ้นมาก โดยเฉพาะเจ้า ดูเหมือนลูกวัวไปแล้ว”

“อ้าว…”

“ที่บ้านเป็นอย่างไรบ้าง ตอนพวกเจ้ามาที่นี่ อวิ๋นเอ๋อร์ได้พูดอะไรหรือไม่?”

“นางร้องไห้เสียใจอยากตามมาด้วย แต่พวกเรามาเรียน และนางมีสิ่งที่ต้องทำ พวกเราจึงปฏิเสธนางขอรับ” มู่เจิ้งหานตอบ “ท่านพี่ ท่านจะยุ่งอีกนานเพียงใด?”

“ราวสามเดือน” ถ้าทุกอย่างเรียบร้อยดี ภายในสามเดือนก็จะกลับไปได้แล้ว

“มีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นในเมืองฮู่เป่ย” มู่เจิ้งหานกล่าว “หากท่านอยู่บ้าน ท่านก็จะใช้เวลาอยู่กับพี่เขยได้ พี่เขยทำงานหนักเพียงลำพัง ข้าเห็นใจเขานัก”

ลู่ฉาวอวี่มองมู่เจิ้งหาน

มู่เจิ้งหานรีบหุบปากทันที

แววตาของฉาวอวี่ดูเหมือนพี่เขยของเขามาก ช่างน่ากลัวเสียจริง

“เกิดอะไรขึ้น ไม่นานมานี้ พี่เขยของเจ้ามาหาข้าตอนที่เขาผ่านเมืองซูโจว ทว่าเขาไม่ได้พูดอะไรเลย ข้าเห็นว่าเขาดูซูบผอมไปจริง ๆ ตอนข้าเขียนจดหมายส่งไป เขาก็ไม่ได้ตอบอะไร”

“ทั้งหมดนั้นเป็นเรื่องของทางการขอรับ” ในที่สุดลู่ฉาวอวี่ก็พูดขึ้น เขาคิดว่าเป็นการดีกว่าที่จะไม่พูดไปมากกว่านี้

ท่าทางของเขาราวกับเป็นสำเนาของลู่อี้จริง ๆ

“แม้ว่าจะบอกท่าน แต่ท่านก็ไม่อาจช่วยได้อยู่ดี ไม่จำเป็นต้องรู้อะไรมากมายหรอกขอรับ” ลู่ฉาวอวี่กล่าว

“พูดเช่นนั้นก็จริงอยู่บ้าง” มู่ซืออวี่ยังคงกังวล

หากนางอยู่ที่นั่นด้วย อย่างน้อยนางก็คุยกับเขา ช่วยคลายความเครียดให้เขาได้

ช่วงนี้นางต้องทำงานล่วงเวลา จงอ๋องสั่งให้ทำเสร็จเร็วกว่ากำหนด นางจะได้กลับเร็วกว่านี้ด้วย

เมื่อหาที่พักให้ลู่ฉาวอวี่และมู่เจิ้งหานแล้ว มู่ซืออวี่ก็คิดจะพาพวกเขาไปเดินชมรอบเมืองซูโจว และตรวจดูสาขาอื่นระหว่างทางไปด้วย

“เถ้าแก่เนี้ย มีคำสั่งใหญ่อีกรายการหนึ่งมาแล้วขอรับ” เจี่ยงจงเดินเข้ามาหา “อีกฝ่ายขอให้ท่านเป็นคนทำเอง พวกเขายินดีที่จะเพิ่มเงินขอรับ”

“ท่านพี่ หากท่านไม่ว่าง ฉาวอวี่กับข้าเดินไปเองก็ได้” มู่เจิ้งหานกล่าว

“ก็ได้ ข้าจะให้คนพาพวกเจ้าไปก็แล้วกัน”

“ไม่ต้องหรอกขอรับ กิจการในร้านท่านยุ่งนัก ทุกคนย่อมมีงานที่ตัวเองต้องรับผิดชอบ พวกเราแค่จะไปซื้อของ จำเป็นต้องมีคนดูแลด้วยหรือไร”

มู่ซืออวี่กำลังยุ่งมาก เมื่อนึกได้ว่าทั้งสองคนโตแล้ว นางจึงไม่ได้คิดมากอีก

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ลู่ฉาวอวี่และมู่เจิ้งหานมาเมืองซูโจว ไม่นานมานี้พวกเขาก็เคยมาแล้ว เมื่อทั้งสองเดินไปถึงหน้าร้านก็เห็นเด็กอ้วนคนหนึ่งวิ่งเข้ามาหา

“พี่ใหญ่” เด็กอ้วนยืนขวางหน้าลู่ฉาวอวี่ “เป็นท่านจริง ๆ ด้วย พี่ใหญ่ ท่านมาเมืองซูโจวอีกแล้ว”

“เรียกอะไรเช่นนั้น?” ลู่ฉาวอวี่ขมวดคิ้ว

“อ๊ะ ครั้งที่แล้วท่านช่วยข้าไว้ ข้าบอกแล้วว่าจะยกย่องท่านเป็นพี่ใหญ่ ท่านจะเป็นพี่ใหญ่ของข้าไปชั่วชีวิต” เด็กอ้วนพูด “พี่ใหญ่ ครอบครัวของข้าเปิดร้านขายเนื้อกระต่าย ข้าขอเชิญท่านไปกินเนื้อกระต่าย!”

