ทะลุเข้ามาเป็นวายร้าย นิยาย บท 484

“องค์ชายห้า” ลู่อี้ประกบมือค้อมคำนับ

“รถม้าของพวกเขาอยู่ข้างหลัง ใต้เท้าลู่วางใจได้ ไม่นานก็ถึงแล้ว” ฟ่านเหยี่ยนมองความกระวนกระวายของอีกฝ่ายออก

“เหตุใดจึง…”

“พวกเราพบกองคาราวานเมื่อครึ่งชั่วยามก่อน รถม้าของพวกเขาติดหล่ม ล้อแตก ฮู่หยินลู่จึงคอยช่วยอยู่ที่นั่น แต่ใต้เท้าลู่วางใจเถิด คาราวานนั้นเป็นของตระกูลฉิน คนคุ้นเคยกันน่ะ”

เดิมทีลู่อี้รู้สึกเป็นห่วง ทว่าเมื่อได้ยินคำพูดของฟ่านเหยี่ยน ความกังวลของเขาก็เลือนหายไป

“ไม่พบกันสองปี องค์ชายโตขึ้นมาก” ลู่อี้เอ่ย “ในเมื่อองค์ชายกลับมายังเมืองหลวงแล้ว ข้าจะส่งคนคุ้มครองท่านกลับพระราชวัง ฝ่าบาทและเหนียงเหนียงจะได้ไม่ต้องเป็นกังวล”

“ไม่รีบร้อน ๆ ข้าจะไปที่บ้านท่านตาเสียก่อน” ฟ่านเหยี่ยนเกรงว่าลู่อี้จะเอ่ยอะไรมากความ จึงรีบเปลี่ยนเรื่อง “ในเมื่อภารกิจส่งสารของข้าเสร็จแล้ว เช่นนั้น ข้าจะล่วงหน้าไปก่อน ส่วนรถม้าจะส่งคืนตระกูลลู่ทีหลัง”

มือข้างหนึ่งยื่นออกมาจากรถม้า จากนั้นใบหน้างดงามราวบรรจงปั้นก็ปรากฏขึ้น คนผู้นั้นพยักหน้าให้ลู่อี้ แล้วปิดม่านลง

“คนเมื่อครู่นี้… ดูเหมือนจะเป็นบุตรชายคนรองของเสนาบดีเจียง” เซี่ยคุนเอ่ยกับลู่อี้ “ไม่นานมานี้ เสนาบดีเจียงเพิ่งปะทะกับเจียงเก๋อเหล่า เขาถูกคนของเจียงเก๋อเหล่าใช้สารพัดวิธีข่มไว้ สถานการณ์ของเสนาบดีกรมกลาโหมตอนนี้ไม่สู้ดีนัก”

หลังจากฟ่านเหยี่ยนไปแล้ว ลู่อี้และเซี่ยคุนรออยู่อีกพักหนึ่ง ไม่นานนัก ขบวนใหญ่โตก็เคลื่อนมาถึง

“ท่านพ่อ!… ท่านพ่อ!…” เสี่ยวอวิ๋นเอ๋อร์นั่งอยู่ติดหน้าต่างรถม้า ตะโกนมาทางลู่อี้ “ท่านพ่อ!…”

สายตาของลู่อี้อ่อนโยนลง เขาเฝ้ามองร่างภรรยาและลูก ๆ ของตนค่อย ๆ ปรากฏผ่านสายตา ขณะเดียวกันก็รู้สึกว่าหัวใจที่ว่างเปล่าได้รับการเติมเต็มแล้ว

ทันทีที่รถม้าหยุดลง ลู่จื่ออวิ๋นก็รุดเข้ามาหาบิดา

ลู่อี้เอื้อมมือออกไปรับนางไว้ อุ้มลู่จื่ออวิ๋นขึ้นมา

“เสี่ยวอวิ๋นเอ๋อร์” ลู่ฉาวอวี่ลงจากรถม้า “เจ้าโตถึงเพียงนี้ เหตุใดยังกระโดดเข้าหาอ้อมกอดท่านพ่ออีก? วันนี้แล้วไป แต่ภายหน้าไม่อนุญาตให้ทำแล้ว”

ลู่ฉาวอวี่อยู่ในช่วงเสียงแตก เสียงของเขาจึงฟังดูแปร่ง ๆ เล็กน้อย วัยนี้เป็นช่วงเวลาที่อ่อนไหวที่สุดสำหรับเด็กชาย ปกติเด็กชายคนอื่น ๆ มักอายเมื่อเสียงแตกหนุ่ม ทว่าลู่ฉาวอวี่กลับดูปกติ ไม่ได้รับผลกระทบใด ๆ จากความเปลี่ยนแปลงนี้แม้แต่น้อย

