ทะลุเข้ามาเป็นวายร้าย นิยาย บท 365

สรุปบท บทที่ 365 ให้เปล่าอะไรกัน: ทะลุเข้ามาเป็นวายร้าย

บทที่ 365 ให้เปล่าอะไรกัน – ตอนที่ต้องอ่านของ ทะลุเข้ามาเป็นวายร้าย

ตอนนี้ของ ทะลุเข้ามาเป็นวายร้าย โดย ฮั่วลั่วหยิง ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายเวลาเดินทางทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 365 ให้เปล่าอะไรกัน จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ทุกคนล้วนไม่พอใจกับคำตัดสินเท่าใดนัก

ทว่าเวินเหวินซงเป็นคนโปรดข้างกายนายอำเภอ เขารับผิดชอบงานหลายอย่าง อีกทั้งยังเป็นคนที่ทุกคนคุ้นหน้าคุ้นตา ดังนั้นจึงจำเป็นต้องไว้หน้าอีกฝ่าย

หากไม่ใช่เวินเหวินซงแต่เป็นเจ้าหน้าที่ทางการคนอื่น ย่อมไม่มีผู้ใดเต็มใจปล่อยคนที่ทำให้พวกเขาได้รับบาดเจ็บไปง่าย ๆ แน่

“ใต้เท้า ท่านก็เห็นว่าร่างกายของเราแข็งแรงมาก แต่เพราะคนผู้นี้เราถึงได้รับบาดเจ็บ เพื่อไม่ให้กระทบกับงานของเรา เช่นนั้นท่านต้องลงทะเบียนให้เรานะขอรับ!”

“ได้ พวกเจ้าบอกชื่อตนเอง ที่อยู่ และแนบสำเนาทะเบียนบ้านมา”

ในที่สุดสถานการณ์ทางด้านนี้ก็คลี่คลายลง

หนิวเหมยเช็ดเหงื่อบนหน้าผาก

โชคดีที่คนเหล่านั้นไม่ได้รับบาดเจ็บร้ายแรง ไม่เช่นนั้นพวกเขาคงเสียฮูหยินเสียซ้ำขุนศึก*[1]

คิดมาถึงตรงนี้ หนิวเหมยพลันหันไปมองมู่ต้าซานอย่างรังเกียจ

เดิมทีนางแต่งงานกับมู่ต้าซานเพราะ หนึ่ง มู่ต้าซานยินดีเป็นเขยแต่งเข้า สอง นางอายุมากแล้ว หากยังไม่หาบุรุษเคียงคู่จะต้องเป็นสาวทึนทึกไปชั่วชีวิต และสาม มู่ต้าซานเป็นคนซื่อ รับมือได้ง่าย

แล้วดูตอนนี้สิ แต่งงานกับขยะกองหนึ่งยังไม่สู้ใช้ชีวิตอยู่เพียงลำพังเลย

“ท่านหมอจู ในมือพวกเราตอนนี้ไม่มีเงินเลย พวกเราติดไว้ก่อนได้หรือไม่?”

หนิวเหมยไม่สนใจการห้ามปรามของมู่ต้าซาน นางเอ่ยเจตนาของตนออกมาอย่างไร้ยางอาย

“เอาเถอะ ถือซะว่าไว้หน้าพวกเจ้า…” ท่านหมอจูกล่าวยังไม่ทันจบก็ได้ยินถงซื่อพึมพำเสียงเบาอยู่ข้าง ๆ อย่างไม่พอใจ

เขาเงียบลงทันที จากนั้นหันไปมองถงซื่อ “ฮูหยินคิดว่าอย่างไร?”

ถงซื่อเอ่ยอย่างเฉยชา “สามี ค่ารักษาและค่ายามากน้อยเพียงใดหรือ?”

“พวกเราเป็นคนหมู่บ้านเดียวกัน เช่นนั้นข้าจะเก็บเพียงราคาต้นทุน ทั้งหมด 750 อีแปะ หักลบค่าใช้จ่ายอื่น ๆ แล้วเท่ากับ 700 อีแปะ”

เพื่อที่จะให้ชัดเจน ท่านหมอจูจึงบอกราคาของวัตถุดิบสมุนไพรแต่ละตัวโดยละเอียดแก่หนิวเหมยและมู่ต้าซาน

แน่นอนว่าหนิวเหมยและมู่ต้าซานล้วนฟังไม่เข้าใจ

ชื่อของสิ่งที่พวกเขาไม่เคยได้ยินมาก่อนทำให้ปวดหัวเป็นอย่างยิ่ง

“ข้ารู้ว่าพวกเจ้าไม่มีเงินอยู่ในมือ” ถงซื่อเอ่ย “ดังนั้นพวกเจ้าสามารถจ่ายเป็นสมุนไพรแทนได้”

“สมุนไพร?” หนิวเหมยเอ่ยถาม

“ถูก ที่เขาด้านหลังหมู่บ้านของพวกเรามีสมุนไพรเยอะแยะเลยไม่ใช่หรือ? แต่ก่อนสามีข้ามักจะขึ้นเขาไปเก็บสมุนไพร หากพวกเจ้าสามารถเก็บสมุนไพรดี ๆ มาได้ สามีข้าก็จะรับจากพวกเจ้า” ถงซื่อเอ่ยเบา ๆ

“พวกเราไม่รู้จักสมุนไพร” หนิวเหมยฉงน

“เรียนรู้ได้” ถงซื่อกล่าว “เอาอย่างนี้ ทังหยวน เจ้าพาพวกเขาไปที่ร้านขายสมุนไพร แล้วเอาสมุนไพรที่เพิ่งเก็บมาให้พวกเขาดูเป็นตัวอย่างหลาย ๆ ชนิด เช่นนี้พวกเขาจะได้ใช้เปรียบเทียบได้”

หลังจากจัดการเรื่องนี้แล้ว ท่านหมอจูจึงเอ่ยถามถงซื่ออย่างเป็นกังวล “มีที่ใดรู้สึกไม่สบายหรือไม่?”