มู่เจิ้งหานหัวเราะ

เมื่อเห็นว่าลู่ฉาวอวี่กำลังมองดูอยู่ เขาก็ยกยิ้มแล้วพูดว่า “เราเพิ่งกินข้าวไป ขอบคุณสำหรับน้ำใจของเจ้า”

“กินข้าวไปแล้วหรือ? เช่นนั้นพรุ่งนี้ข้าค่อยเลี้ยงพวกท่านก็ได้” เด็กอ้วนพูด “พี่ใหญ่ คราวนี้ท่านจะอยู่นานเพียงใด?”

“หนึ่งเดือน” หลังจากที่ลู่ฉาวอวี่พูดจบ เขาก็เตือนว่า “ไม่ต้องเรียกข้าว่าพี่ใหญ่หรอก”

ครั้งล่าสุดที่มาเรียนที่เมืองซูโจว เขาได้พบกับเด็กชายตัวอ้วนที่ถูกลักพาตัวไป เขาจึงแอบตามไปช่วย ทั้งยังรายงานเจ้าหน้าที่ให้มาจับผู้ลักพาตัวเข้าคุกด้วย เด็กอ้วนคนนี้จึงตามตื๊อเขาและเรียกเขาว่าพี่ใหญ่

ครึ่งชั่วโมงต่อมา มู่ซืออวี่ก็มองนกไม้ตรงหน้า จากนั้นมองหร่วนฉีด้วยสีหน้าจริงจัง

“เจ้าไม่ได้ทำงานนี้มาตลอดทั้งวันใช่หรือไม่?”

“ไม่” หร่วนฉีตอบ “ข้าเล่นมันแค่ในเวลาว่าง เจ้าพูดถูก ต้องใช้ทักษะเล็กน้อยในการประกอบ และตอนนี้ข้ารู้วิธีประกอบแล้ว”

“โอ้”

แล้วมาหานางที่นี่เพื่ออะไร?

“ครั้งนี้พวกเจ้าวางแผนจัดงานอะไร?” หร่วนฉีตัดบท

“งานจัดแสดงสินค้า” เมื่อเห็นสายตาสับสนของอีกฝ่าย มู่ซืออวี่ก็อธิบายว่า “เป็นการจัดแสดงสินค้าใหม่ต่อหน้าคนซื้อ อธิบายคุณสมบัติการออกแบบสินค้าเหล่านั้นให้พวกเขาฟัง หากมีคนชอบก็ซื้อได้เลยทันที ข้าวางแผนจะจัดขึ้นภายในหนึ่งเดือน ตอนนี้ยังอยู่ในขั้นตอนเตรียมการ เจ้ามีอะไรหรือเปล่า?”

“ข้าก็อยากทำด้วยเช่นกัน” หร่วนฉีกล่าว

มู่ซืออวี่ “…”

“ข้าอยากแข่งขันกับเจ้า มาดูกันว่าใครสามารถทำยอดขายได้ดีกว่ากัน” หร่วนฉีพูด “แน่นอนว่าข้าจะไม่ขโมยความคิดของเจ้าไปเปล่า ๆ ข้าจะจ่ายให้เจ้า 1,000 ตำลึงเงินเป็นค่าเข้าร่วม”

“เจ้านี่มัน… จะปฏิเสธก็กระไรอยู่ ในเมื่อเจ้าต้องการแข่ง เช่นนั้นก็เรียกร้านอื่นมาแข่งด้วยกันเลยดีหรือไม่?” มู่ซืออวี่ยกยิ้ม “มาปรึกษาหารือแล้วป่าวประกาศงานให้คนรู้กันเถอะ น่าจะดีแน่ ๆ”

บัดนี้หร่วนฉีพูดไม่ออก

เขาแค่อยากจะแข่งขันกับนาง เหตุใดจึงกลายเป็นงานจัดแสดงสินค้าขนาดใหญ่เสียแล้ว

หร่วนฉีได้เตือนมู่ซืออวี่ให้ฉุกคิดอย่างหนึ่ง

หากมีเพียงร้านของนางเพียงร้านเดียวที่จัดงานแสดงสินค้านี้ ก็จะมีพวกลูกค้าท้องถิ่นที่มาเยี่ยมชม แต่ถ้าป่าวประกาศว่าจะจัดงานใหญ่ จะต้องมีลูกค้าจากทั่วสารทิศมาเยี่ยมชมเป็นแน่

นี่คือโอกาสค้าขายชัด ๆ!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุเข้ามาเป็นวายร้าย