เขามายืนอยู่ตรงหน้าลู่อี้ จากนั้นค้อมคำนับอย่างสุขุม “ท่านพ่อ”

“ดีมาก” ลู่อี้ตบลงบนบ่าของลูกชาย “สูงใหญ่ขึ้น อีกทั้งยังแข็งแกร่งขึ้นแล้ว”

เซี่ยคุนที่อยู่ข้าง ๆ เอ่ยว่า “ดูเหมือนเขาจะเคร่งครัดอยู่เสมอ”

“สิ่งที่ท่านลุงเซี่ยสอน ข้าไม่เคยลืมแม้แต่วันเดียว” ลู่ฉาวอวี่กล่าว

มู่ซืออวี่อุ้มลู่จื่อชิง นางค่อย ๆ เดินลงมาจากรถม้า

ลู่อี้รับลู่จื่อชิงมาจากอ้อมแขนของภรรยา จากนั้นก็เอื้อมมือออกไปกอดนาง

“พวกท่านคงรอนานแล้ว”

“ไม่นาน” ลู่อี้กล่าว “นอกจากนี้ ไม่ว่าจะต้องรอนานพียงใดก็ควรรอ ฮูหยินเดินทางมาครั้งนี้ลำบากแล้ว ข้าให้บ่าวรับใช้เตรียมน้ำร้อนไว้ อาบน้ำเสียก่อนค่อยทานอาหารทีหลังเถิด”

ลู่อี้พาทุกคนกลับไปยังจวนของตน

จวนตระกูลลู่ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี

มู่ซืออวี่ชมท่านลุงหลินป๋อสองสามคำ ฝ่ายหลังยิ้มแย้มเสมือนเด็ก ๆ

เมื่อมู่ซืออวี่ออกมาจากห้องอาบน้ำ นางก็เห็นว่าลู่จื่ออวิ๋นและลู่ฉาวอวี่อยู่ในห้อง ส่วนลู่จื่อชิงกำลังหลับอยู่ในเปลใหม่ ใบหน้าเล็กน่ารักของนางมีรอยนิ้วมือสีแดงอยู่บนนั้น มองแวบเดียวก็บอกได้ว่าผู้ใดเป็นคนจิ้ม

ลู่ฉาวอวี่ไม่เคยจับตัวคนอื่น ส่วนลู่จื่ออวิ๋นแม้ชอบเล่นกับน้องเป็นประจำ ทว่าเด็กหญิงจะมีแรงมากเพียงใดกัน ปกติแล้วนางเพียงจิ้มแก้มย้วย ๆ นั่นเพื่อความสนุก ผู้ร้ายจึงเป็นใครไปไม่ได้นอกจากลู่อี้

ลู่อี้สังเกตเห็นสายตาดุ ๆ ของมู่ซืออวี่ก็รู้สึกผิด

เด็กหญิงตัวน้อยรู้จักเรียกพ่อแล้ว แต่นางนอนหลับตลอดตั้งแต่ลงมาจากรถม้า เขาอยากได้ยินนางเรียกว่าพ่อ เมื่อเห็นว่าเจ้าตัวเล็กหลับได้น่ารักเพียงนี้ จึงอดที่จะจิ้มแก้มไปทีสองทีไม่ได้ ผู้ใดจะรู้เล่าว่าผิวหนังของเด็กจะบอบบางเช่นนี้?

“แอ้… แอ้…” ลู่จื่อชิงตื่นแล้ว

นางยังพูดได้ไม่ชัดนัก เสียงที่เปล่งออกมาจึงแปลก ทว่าน่ารักเป็นอย่างมาก แม้แต่พี่ชายหน้าตาเย็นชาของนางก็ดูโอนโยนขึ้นหลายส่วนยามมองน้องสาวคนเล็ก

ลู่จื่อชิงเอื้อมมือออกไปคว้าซี่เปลไม้และค่อย ๆ พยุงตัวเองขึ้น

“น้องหญิงตื่นแล้ว” ลู่จื่ออวิ๋นอุ้มนางออกมา

เสี่ยวชิงเอ๋อร์ดิ้นจนผู้เป็นพี่ซวนเซ นางขยุกขยิกตัวอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงดิ้นลงมานั่งกับพื้น

ศีรษะที่ประดับเขาแพะน้อย ๆ สองอัน และดวงตากลมโตคู่นั้นเงยหน้าขึ้นมองลู่อี้ ทำเอาบุรุษแข็งกระด้างอ่อนโยนลงง่าย ๆ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุเข้ามาเป็นวายร้าย