ถงซื่อมองเขาด้วยสีหน้าเอียงอาย “ข้าไม่ได้ทำจากกระดาษนะ”

“เมื่อครู่นี้มีคนมากมายเพียงนั้น ทั้งยังมีคนเกือบจะล้มใส่เจ้าอีก หากเจ้ารู้สึกไม่สบายต้องบอกข้าล่ะ”

ถึงอย่างไรนางก็ไม่ใช่เด็กสาวแล้ว ลูกในท้องไม่ใช่นึกจะมีก็มีได้ง่าย ๆ เขาย่อมกังวลกับร่างกายของนางเป็นธรรมดา

หนิวเหมยมองท่านหมอจูและถงซื่อจากไปด้วยความริษยา

“ดีจริง!” หนิวเหมยลูบท้องของตนแล้วเอ่ยว่า “เมื่อไหร่ข้าถึงจะตั้งท้องลูกเสียที?”

มู่ต้าซานนอนบนเปล ปล่อยให้นักการพาเขาออกไป

ถงซื่ออายุมากเพียงนี้แล้ว ยังสามารถตั้งครรภ์ได้อีก

หัวใจของเขาราวกับถูกขวดเครื่องปรุงหลากรสตกใส่ รสชาติของความรู้สึกมากมายผสมปนเปกันไปหมด

“สามสิบปีก่อน?” มู่ซืออวี่ไตร่ตรอง “เช่นนั้นจะเกี่ยวหรือไม่?”

เดิมทีคิดว่าเข้าใกล้เบาะแสแล้ว ทว่าเมื่อพยายามอยู่เป็นเวลานาน กลับแกะลวดลายอะไรออกมาไม่ได้เลย

หรือว่านางจะคิดไปผิดทาง?

เฟิงเจิงเข้ามาจากด้านนอก “อาจารย์ รีบช่วยลูกศิษย์ที่น่าสงสารของอาจารย์เถอะ!”

“มีอะไรหรือ?” มู่ซืออวี่ถาม

“นับแต่พี่ใหญ่เหวินอี้ไป พวกเราก็ขาดคนทำบัญชีมาโดยตลอด หากยังไม่หาคนทำบัญชี อาจารย์จะไม่เหลือลูกศิษย์แล้ว” เฟิงเจิงกล่าวด้วยสีหน้าขมขื่น

“เรื่องนี้สำคัญจริง ๆ” มู่ซืออวี่เอ่ย “เจ้าให้จือเชียนไปหาคนรู้หนังสือสักคนจากนายหน้าค้าทาสเสีย”

“คนรู้หนังสือที่ใดจะขายตนเองเป็นทาสเล่า?” เฟิงเจิงไม่ได้คิดในแง่ดีเพียงนั้น

“ลองไปหาดูก่อน หากหาไม่ได้ค่อยว่ากัน” มู่ซืออวี่เอ่ย “ข้ารู้ว่าช่วงนี้ทุกคนงานยุ่ง คนทำบัญชีเพียงคนเดียวอาจไม่เพียงพอ เช่นนั้นก็หามาสักสามคนแล้วตั้งส่วนงานทำบัญชีขึ้นเถอะ”

ยังไม่ทันมีข่าวจากจือเชียน ก็มีคนทำบัญชีคนแรกมาหาถึงหน้าประตูแล้ว

คนผู้นั้นไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นหวงเฉิงเฟิง

“ท่านลุง สุขภาพท่านเป็นอย่างไรบ้าง?” เมื่อมู่ซืออวี่พบหวงเฉิงเฟิง นางไม่ได้กล่าวว่าจะไม่รับหรือรับเขาเข้าทำงาน แต่ถามถึงสุขภาพร่างกายของอีกฝ่ายก่อน

หวงเฉิงเฟิงเห็นว่าในห้องยังมีคนอยู่อีกคน อีกทั้งคนผู้นั้นยังเป็นสตรีที่งดงามเกินกว่าจะมีอยู่จริง เขาจึงสำรวมอยู่บ้าง

“นี่เป็นสหายของข้า พวกเรากำลังปรึกษากันเรื่องบางอย่าง ท่านไม่ต้องเห็นเป็นคนอื่นไกล มีอะไรท่านกล่าวมาได้เลย”

หร่วนฉีเองก็ไม่ถือว่าตนเป็นคนนอก

เขานั่งอยู่ข้าง ๆ ง่วนอยู่กับลวดลายเหล่านั้น พยายามศึกษาภาพจากแนวคิดของมู่ซืออวี่ต่อไป

[1] เสียฮูหยินเสียซ้ำขุนศึก หมายถึง เสียทั้งสองอย่างในคราวเดียวกัน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุเข้ามาเป็นวายร้าย