“จัดการตามกฎเถอะ!” มู่ซืออวี่กล่าว
“ข้าน้อยลองคำนวณแล้ว มีคนปลอมแปลงตัวตนอย่างน้อยหนึ่งร้อยคนขอรับ หากพวกเราจัดการตามกฎ เกรงว่าจะสร้างความไม่พอใจให้ผู้คน ซึ่งอาจกระทบต่อการก่อสร้างนะขอรับ” เวินเหวินซงที่อยู่ข้าง ๆ เอ่ยขึ้น
“เช่นนั้นจะปิดหูข้างหนึ่งปิดตาข้างหนึ่ง ปล่อยให้พวกเขาทำอย่างที่ต้องการหรือ?” มู่ซืออวี่เอ่ยอย่างเยือกเย็น “หากไม่คุมให้อยู่ตั้งแต่แรก เช่นนั้นไม่ใช่ว่าเป็นการอนุญาตให้พวกเขาเอาเปรียบเราอย่างไรก็ได้หรือ?”
“เช่นนั้น…”
“ควรทำอย่างไรก็ทำเช่นนั้น ยังมีเฉินหู่อีก เขายักยอกเงินไปมากมาย เราต้องให้เขาคายบางอย่างออกมา ไม่อาจปล่อยให้แล้วไปเช่นนี้”
นักการหวังเดินเข้ามาจากข้างนอก เมื่อเห็นมู่ซืออวี่อยู่ในห้องจึงคำนับนางก่อน จากนั้นหันไปเอ่ยกับเวินเหวินซง “เมื่อครู่นี้เฉินหู่บาดเจ็บแล้วขอรับ”
“เหตุใดจึงบาดเจ็บ?” เวินเหวินซงขมวดคิ้ว
“ตกลงมาจากด้านบนระหว่างกำลังตรวจงานขอรับ บาดเจ็บสาหัส”
“บังเอิญเพียงนี้เลยหรือ?” เวินเหวินซงมองมู่ซืออวี่ “พวกเรากำลังจะจัดการเขา เขาก็ตกลงมาได้รับบาดเจ็บสาหัส อีกทั้งยังบาดเจ็บในบริเวณก่อสร้าง เราคงจัดการยากแล้ว”
มู่ซืออวี่ก็คิดว่านี่บังเอิญเกินไปแล้ว
หากมีคนจงใจลงมือกับนางหนักเช่นนี้ ก็ช่างเป็นตัวละครที่ร้ายกาจจริง ๆ
“ในเมื่อเขาได้รับบาดเจ็บ เช่นนั้นพวกเราก็ไปเยี่ยมเขาสักหน่อย” มู่ซืออวี่ลุกขึ้น “ไปเถอะ พวกเราไปดูนายช่างฝีมือยอดเยี่ยม ผู้อุทิศตนทุ่มเทให้กับงานคนนี้กัน”
ในเพิงพักอาศัยชั่วคราว หน้าทางเข้ามีคนมุงอยู่ไม่น้อย
เมื่อมู่ซืออวี่และคนอื่น ๆ มาถึง พวกเขาก็ได้ยินเสียงแหบแห้งโอดครวญขึ้นมาพอดี “สามี เช่นนี้จะทำอย่างไรดี ท่านเป็นเสาหลักของครอบครัวเรา หากท่านล้มลงเช่นนี้จะทำอย่างไรดี”
“พี่สะใภ้ ท่านอย่าร้อนใจไป พี่ใหญ่บาดเจ็บเพราะการทำงาน ใต้เท้าย่อมไม่เมินเฉยอย่างแน่นอน”
“ใช่แล้ว พี่ใหญ่กลายมาเป็นเช่นนี้เพราะทำงาน หากจวนว่าการไม่สนใจไยดี พวกเราย่อมเป็นคนแรก ๆ ที่ไม่ยินยอม”
“พวกเจ้าอย่าทะเลาะกัน หากเล่าลือออกไปคงอับอายพวกใต้เท้าแล้ว” เฉินหู่เอ่ยอย่างไร้เรี่ยวแรง “ภรรยา เจ้าไม่ต้องร้องไห้แล้ว ข้าได้รับบาดเจ็บเพราะการทำงาน ถึงแม้ตลอดชีวิตนี้ข้าจะลุกขึ้นไม่ได้อีก มันก็คุ้มค่าแล้ว”
มู่ซืออวี่และเวินเหวินซงมองหน้ากันด้วยสีหน้าว่างเปล่า
ดูเหมือนเฉินหู่ผู้นี้จะคุ้นเคยกับการเอาชนะใจผู้อื่น
เมื่อได้ยินคำพูดของเขา คนที่ออกันอยู่หน้าประตูก็ดูเหมือนจะคล้อยตาม ดูออกเลยว่ารู้สึกเห็นใจเขาขึ้นมาแล้ว
หากครั้งนี้เฉินหู่ถูกจับไปไต่สวน ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตามแต่ คนทั่วไปย่อมคิดว่าศาลาว่าการเห็นว่าเขาใช้การไม่ได้ จงใจใช้โอกาสนี้มากดขี่เขา
“อะแฮ่ม! เฉินหู่ ฮูหยินลู่มาเยี่ยม” เวินเหวินซงตะโกนอยู่ด้านนอกประตู
สตรีในชุดเสื้อผ้าเก่ามอซอนางหนึ่งเดินออกมาจากข้างใน
นางปาดน้ำตาแล้วทำความเคารพมู่ซืออวี่หนึ่งครั้ง “คารวะฮูหยินลู่”
“รีบลุกขึ้น” มู่ซืออวี่เอ่ยเสียงเรียบ
“ฮูหยินลู่ ที่นี่คับแคบ เกรงว่าจะทำให้ท่านคับข้องใจแล้ว”
“ไม่เป็นไร เพียงแค่ที่พักชั่วคราวเท่านั้น นี่ไม่ใช่บ้านพวกเจ้า เพียงพอต่อการนอนหลับก็ใช้ได้แล้ว”
คับแคบ? ที่นี่เป็นเพียงที่พักที่นางให้คนสร้างขึ้นมาในระยะสั้น ๆ บอกว่าที่นี่คับแคบเช่นนี้ ไม่ใช่ทำให้คนคิดว่านางตระหนี่ถี่เหนียวหรอกหรือ?
“ได้ยินว่านายช่างเฉินได้รับบาดเจ็บแล้ว” มู่ซืออวี่ไม่รีบร้อนเข้าไป เพียงยืนคุยกับภรรยาของเฉินหู่อยู่ที่ประตู “ท่านหมอมาแล้วหรือยัง?”
“มาแล้วเจ้าค่ะ” ฮูหยินเฉินปาดน้ำตาอีกครั้ง “บาดเจ็บที่สะโพก เกรงว่าอนาคต…”
“ท่านหมอว่าอย่างไร?”
“ท่านหมอบอกว่า…” ฮูหยินนำคำพูดของ ‘ท่านหมอ’ มาอธิบายให้ฟังตั้งแต่ต้นจนจบ “สามีที่น่าเวทนาของข้า ไม่รู้ว่าอนาคตยังจะลุกออกจากเตียงได้อีกหรือไม่”
“นี่ไม่ใช่สถานที่ที่เหมาะสำหรับการพักฟื้น” มู่ซืออวี่เอ่ย “นักการ พานายช่างเฉินไปพักฟื้นศาลาว่าการ”
ฮูหยินเฉินตกตะลึง “ที่… ศาลาว่าการหรือ?”
“ไม่ผิด” มู่ซืออวี่มองฮูหยินเฉินด้วยความจริงใจ “นายช่างเฉินได้รับบาดเจ็บเพราะทำงานให้ศาลาว่าการ พวกเราย่อมต้องรับผิดชอบ แทนที่จะต้องเป็นกังวลทุกวัน รับการดูแลจากศาลาว่าการ ค่อย ๆ พักฟื้นให้ดีน่าจะดีกว่า”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุเข้ามาเป็นวายร้าย
กำลังสนุกเลยค่ะ ขอบคุณแอดที่ลงให้อ่านนะคะ แต่ถ้าลงวันละ 10 ตอนจะดีมากเลยค่ะ รออ่านอยู่นะคะ...
รออ่านบทต่อไปค่ะ...